Skip to main content

สวัสดีค่ะ 🤗

หลังจากไม่ได้เขียนอะไรถึงโทโมริรุมาสักพักใหญ่ๆ ครั้งนี้เราจะมาเขียนบทความไว้เพื่อรวบรวม Playlist ของเพลงที่โทโมริรุเปิดในรายการ Kusunoki Tomori The Music Reverie นะคะ และถึงเป้าหมายหลักของบทความจะเป็นการรวบรวมเพลงที่เปิดในรายการแต่ก็อาจจะมีสรุปเรื่องราวที่โทโมริรุพูดในรายการแต่ละตอนเท่าที่เราจะฟังรู้เรื่องเช่นกันค่ะ (ส่วน URL ไปยังตัวเพลงจะเน้นไปที่ YouTube หรือ Spotify เป็นหลักนะคะ)

บางคนอาจจะยังสงสัยว่า Kusunoki Tomori The Music Reverie นี่เป็นรายการอะไรกันนะ? เราก็จะมาแนะนำรายการแบบคร่าวๆ ก่อนเลยแล้วกันค่ะ รายการนี้เป็นรายการวิทยุแนว Talk & Music ความยาว 1 ชั่วโมงที่โทโมริรุจะมาพูดทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แล้วก็เรื่องเกี่ยวกับดนตรีซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าตัวชอบมาก ซึ่งเราจะได้ฟังเพลงหลากหลายแนวตามโทโมริรุกันในรายการนี้ค่ะ ออกอากาศทุกวันศุกร์ในช่วงเวลา 1.00 – 2.00 (JST) ทาง Bunka Housou ค่ะ สามารถฟังออนไลน์ได้ทาง Radiko (ไทยต้องใช้ VPN นะคะ)

โดยในรายการจะมีช่วง Tomori Selection ที่โทโมริรุจะเลือกเพลงมาเปิดตามหัวข้อในตอนนั้นๆ ค่ะ ซึ่งเปิดให้คนฟังสามารถส่งหัวข้อที่ต้องการไปให้โทโมริรุเลือกเพลงได้ด้วยนะคะ แล้วยังมีช่วงที่ทำให้แฟนๆ ต้องแย่งกันได้รับเลือกอย่าง Tomori Call ที่จะให้คนฟังได้คุยโทรศัพท์กับโทโมริรุแบบสดๆ ด้วยค่ะ ซึ่งจะมีเรื่องอะไรอยากจะปรึกษา อยากจะถาม หรือแค่อยากจะบอกโทโมริรุก็ได้ค่ะ โดยทุกคนสามารถติดตาม Official Twitter เพื่อตามข่าวของรายการนี้ได้ที่ @tomori_tmr และถ้าใครได้ฟังรายการแล้วอยากจะทวีตความรู้สึกสามารถติดแฮชแท็ก #ktmr ของรายการไว้ในทวีตได้ค่ะ


หลังจากที่ได้แนะนำรายการแบบคร่าวๆ ไปให้สมกับที่เป็นบทความตอนแรกแล้ว งั้นเรามาเริ่มกับตอนแรกของรายการที่ได้ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 03/04/2020 กันเลย

KTMR#01 in Brief

ช่วง Opening

เปิดรายการมาด้วยเพลง Nagame no Sora ที่เจ้าตัวเป็นคนแต่ง โทโมริรุบอกว่าตื่นเต้นกับการออกอากาศตอนแรกในระดับไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนี้มานานแล้ว เพลงถัดมาที่เลือกเปิดคือ Crow Song (Yui version) เพราะตัวโทโมริรุชอบคุณ LiSA ที่เป็นคนร้องเพลงนี้มาก รวมถึงอนิเมเรื่อง Angel Beats! ครบรอบ 10 ปีด้วย หลังจากจบเพลงโทโมริรุก็แนะนำตัวให้ผู้ฟังที่อาจจะมาฟังยังไม่เคยรู้จักว่า คุสุโนกิ โทโมริ เป็นใคร เริ่มจากเกิด “หนึ่งเก้าเก้าเก้าหนึ่งสองสองสอง” (22 ธ.ค. 1999) เป็นนักพากย์ งานอดิเรกคือการวาดรูป เล่นอินเทอร์เน็ต หาศิลปินใหม่ๆ ฟังเพลง ความสามารถพิเศษเป็นการวาดรูปแบบเซ็นแทงเกิล แล้วก็ยกผลงานการพากย์อนิเมของตัวเองมานิดหน่อย[1]

แล้วเสริมเกี่ยวกับว่ารายการนี้เป็น Talk & Music เพราะเจ้าตัวเป็นคนชอบเรื่องดนตรีมากๆ ฟังเพลงหลากหลายแนว ก็จะมีทั้งเพลงที่อยากให้ทุกคนได้ฟัง ได้รู้ว่าปกติแล้วตัวโทโมริรุเองฟังเพลงอะไรบ้างนะ หรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องศิลปินต่างๆ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับคนรอบๆ (ตรงนี้โทโมริรุขำแห้งนิดๆ ฮา) ก็มีไปเที่ยวกับพวกนักพากย์จากเรื่อง GGO ไม่นานมานี้ก็มีสัญญาว่าจะไปดื่มชาด้วยกันกับคุณซุสุชิโระ ซายูมิ[2] และ คุณสุกานุมะ จิสะ[3] แล้วก็พวกเพื่อนๆ นักพากย์กลุ่มเดียวกันจากเลิฟไลฟ์ก็ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตชาวเกาะ[4]ด้วยกันอยู่ โทโมริรุบอกว่าตอนนี้อยู่ในช่วงรวบรวมเพื่อนค่ะ ฮา

ส่วนใครสนใจอ่านประวัติของโทโมริรุมากกว่านี้ลองไปอ่านบทความนี้ได้นะคะ (อัปเดตถึงปี 2018)

ช่วงอ่านจดหมาย

ในตอนนี้ส่วนมากคนฟังก็จะส่งมาเพื่อแสดงความยินดีกับรายการตอนแรก ซึ่งก็มีคนทักถึงคำว่า Reverie ในชื่อรายการที่แปลว่า ความเพ้อฝัน ห้วงความคิด โทโมริรุเลยอธิบายว่าชื่อรายการอ่านว่า มิวสิกเรเวรี โดยไม่อ่านออกเสียง เดอะ ซึ่งชื่อรายการนี้เจ้าตัวเป็นคนคิดเองค่ะ คิดมาจากตัว T M R ในชื่อ To-Mo-Ri แล้วก็ได้เป็น The Music Reverie นั่นเอง

คำถาม: เวลานี้ (ตี 1) ปกติทำอะไรอยู่
โทโมริรุตอบว่าโดยส่วนมากจะตื่นอยู่ ปกติไม่ได้ทำอะไรจริงจังดูทีวี เล่นมือถือ กลิ้งไปมา ถ้าช่วงนี้ก็จะใช้ชีวิตบนเกาะ

คำถาม: ชื่อที่อยากให้ใช้เรียกในรายการนี้
ในรายการนี้เพื่อให้เหมาะกับฟีลดึกๆ เจ้าตัวเลือก “โทโมริซัง” ค่ะ (ต่อจากนี้ไปในบทความของ KTMR จะเรียกโทโมริซังแล้วนะคะ ฮา)

คำถาม: เพลงที่โทโมริซังแต่งเองได้รับอิทธิพลว่าจากศิลปินคนไหน
เจ้าตัวบอกว่าฟังเพลงหลากหลายแนวมากๆ จากทั้งคุณพ่อคุณแม่รวมถึงพี่สาวที่ชอบเรื่องดนตรีมากๆ แล้วก็ยังชอบฟังเพลงเกม อนิเม เลยไม่รู้ว่าได้รับอิทธิพลมาจากใครบ้าง

คำถาม: ซีดีแผ่นแรกที่ซื้อคืออะไร
แผ่นแรกที่โทโมริซังซื้อด้วยเงินตัวเองอาจจะน่าแปลกใจแต่เป็นแผ่น Miso Soup ของ Tegomass ตอนสมัยยังอยู่ประถมค่ะ ช่วงหลังๆ จะฟังเป็นสตรีมมิ่งมากกว่า และด้วยความเป็นคนชอบฟังเพลงที่ไม่ได้สดใสมากเลยฟังเพลงของ Sayuri กับ Haruka to Miyuki ส่วนช่วงหลังๆ ชอบฟังเพลงแนว Ambient แล้วก็จบช่วงนี้ด้วยเพลง Eien no Fuzai Shomei ของ Tokyo Jihen วงที่มีคุณชีนะ ริงโกะที่เจ้าตัวชอบค่ะ

ช่วง Tomori Selection

ในตอนนี้เป็นหัวข้อ “เพลงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกร่าเริง” ค่ะ ซึ่งเจ้าตัวได้เลือกมา 4 เพลง

  • Earth, Wind & Fire – September เพลงนี้เพิ่งคุยกับพี่สาวตอนวันก่อนมาจัดรายการว่าแค่ฟังอินโทรเพลงก็ทำให้รู้สึกมีสดใสขึ้นแล้ว ถึงจะเป็นเพลงเดือน 9 ไม่ใช่เดือน 4 ก็เถอะ ฮา โดยเพลงนี้โทโมริซังได้ฟังครั้งแรกจากคุณพ่อตั้งแต่ตอนไหนก็จำไม่ได้แล้วค่ะ
  • Official HIGE DANdism – Clap Clap เพลงนี้เนื้อเพลงก็เป็นการให้กำลังใจแถมดนตรีก็สนุกเวลาฟังคงจะทำให้ทุกคนรู้สึกร่าเริงได้
  • The Offspring – All I Want เพลงนี้จังหวะรุนแรงทำให้รู้สึกสนุกได้ค่ะ เจ้าตัวฟังเพลงนี้ครั้งแรกจากเกม Crazy Taxi
  • L’Arc-en-Ciel – New World โทโมริซังคิดว่าทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเพลงนี้อาจจะมาเพราะเจ้าตัวชอบวงลาร์คมากค่ะ ถึงขั้นไปดูคอนเสิร์ตมาด้วย แล้วยังบอกให้ทุกคนมาฟังเพลงของลาร์คกันเถอะด้วย ฮา

ช่วง Tomori Call

มีคนฟังส่งมาบอกว่า #ktmr ติดเทรนของทวิตเตอร์ที่ญี่ปุ่นค่ะ แล้วก็มีคนแนะนำให้ทำ Playlist เพลง ซึ่งโทโมริซังก็เห็นด้วยแล้วคุยกับทีมงานว่าอัปโหลด Playlist ลงในทวิตเตอร์อะไรแบบนี้ก็ได้ เพราะมีแต่เพลงที่แนะนำให้ทุกคนฟังทั้งนั้นเลยล่ะ แล้วก็เข้าช่วงที่ให้คนฟังได้โทรคุยกับโทโมริซัง เจ้าตัวบอกว่าเคยได้โทรคุยสดๆ ออกรายการครั้งนึง แต่จะเรียกว่าคุยก็ไม่ใช่เพราะเป็นการแสดงบทตัวละครมากกว่า[5] ส่วนที่คุยกันสบายๆ แบบนี้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลย

คนแรกเป็นผู้ชายที่บอกว่าตัวเองกำลังจะมีลูกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แล้วเขาอยากให้ลูกของเขาเป็นเหมือนโทโมริซัง อยากรู้คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงมายังไงค่ะ เจ้าตัวหัวเราะแล้วบอกว่าถ้ามีลูกแบบฉันลำบากแย่เลยนะคะ ส่วนเรื่องที่ทำอะไรหลายๆ อย่างโทโมริซังยกให้เป็นเพราะการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ พวกท่านชอบชมเวลาทำอะไรต่างๆ อย่างตอนเด็กเวลาวาดรูปไปอวดก็จะชมว่าเก่งจัง สุดยอดไปเลย ทำให้รู้สึกว่าเราเก่งนะแล้วถ้าเราทำแบบนี้นี่มันสุดยอดเลยนะ ก็เลยพยายามทำสิ่งนั้นให้ดีขึ้นไป เลยแนะนำว่าให้ชมลูกเพราะเด็กๆ อ่านสีหน้าบรรยากาศของผู้ใหญ่มากกว่าที่พวกเราคิดไว้ค่ะ จากนั้นคนนี้ก็ถามว่าถ้าโทโมริซังมีลูกจะเลี้ยงลูกยังไง เจ้าตัวคิดนิดหน่อยบอกว่าเป็นการจินตนาการถึงอนาคตที่ไกลมากเพราะตอนนี้เพิ่งอายุ 20 เอง คำตอบก็คือถึงจะอยากให้ลูกได้มีอาชีพที่มั่นคงแต่ก็อยากให้ลูกได้ลองทำอะไรที่ตัวเองอยากทำดูก่อน แทนที่จะค้านไปทั้งหมดค่ะ

คนที่สองเป็นเด็กผู้หญิงม.ปลายค่ะ ซึ่งโทรมาคุยกันเรื่องเครื่องสำอางค์ คนที่โทรมาบอกว่าชอบเครื่องสำอางค์ที่โทโมริซังเคยแนะนำในทวิตเตอร์ อยากให้แนะนำเครื่องสำอางค์ให้ค่ะ ซึ่งเราผู้ไม่เชี่ยวชาญถึงช่วงนี้ก็สมองโล่งไปแล้ว ลงท้ายที่โทโมริซังถามน้องผู้หญิงว่าเด็กม.ปลายสมัยนี้ใช้เครื่องสำอางค์อะไรกันแล้วสายก็ตัดไป เจ้าตัวเลยตบมุขว่าถ้าถามแล้วจะจบเหรอคะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไงดี ฮา (น้องผู้หญิงคนนี้มาทวีตด้วยว่าทำพลาดตัดสาย อยากแก้มือใหม่อีกรอบจัง) จากนั้นก็จบช่วงนี้ด้วยเพลง Zeitakuna Iiwake ของ PASSEPIED ที่ได้ฟังสมัยอยู่ม.ต้นค่ะ

ช่วง Studio Live

มีแขกรับเชิญพิเศษเป็นคุณทาดะ มิทสึฮิโระที่เป็นวอยซ์เทรนเนอร์และหัวหน้าวงดนตรีเวลาโทโมริซังแสดงไลฟ์ด้วยค่ะ ทั้งสองคนได้เจอกันครั้งแรกตั้งแต่สมัยโทโมริซังไปออดิชัน และเจ้าตัวบอกว่าคุณทาดะเป็นคนที่เข้าใจตัวเองว่าชอบเพลงแนวไหนเวลาเรียบเรียงทำนองเพลงที่ตัวเองแต่งออกมาได้ตามที่คิดไว้ ซึ่งคุณทาดะก็ได้แซวว่าตอนเจอกันครั้งแรกดูเป็นเด็กขี้อายไม่คิดว่าจะแต่งเพลงแปลกขนาดนี้ ที่พูดถึงคือเพลงที่มีการเปลี่ยนจังหวะของเพลงบ่อยๆ มีจังหวะแปลกๆ อะไรแบบนี้ค่ะ (น่าจะเพลง Romanron) โดยในบรรดาเพลงที่โทโมริซังแต่งคุณทาดะประทับใจเพลง Clover[6] ที่สุด มันแทงเข้าไปในความรู้สึกดี จนคุณทาดะเรียกโทโมริซังว่าเป็นอัจฉริยะตัวน้อยเลยล่ะ ส่วนตัวของโทโมริซังเพลง Nagame no Sora เป็นเพลงที่ประทับใจที่สุดเพราะเป็นเพลงแรกที่ตัวเองแต่ง คุณทาดะเสริมว่าเพลงนี้โทโมริซังแต่งเร็วมากๆ หลังจากที่เอาเนื้อเพลงมาให้ดูแล้วบอกว่าจะแต่งเมโลดี้ด้วย ไม่นานก็นำโน้ตเพลงมาให้คุณทาดะค่ะ เจ้าตัวบอกว่าเพลงที่ตัวเองแต่งหลังๆ ก็แปลกขึ้นเรื่อยๆ แถมไม่ได้ทำโน้ตเพลงอีกเลยรู้สึกทั้งขอบคุณและขอโทษคุณทาดะ ซึ่งคุณทาดะก็ตอบว่าอยากให้โทโมริจังทำงานออกมาตามใจตัวเองต่อไป จากนั้นก็เข้าช่วงร้องเพลงสดๆ ที่คุณทาดะเป็นคนเล่นคีย์บอร์ดให้ค่ะ ซึ่งร้อง Boku no Miru Sekai, Kimi no Miru Sekai กับ Akatoki จากเพลงที่โทโมริซังเป็นคนแต่ง โดยแอคเคาท์ทวิตเตอร์ของรายการได้อัปคลิปวีดีโอตอนร้องเพลงไว้สั้นๆ ด้วยค่ะ



พูดถึงเพลง Akatoki แล้ว เพลงนี้เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบัม STROKE ที่ขายหน้าไลฟ์ของโทโมริซังค่ะ ส่วน Boku no Miru Sekai, Kimi no Miru Sekai เพิ่งถูกนำมาทำ Lyric Video แล้วอัปโหลดไว้บน Official YouTube Channel ของโทโมริซังค่ะ

(ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง Boku no Miru Sekai, Kimi no Miru Sekai ได้ทางนี้ค่ะ)

จากนั้นก็เข้าช่วง Ending พร้อมเปิดเพลง Akatoki แบบ Instrumental ซึ่งโทโมริซังก็ฝากทุกคนดู Yu-Gi-Oh! Sevens ที่กำลังออกอากาศ พร้อมปิดรายการว่าเจอกันใหม่อาทิตย์หน้าค่ะ

KTMR#01 Playlist

YouTube Playlist

เพลงที่ไม่มีใน Playlist

เพลงที่เปิดในรายการ

M1. Kusunoki Tomori - Nagame no Sora
M2. LiSA - Crow Song (Yui version)
M3. Tokyo Jihen - Eien no Fuzai Shomei
M4. PASSEPIED - Zeitakuna Iiwake

Tomori Selection (เพลงที่ฟังแล้วร่าเริง)

1. Earth, Wind & Fire - September
2. Official HIGE DANdism - Clap Clap
3. The Offspring - All I Want
4. L'Arc-en-Ciel - New World

เท่านี้ก็จบแล้วค่ะ สำหรับบทความของรายการ Kusunoki Tomori The Music Reverie ตอนที่ 1 จริงๆ แล้วคุณทาดะได้มีเขียนบล็อกความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อโทโมริซังเอาไว้หลังจากมาออกรายการนี้ด้วยค่ะ ถ้ามีโอกาสจะนำมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านนะคะ สำหรับคราวนี้ก็ขอให้แสงไฟได้ถูกจุดขึ้นในหัวใจของทุกคนอย่างที่โทโมริรุหวังไว้นะคะ ไว้เจอกันใหม่ในตอน 2 หรือบทความอื่นๆ ค่ะ 🌟


KTMR#01 Footnote

[1] – Kagimura Hazuki จาก Maerchen Maedchen
– LLENN จาก Sword Art Online Alternative Gun Gale Online
– Tatejima Kotetsu จาก Anima Yell!
– Melida Angel จาก Assassins Pride
– Kirishima Romin จาก Yu-Gi-Oh! Sevens

[2] ซุสุชิโระ ซายูมิกับโทโมริรุทำงานร่วมกันในผลงานดราม่าซีดีและรายการวิทยุของนิยาย Tomodachi no Imouto ga Ore ni dake Uzai

[3] สุกานุมะ จิสะกับโทโมริรุทำงานร่วมกันในชื่อวง B.A.C จากเกม 8 beat Story แล้วโทโมริรุยังไปเป็นแขกรับเชิญในรายการเดี่ยวของคุณจิสะด้วย

[4] ชีวิตชาวเกาะ หมายถึงเล่นเกมยอดฮิตในเวลานี้ของเครื่อง Nintendo Switch เกม Animal Crossing: New Horizons นั่นเอง

[5] ในรายการถ่ายทอดสดของเลิฟไลฟ์ตอนประกาศผลตัวละครที่ได้เป็นเฮดไลน์เนอร์สำหรับไลฟ์ครั้งแรกของกลุ่มนิจิกาคุซึ่ง ยูกิ เซ็ตสึนะ ที่โทโมริรุพากย์ได้ที่ 1 เลยมีการโทรมาสัมภาษณ์ความรู้สึกกันในรายการ

[6] เพลงนี้อยู่ในอัลบัม bottled-up ที่ขายในไลฟ์ Scene of Light ของโทโมริรุ มีให้สั่งออนไลน์ด้วยแต่ตอนนี้หมดอยู่ เนื้อหาเพลงเกี่ยวกับความรู้สึกที่โดนรังแกในโรงเรียนโดยนำเรื่องราวมาจากทั้งประสบการณ์ที่โดนแกล้งของตัวเองสมัยม.ต้น ฟังจากเรื่องราวของเพื่อนๆ บ้าง เห็นจากในข่าวบ้าง มารวมๆ กัน และอยากให้ทุกคนที่โดนกลั่นแกล้งมีกำลังใจที่จะผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไปได้ค่ะ (เคยพูดถึงเพลงนี้แบบยาวๆ ไว้ถ้ามีโอกาสจะนำมาเขียนให้ได้อ่านกันค่ะ)

คอมเมนต์กัน!