ซีรีส์ “ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์” ที่บอกเล่าการเดินทางไปญี่ปุ่นของพวกเราในคราวนี้นั้น..เรียกได้ว่ามีบทความนี้และบทความหน้าเป็นเมนดิชกันเลยเชียว เพราะเป็นวันที่มีไลฟ์ยังไงหละ!! มาเข้าเรื่องบันทึกของวันนี้กันต่อเลยดีกว่า สำหรับตอนอื่นๆติดตามอ่านได้ในสารบัญ
สารบัญ: ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
คลิกเพื่อดูสารบัญบทความ
ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
วันดูไลฟ์วันแรก – 14 พฤษภาคม 2016
ผ่านไป 1 คืนที่ญี่ปุ่น ห้องนอนของพวกเราที่จิบะนี้แม้ว่าจะแคบแต่ก็นอนได้ดีไม่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังใดๆ (หลับเป็นตาย) ที่น่ามหัศจรรย์คือตื่นมาตั้งแต่ตี 5
.
.
.
ตื่นมาทำไมตี 5 (?) อ้อใช่แล้วจริงๆพวกเราต้องไปต่อคิวเพื่อรอซื้อสินค้าหน้าไลฟ์กันนี่เอง และหนักกว่านั้นคือ ตี 5 ที่ญี่ปุ่นนี่แสงแจ้มาก สว่างคาตา อยากนอนก็นอนไม่หลับหรอกคุณ
ย้อนความกันก่อน พวกเราวันนี้จะไปดูคอนเสิร์ต “ライブ ミルキィホームズ 総天然色祭 (ไลฟ์มิลกี้โฮล์มสฟูลคัลเลอร์มัตซึริ)” ซึ่งจัดในวันที่ 14 – 15 พฤษภาคม 2016 ณ มาคุฮาริเมสเสะ (Makuhari Messe, 幕張メッセ) จังหวัดจิบะ
สำหรับผู้ที่ไม่เก็ตว่ามิลกี้โฮล์มสเป็นวงแบบไหนลองย้อนไปอ่านตอนที่ 1 กันดู (ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์: กว่าจะถึงจิบะ)
โดยวิธีการเดินทางก็มีหลายวิธีด้วยกัน หลักๆแล้วก็ประมาณนี้
- สำหรับผู้ที่มาจากโตเกียว: มักจะมาลงที่สถานีรถไฟ JR ไคฮินมาคุฮาริ (JR Kaihin-Makuhari) ด้วยเคย์โยไลน์ (Keiyo Line)
- หรือสำหรับอื่นๆ (เช่นพวกเรามาจากในตัวเมืองจิบะ): ลงที่ สถานีรถไฟเคย์เซย์มาคุฮาริฮองโก (Keisei Makuhari-Hongo) แล้วต่อรถบัสเอา
ไหนๆก็เป็นการเขียนรีพอร์ทถึงไลฟ์แล้วพวกเราก็ขอรีวิววิธีการเดินทางจากวิธีสอง (จากฟุนาบาชิ ที่พักของพวกเรา) เอาไว้ในที่นี้เลยละกัน แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าวันนี้ไม่มีรูปจากกล้องดิจิตอลที่ดีเลย เพราะกลัวว่าจะมีปัญหาตอนเข้าไลฟ์..จริงๆแล้วมีล็อคเกอร์มากมายที่เมสเสะ ไม่ต้องกังวลกันนะ (ให้นึกภาพว่าเมสเสะมันก็เป็นราวๆ เมืองทองธานี คือมีทั้งศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม คอนเสิร์ตฮอล ห้างสรรพสินค้า บลาๆ)
อา ที่ลืมบอกคือวันนี้มีเน็ตใช้ฟรีแล้วจากพอคเกตไวไฟของที่พัก คุ้มค่าราคาดีจริงๆ แม้ว่าตอนแรกจะลืมหยิบออกมาจากที่พักจนตอนแวะกลับไปเอา
พวกเรานั่งรถสายชินเคย์เซย์ไลน์ (Shin-Keisei Line) ตรงมาจากสถานียาคุเอ็นไดเพื่อมาลงสถานีเคย์เซย์มาคุฮาริฮองโก จากนั้นสาดส่องสายตาเพื่อมองให้เห็นสถานีรถบัส
พวกเราต้องไปรอที่ป้ายหมายเลข 1 และหลังจากนั้นให้คอยสังเกตว่า ปลายทางบัสไปที่ใด ซึ่งจะปลายทาง 3 ที่ดังนี้
- “Kaihim Makuhari Station (海浜幕張駅行き)” จะลงป้ายหมายเลข 1 ตามภาพ
- “QVC Marine Field” /”Iryo Center (QVCマリンフィールド/医療センター⾏き)” จะลงป้ายหมายเลข 2
- “Makuhari Messe Chuo (幕張メッセ中央行き)” จะลงป้ายหมายเลข 3
ส่วนที่บอกว่า จะลงป้ายหมายเลข 1 หรือ 2 ข้างบนนั้นหมายถึงตำแหน่งปลายทาง ตามภาพ อ้อ สำหรับตารางเวลารถบัสสามารถเช็คได้จากเว็บไซต์ของเมสเสะ (https://www.m-messe.co.jp/en/access/)
เพราะว่าโดยมากป้ายจะโชว์มาเป็นภาษาญี่ปุ่น ตรงนี้จึงควรเตรียมตัวไปเทียบคันจิดูหน่อยเผื่อเวลาเร่งรีบจะได้ไม่ลน (มันจะแว้บสลับกับภาษาอังกฤษหละแต่บางทีก็ไม่มี รู้สึกสับสนเล็กๆ)
จำเลขที่ป้ายที่เราขึ้นเอาไว้ เช่นในกรณีนี้เราขึ้นที่ป้าย 1 ก็ดูที่บอร์ดคิดตัง ตัวเลขค่าราคามันจะเพิ่มเรื่อยๆ เรื่อยๆ .. จาก 150 เยน เป็น 180, 250 เยน ขึ้นไปตามระยะทางที่เรานั่ง ถ้าจำไม่ผิดก็ใช้ค่าเดินทางจากสถานีรถไฟไปราวๆ 480 เยนหละนะ (ยังคงแพงเหมือนเดิมเลยรถบัสแบบประจำทางเนี่ย..)
เมื่อมาถึงเมสเสะแล้วก็เช็คปลายทางที่พวกเราจะไปกัน โดยพวกไลฟ์คอนเสิร์ตมักจะจัดใน Makuhari Event Hall (幕張イベントホール) หรือ International Exhibition Hall 1–8 (国際展示場1-8ホール) พอลงรถบัสก็หาป้ายนำทางไปเรื่อยๆ ระบบออกแบบมาดีจนพวกเราไม่น่าจะหลงได้เลยจริงๆ อยากไปที่ไหนก็เดินตามไกด์สีเส้นทางไปเรื่อยๆแบบง่ายๆ
บูชิโรดกับระบบการจัดการคิวที่ดี และการฆ่าเวลาเรื่อยเปื่อยก่อนไลฟ์
พวกเรามาถึงบริเวณหน้าที่จัดงานแล้ว (ตอนนี้เป็นเวลาราวๆ 7:00 น.) เหลือบมองด้วยพฤติกรรมเดิมๆเพื่อหากลุ่มแฟนคลับมิลกี้ก็พบว่า เอะ.. ดูไม่ค่อยมีแถวที่ดูบ่งบอกว่าเป็นพวกชอบอนิเมเลย (ใส่ชุดแปลกๆ สีสันฉูดฉาด มีห้อยกระเป๋าเยอะๆ อะไรแบบนี้) แต่พบกลุ่มของคนปกติจำนวนมากที่ต่อคิวรออยู่ เดินเข้าไปก็พบกับสตาฟของบูชิโรดคอยถือป้ายหางแถว.. อ๊ะไม่ผิดแล้วหละตรงนี้แน่นอน เลยไปนั่งรอกันท้ายแถวแบบเนียนๆ ตอนที่พวกเราไปนั้นเป็นท้ายแถวของแถวแรกหละ
ระบบที่บูชิโรดจัดให้กับผู้ที่มารอซื้อของหน้าคอนมิลกี้โฮล์มสในครั้งนี้คือ
- ให้ผู้ที่มาก่อนเข้าคิวรอไว้เรื่อยๆ ทบไว้ก่อน
- แถวละพอถึงเวลา 10 โมงจะให้ผู้ที่มารอไว้นั้น จับฉลากหมายเลขลำดับการซื้อของอีกที
- แล้วเรียกตามหมายเลขการซื้อของทีละ 5 คนไปต่อคิวเรียงกันเรื่อยๆ เดินไปซื้อของอย่างเป็นระเบียบ
ฟังดูเข้าท่าและง่ายดี แต่สำหรับชาวต่างชาติอย่างพวกเรานั้นตอนแรกก็เรียกได้ว่างงๆไปพอควร แต่ก็ยังรู้สึกโอเค รอคิวไป กดน้ำตู้ไป เล่นเว็บไป มองดูแฟนๆมิลกี้ไป ยิ่งเวลาสายขึ้นเรื่อยๆ แฟนๆก็มากขึ้นตามไป และจากที่สังเกต แฟนคลับมิโมรินจะกล้าแสดงออกมากสุด แต่งตัวแบบสุดขีดมากมาย~
กลุ่มสาวๆก็พอจะมีที่มาต่อคิวหรือรอดูเข้าคอนกัน บางคนก็แต่งเสื้อลายมาแบบในรายการมิรุมิรุมิลกี้ด้วย!
มีม้าลายชิมะคุงที่คอสเพลย์เป็นเนโร่ (ตัวละครที่โซระมารุพากย์) โดนคนจูงมาด้วยหละ ได้รับความนิยมแบบสุดๆเลยทีเดียว มีคนไปขอถ่ายรูปมากมาย ถึงจะสงสัยว่าตอนเข้าไลฟ์จะไปฝากล็อคเกอร์ที่ไหน
ประเด็นต่อไปคือต้องรอเขาเรียกคิวแล้วไปต่อ..ฟังไม่ค่อยออกด้วยเพราะว่าพูดเร็วมากและผ่านโทรโข่ง บางทีก็ต้องอาศัยใช้เครื่องคิดเลขให้ชาวญี่ปุ่นข้างๆช่วยกดลำดับให้ แต่ก็ทำให้พวกเราไปต่อคิวรอซื้อของได้
โดยบูชิโรดเตรียมเคาท์เตอร์สำหรับขายของไว้อย่างเยอะ.. 20 กว่าเคาท์เตอร์ ทำให้หลังจากเปิดการขายเมื่อ 11:30 น. แล้วการซื้อของเป็นไปอย่างรวดเร็ว สมเป็นบริษัทการ์ดเกมชั้นนำที่รับมือกับลูกค้าปริมาณมากเก่งกาจ (ฮา)
หลักๆแล้วพวกเราซื้อ..เซ็ตพัด+ผ้า ของเซย์ยูที่แต่ละคนชื่นชอบ ตัวผู้เขียนซื้อผ้าขนหนูลายอนิเมกับหนังสือรีวิวร้านเกี๊ยวซ่าของคิตตะซังมาเพิ่มนอกนั้นก็พวกเข็มกลัดสุ่มกับผ้าเช็ดแว่นสุ่มๆที่มีวนๆไปซื้อกันเพราะต้องการได้อันที่ต้องการนี่หละ (ห่อละ 500 เยนก็สุ่มวนกันไป)
สินค้าหน้าคอนบางอย่างเช่นชุดพัดนี่จะหมดอย่างรวดเร็วมาก ไม่ทราบว่าด้วยสาเหตุอันใด แต่ที่แน่ๆคือพวกเราก็จะเอาพัดพวกนี้ไปเล่นตลกกันภายหลังหลายอย่างมาก (ขอโทษจริงๆ..) พอสุ่มได้ที่ต้องการก็เก็บไว้ สุ่มได้มิโครอนก็เก็บมาให้ @SchanHime ที่ไทย
ซื้อสินค้าครบ 5,000 เยนจะแถมการ์ดที่มีลายเซนต์ดิจิตอลแบบสุ่มมาให้ด้วย..!! ได้มาเป็นมิโครอนกับมิโมริน (!) เดินๆหาคนแลกก็ทำให้ได้ลายเซนต์ของโซระมารุมาแทน (เทรดกับมิโมริน) ส่วนลายเซนต์ของมิโครอนนั้นเมคุงเอากลับมาเป็นของฝาก Sจัง เช่นเคย–
แอบสงสารมิโครอนเล็กๆ ลายเซนต์นางหาคนแลกยากเหลือเกิน (..)
ตามกำหนดการแล้ว คอนเสิร์ตวันแรกนี่เริ่มเย็นๆเลยคือเปิดให้เข้าฮอลล์ 17:00 น. เลยไปเดินเล่นหาอะไรกินกันแถวนั้นก่อน โชคดีที่แถวนั้นมีห้างเยอะ เลยมีร้านอาหารเยอะตามไปด้วย เดินต้องการจะหาร้านที่ราคาดีๆถูกๆกันและนั่งได้นานๆ เลยเลือกไปนั่ง คาเฟ’เรสเตอร์รองกุสโต (Cafe’レストランガスト) ร้านอาหารแบบแฟรนไชส์ที่มีจุดเด่นตรงมีดริงค์บาร์ให้นั่งเรื่อยเปื่อยได้ ก็กินก็จ่ายกันตามระเบียบ
หลังจากได้เวลาใกล้ๆ สี่โมงเย็นก็เดินกลับไปนั่งๆแถวร้านขายของแถมยังเสียเงินค่าสุ่มเข็มกลัดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยังดีที่ได้คิตตะซังมาอันนึง TT ตอนเปิดได้ดันหลอนคิดว่าเป็นมิโครอนจนทำตกพื้นไปแว้บนึงด้วยแหละ อ้อ ในซองมี 2 อัน อีกอันได้มิโมรินก็จับบังคับขายเมคุงไปตามระเบียบ
แถวหน้าคอนมีให้สั่งภาพโบรไมด์พิเศษใส่กรอบที่มีลายเซนต์ดิจิตอลของพวกมิลกี้โฮล์มสด้วย มีทั้งแบบเดี่ยวไซส์ A5 (3,000 เยน) แบบรวม A3 (5,000 เยน) เป็นภาพแบบลิมิตเฉพาะไลฟ์คอนครั้งนี้ จริงๆถ้ามีเงินเยอะกว่านี้ซักหน่อยคงสั่งเอาไว้เป็นความทรงจำ แต่คราวนี้กรอบเกินไปจริงๆเลยต้องข้ามไปก่อน orz..
นั่งๆไปซักแปปก็ได้เจอกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นของแพตตี้ คุณป๊อปโป้สเตท (@poppostate) ส่งของที่ฝากซื้อกันให้อย่างเรียบร้อย ทำความรู้จักกันนิดหน่อยและฟอลทวิตกันก็ได้ขนมเป็นของตอบแทน (มีลิ้นวัวหมักเกลือ ข้าวเกรียบ โมจิถั่ว ยูโรคัสตาร์ดเค้ก..(ประมาณนั้น) เยอะมาก) ขอบคุณมากเลยที่มีขนมให้กับคณะทัวร์ผู้หิวโหย
ได้เวลา 17:00 น.ก็ออกไปเช่าล็อคเกอร์ฝากของแถวๆนั้น (ราคาปกติก็ราวๆ 300 เยน) แล้วไปรอต่อคิว ก็ได้ตกใจว่าโอว คนปริมาณมากกก!!! ต่อคิวเข้าฮออล์กันสุดสะพานโน่นแหนะ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นด้วยมีลมโกรกแรงพอสมควร
หลังจากเข้ามาข้างใน (ไม่มีการตรวจยืนยันตัวด้วย ไกจินแบบเราๆเลยสบายไปอีกขั้นหนึ่ง + แพตตี้ลืมพาสปอร์ตไว้ในล็อกเกอร์..ถ้าโดนตรวจคงลำบาก) พอเข้ามาก็ได้พบว่าแฟนๆหลายคนเริ่มกระบวนการแปลงร่าง แต่งตัวด้วยฮัปปิ (เสื้อเทศกาลสไตล์ญี่ปุ่น มีเวอร์ชั่นของมิลกี้ขายหน้าคอนนี่หละ) บ้าง คาดหัวด้วยผ้าที่เพิ่งซื้อมาบ้าง พวกเราก็ไม่น้อยหน้า (?) เอาแท่งไฟออกมาเตรียมกันคนละ 2 แท่งทำให้ตอนนี้ความตื่นเต้นก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ที่นั่งในวันแรกอยู่โซนด้านซ้ายของเวทีแถวบน สูงเล็กน้อยแต่ว่าก็มองได้ชัดอยู่
ความพิเศษของไลฟ์ในครั้งนี้คือ “สามารถถ่ายรูปและวิดีโอได้ในบางช่วงของไลฟ์ อัพรูปลงโซเชียลเนตเวิร์คได้ แต่วิดีโอไม่สามารถ” นับว่าเป็นมิติใหม่ของคอนเสิร์ตญี่ปุ่นเลยทีเดียว (ฮา) ไม่ก็จริงๆเป็นการแอบโปรโมทเนียนๆ..
ตอนนี้เวลาก็เข้า 18:00 น. แล้ว เสียงของท่านอาร์เซนซามะและอาจารย์โคบายาชิเริ่มต้นเป็น MC สั้นๆ จากนั้นตามด้วยฉาย PV ของเพลง “総天然色フルパワー” ให้ดูบนจอ แล้วไฟบนเวทีก็เปิดออก ตามด้วยทำนองเปิดเวทีในแบบเทศกาลเล็กๆ แล้วเริ่มต้นไลฟ์วันแรกอย่างเป็นทางการ!
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
รีพอร์ทความประทับใจ + เซ็ตลิสท์จากไลฟ์ในวันที่ ①
เพลง 1 ~ 4: “総天然色フルパワー” → “ミルキィA GO GO” → “ぐろーりーぐろーいん☆DAYS” → “激情!ミルキィ大作戦”
มาด้วยเพลงหลักประจำคอน (ฮ่า) ถึงตอนแรกจะดู PV เสร็จไปสดๆตะกี้แต่ว่าเพลงไลฟ์นี่ดีกว่าจริงๆนั่นหละ สาวๆออกมาทั้ง 4 คนในชุดนักสืบปกติ.. น่ารัก!!!!! ตัวจริงน่ารักทั้ง 4 คนเล้ย ( ^ U ^ ) มิโมรินตัวจริงน่ารักมว๊าก โซระมารุก็น่ารักแบบหน้าม้าสั้นๆ มิโครอนตัวจริงนี่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ!!! ส่วนคิตตะซังสวยเหลือเกิน มาในชุดนักสืบนี่จะใส่ถุงน่องดำด้วยนะ (ดีมากๆ) หลังจากนั้นเพลง ミルキィA GO GO ก็เริ่มทำให้ทั้งฮอลล์เร่งจังหวะขึ้น เพราะเพลงนี้คอลสนุก (มิรุกี้อะโกโก้~!) ..ชาวญี่ปุ่นนี่เวลาคอลก็สุดๆกันจริงๆด้วยทำให้คอนเสิร์ตสนุกขึ้น ตามด้วยเพลงเปิดจากภาคฟุตาริ (เสียใจนิดๆที่ไม่ได้ฟังเพลงนี้มามากพอ แต่ว่าเนียนๆคอลไปได้) ตามด้วยเพลง “激情!ミルキィ大作戦” ที่เป็นเพลงจากมูวี่ของมิลกี้โฮล์มสที่เพิ่งฉายไปเร็วๆนี้ อันนี้ชอบท่อนคอล “We are ミルキィホームズ!” เป็นอันจบช่วงแรกเข้าสู่ช่วง MC ของทั้ง 4 คนตามด้วยกลุ่มเฟเธอร์รุ่นน้องทั้ง 2 มาแจม
คอลหลักที่ให้คนดูเล่นกันเป็นหลักประจำไลฟ์นี้เป็น “วัชโช่ย!!” ที่จะเอาไว้ตอบรับในสถานการณ์ต่างๆ ใช้เยอะมาก สนุกเชียว เสียงราวๆเอาไว้เรียกพลังตอนเทศกาลของญี่ปุ่นนั่นเอง
เพลง 5~ 6: “We are the Miracle Holmes.” → “セイシュンビギナー!”
พอครบ 6 คนก็มาเป็นเพลงที่ต้องเล่นเปลี่ยนสีแท่งไฟกันมั่งแล้วกับเพลงแนะนำตัวมิลกี้ซิสเตอร์ส อย่าลืมเซ็ตสีแท่งไฟเป็น ชมพู → เหลือง → เขียว → ฟ้า → ขาว → ม่วง ไว้ด้วยหละ!! เกือบเปลี่ยนไม่ทัน..ทั้งๆที่เป็นไม่กี่เพลงที่ต้องเปลี่ยนแท้ๆ แต่เพลงนี้สนุกกว่าที่คิด ตามด้วยเพลงเดี่ยวของเฟเธอร์ (อายาสะ+ไอมิน) ที่ดีงามและน่ารักมว๊ากกก
∴ แทรกข้อมูลไว้เล็กน้อยว่าเฟเธอร์ (Feathers) เป็นกลุ่มรุ่นน้องของพวกมิลกี้โฮล์มสมี 2 คนด้วยกันนั่นคือ เมียวจินคาว่า อลิซ (明神川 アリス) (CV: อิโต้ อายาสะ (伊藤 彩沙)) และ โทคิวะ คาซึมิ (常盤 カズミ) (CV: เทราคาว่า ไอมิ (寺川 愛美) หรือไอมิน)
เพลง 7~ 9: “オーバードライブ!” → “勝利ノキズナ” → “鼓動の彼方〜劇場ver〜”
กลับมาเป็นกลุ่มมิลกี้ 4 คนอีกที.. ไม่สิตอนนี้เปลี่ยนเป็นชุดดำต้องเรียกกิลตี้โฮล์มแทนแล้ว..!! แล้วก็ตามด้วย 3 เพลงต่อเนื่องกัน ทั้งสามเพลงนี้เป็นเพลงที่ไปแวะร้องให้กับอนิเมกับเกมเรื่องอื่นๆหละมั้ง “オーバードライブ!” นี่ของเกมทอยส์ไดรฟ์, “勝利ノキズナ” ก็ของแวนการ์ด ส่วนเพลงสุดท้ายของมูวี่มิลกี้โฮล์มสเอง เพลงพวกนี้พอจะได้ฟังผ่านๆมาจากไลฟ์ครั้งที่ผ่านๆมาบ้าง
พวกแก๊งกิลตี้โฮล์มพากย์ได้ทั้งขำและชวนหมั่นไส้มากในเวลาเดียวกัน (ฮา) โดยเฉพาะมิโครอน..
เพลง 10~ 12: “HAPPY!絶好調” → “パーティーパーティー!” → “ピンチにパンチ”
กลุ่มเฟเธอร์มาพร้อมกับชุดใหม่ ชุดฮัปปิ (ชุดที่เอาไว้ใส่ในเทศกาลนั่นหละ) ประดับแบบเติมความวิ้งแวบเข้าไปให้สมเป็นไอดอล (??) ออกมาเล่นมุขฮัปปิ ฮัปปิ ฮัปปี้ (Happy) แล้วก็ต่อด้วยเพลง “HAPPY!絶好調”
แล้วก็ตามด้วยมิลกี้ทั้ง 4 ออกมาในชุดฮัปปิเช่นกัน.. ซึ่งเป็นไฮไลท์ของไลฟ์นี้เนี่ยหละะ ทุกคนที่อยู่ในชุดฮัปปิโมดิฟายแล้วเช่นกัน ร้องเพลงคลาสสิคมากด้วย!!! คนฟังมิลกี้ต้องคิดถึงเพลง “パーティーパーティー!” แน่นอน
ตรงนี้มีขึ้นรถเข็นไปมา ได้เห็นทุกคนในระยะประชิดกว่าที่ผ่านมา รู้สึกตื่นเต้นมากหัวใจแทบวาย ทุกคนน่ารักออลล ต้องเปลี่ยนสีแท่งไฟตามการมาเยือนด้วย ไม่รู้จะอธิบายช่วงนี้ยังไงรู้ว่าแค่น่ารักมว๊ากก
และพอมารวมกันครบ 6 คนก็ได้เวลาของเพลง ピンチにパンチ มาเสริมก่อนจะเข้าสู่เพลงของเกสคนแรกของไลฟ์นี้
เพลง 13: “美的・エゴイズム” → ช่วงกิจกรรม
เพลงเดี่ยวจากขาประจำของไลฟ์ อาร์เซนซามะ (アルセーヌ) (CV: อาเคซากะ ซาโตมิ (明坂 聡美)) จอมโจรในเรื่องมิลกี้โฮล์มส จากที่เคยดูไลฟ์เก่าๆมานางก็ร้องเพลงนี้แหละ แต่พอได้มาฟังก็นับว่าดีกว่าที่คิดจริงๆด้วย.. ดูเซ็กซี่และมีความเป็นผู้ใหญ่สูงมากเมื่อเทียบกับพวกมิลกี้ — เพลงนี้ต้องใช้แท่งไฟเป็นสีแดง+ม่วงหละมั้ง
เข้าช่วงเล่นรวมหมู่เล่นกิจกรรมบนเวที มีการเอาปืนอัดลมมายิงเสื้อ (หละมั้ง หรือผ้าขนหนู) ยิงไปตามสเตจคนดูตามที่จับฉลากได้ (แบ่งเป็น 10 ส่วน) เหมือนยิงง่ายแต่หลายคนก็พลาดนะ!!! ยิงไปไม่ถึงบ้าง ผิดสเตจบ้าง
ตรงนี้วันแรก..เมคุงเกือบจะได้เสื้อที่ยิงมาแล้วเพราะห้องน้ำกลับมายิงมาเป๊ะพอดี เสียดายที่มีคนมือยาวกระโดดเอาไว้ก่อน แหม่
เพลง 14 ~ 15: “NERORO☆おんど” → “ミルキィアタック”
หลังจากทุกคนใส่ฮัปปิกันแล้วก็ได้เวลาเข้าสู่ช่วงเทศกาลแท้จริง.. เริ่มต้นด้วยเพลงโซโล่ของโซระมารุจากภาค TD ที่เริ่มบิวท์ให้สเตจตื่นเต้นอีกครั้งและตามด้วยเพลงที่คอลสนุกมากสุดๆอีกเพลงกับ “ミルキィアタック” ที่ทำให้อุณหภูมิสเตจเร่งจนขั้นสูงสุดเลยทีเดียว วัชโช่ยกันกระจาย มีแบกเกี้ยวมิโคชิกันบนเวทีด้วย พร้อมเต้นๆกันรอบเกี้ยวมีที่ติดกล้อง 360 องศาไว้หลังคาเกี้ยว เดาว่าคงเอาไว้แถมในแผ่นนั่นหละ
เพลง 16 ~ 18: “みるみるUPっぷ↑↑” → “ミルキィ100ワールド”→ “冒険☆ミルキィロード!!”
สามเพลงยอดฮิตยุคปัจจุบัน ทั้งเพลงแรกที่ต่างคนต่างที่ดูมิรุมิรุมิลกี้ (みるみるミルキィ) ซีซั่น 2 มา..ต้องเตรียมตัว ไม่กึ่งว่าคอล แต่เพลงนี้ต้องร้องตามกัน!!! โดยท่อนที่ร้อง “みるみるみるみるみるみるみるみるみるみるみるみる” นั้นสนุกมากก เหนื่อยแต่ก็สนุกมาก เตรียมปอดไปเท่าไรก็ใช้กันตอนนี้เนี่ยหละ ตามด้วยเพลง 100 เวิร์ด ที่สนุกเร้าใจมากพอกัน ปิดท้ายด้วยมิลกี้โรด ทั้งสามเพลงเป็นเพลงที่มีจังหวะเร็วต่อเนื่องและทำให้แฟนๆต้องคอลกันหมดกันเลย
เป็นช่วงการแสดงที่ผู้เขียนชอบที่สุดในไลฟ์นี้
เพลง 19 ~ 21: “ いつだってサポーター!” → “正解はひとつ!じゃない!!” → “カラフルwith you”
เป็นช่วงที่อนุญาติให้ถ่ายรูปและวิดีโอได้ สาวๆบอกว่าจะมีช่วงที่เหมาะกับการถ่ายมากสุดๆด้วยนะให้คอยดู “ ชัตเตอร์แชนซ์” ขึ้นบอกบนจอ ก็ไม่อะไรมาก ไหนๆแล้วก็ต้องถ่ายเก็บเป็นที่ระลึกกันให้เต็มที่ แม้จะอยู่ชั้น 2 ก็เถอะ ที่รันทดคือถึงจะอยากถ่ายแค่ไหน แต่ว่าเพลง 20 นี่คือต้องคอลสถานเดียว ควรเก็บมือถือไปแล้วตะโกนแทนนะ (ไฮ้!)
เพลงสุดท้ายในช่วงหลักคือ “カラフルwith you” คือจะว่าไงดี เพลงดีจริงๆ.. เป็นเพลงที่ประทับใจมากๆและเหมาะจะเป็นเพลงจบนี่หละ ถึงจะไม่ใช่เพลงสุดท้ายอังกอร์จริงๆก็คิดว่าเหมาะจริงๆ เนื้อหาก็เหมาะ การร้องแต่ละคนก็เข้าขั้นพีค มีชัตเตอร์แชนซ์ที่เพลงนี้นี้หละ
หลังจากนั้นก็หมดช่วงถ่ายรูปได้ ปิดม่านช่วยคราว เข้าสู่ช่วงอังกอร์ ที่สั้นกว่าที่คิดมาก (คงเพราะมีเกสมาช่วย)
BONUS TRACK: “ANSWER”
เพลงอังกอร์แรกเป็นของเกสชายหนุ่มหนึ่งเดียวในเวทีนี้ โคบายาชิ โอเปร่า (CV: ชูตะ โมริชิมะ (秀太 森嶋)) อ.สอนการใช้ทอยส์หรือพลังพิเศษ ของพวกมิลกี้โฮล์มส) เป็นเพลงที่มีความโรแมนติคสูงมาก ฉายแสงเป็นเหมือนทั้งฮอลล์อยู่ท่ามกลางทะเลดาวด้วย เรียกได้ว่าตัดบรรยากาศอย่างแรง เพลงดี เปลี่ยนแท่งไฟเป็นสีน้ำเงินด้วย
อังกอร์ 1 ~ 3: “雨上がりのミライ” → “プロローグは明日色” → “はいぱーみるきぃあわー”
เพลงแรกคือเพลงชาติของมิลกี้โฮล์มสสำหรับตัวผู้เขียน ได้ฟังมาหลายต่อหลายรอบตั้งแต่ตอนดูไลฟ์แรกๆแล้ว (เป็น OP ของมิลกี้โฮล์มสภาควิชชวลโนเวลเกม) ฟังผ่านไลฟ์เก่าๆมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกขมวดปมความคุ้มค่าเข้ามาในใจ เรียกว่ารู้สึกดีที่ได้มาแล้ว ตามด้วยเพลงที่คุ้นเคยและจบช่วงด้วยไฮเปอร์มิลกี้ไทม์! เพลงจากภาค 2 เป็นเพลงที่สนุกดี จังหวะดี มีความสดชื่นเหมาะกับช่วงอังกอร์
เพลงสุดท้าย: “夏祭り”
มีการประกาศโปรเจ็คใหม่ มีทั้งอนิเมซีซั่นใหม่และไลฟ์อีเวนท์เคาท์ดาวน์ (วันเดียวกัน 31/21 ปี 2016)
มิลกี้โฮล์มสทั้ง 4 รวมทั้งเฟเธอร์และเกส ขึ้นรถวน (เป็นโอกาสดีที่พวกเราจะได้เห็นหน้าสาวๆกันชัดๆอีกครั้งไงหละ) เพื่อร้องเพลงที่เหมาะกับการปิดท้าย “夏祭り(เทศกาลฤดูร้อน)” เป็นเพลงโคเวอร์มาจากเพลงต้นฉบับของ JITTERIN’JINN ไม่รู้จะอธิบายเพลงนี้ยังไง แต่ว่าทั้งจังหวะทำนองและความหมายเป็นการเอามาใช้ปิดท้ายไลฟ์ได้อย่างเหมาะสมที่สุดแล้ว คือขนาดตัวผู้ฟังไม่ได้มีทักษะในการเข้าใจภาษาญี่ปุ่นอะไรมาก แต่คิดว่ามันเป็นการแสดงที่ปิดท้ายได้กลมกล่อม ให้ความรู้สึกเหมือนจะกลับบ้านได้อย่างมีความสุข
สรุปไลฟ์วันที่ ①
เป็นไลฟ์ที่ดีมาก..ยิ่งเคยได้ดูไลฟ์เก่าๆวนมา หรือว่าดูมิรุมิรุมิลกี้ ดูอนิเมบั่นทอนปัญญามา ดูรายการวาไรตี้ต่างๆมา ฟังเพลงอัลบั้มแรก อัลบั้มสอง ซิงเกิ้ล หรือว่าแค่อยากมาดูหน้าเซย์ยูสาวที่ชื่นชอบ ไลฟ์นี้ก็ให้ความสุขกับคุณได้อยู่ดี จุดที่แอบเสียดายเล็กๆคือในไลฟ์ครั้งนี้จัดแสดงแบบเน้นร้องเพลงเป็นส่วนมากจริงๆต่างจากไลฟ์เก่าๆที่จะมีเนื้อเรื่องให้ดูด้วย ประมาณนั้น (ถึงจะมีพวกกิลตี้โฮล์มออกมาใส่ชุดขาวดำแต่ว่าก็ไม่ใช่เมนหลักของไลฟ์ เมนไปอยู่ที่เทศกาลมากกว่า) แต่ก็ประทับใจมากๆจนไม่รู้จะลบตรงไหนอยู่ดี
…อยากเจอท่านประธานบูชิโรดกับแก๊งมวยปล้ำด้วยอะ + ไม่มีนามาโกะซอง (ナマコソング) เสียใจมากๆ (ล้อเล่น)
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
เดินทางกลับที่พักหลังจบไลฟ์
แน่นอน อาการตกค้างหลังดูไลฟ์นั้นเกิดขึ้นกับทุกคน แต่มันจะไม่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า เพราะว่า พอออกมาจากไลฟ์ก็เจอสแตนด์ดอกไม้ปริมาณมากให้แวะถ่ายรูปกัน
ไม่มีสแตนด์ดอกไม้เป็นภาพวาดให้คิตตะซังแบบเด่นๆเดี่ยวๆซักสแตนด์!!!!!!!!… รู้สึกยอมไม่ได้ ไม่มีซักสแตนด์คืออะไร..!!! แฟนๆของนางในญี่ปุ่นหายไปไหน ถ้ามีโอกาสได้มาดูไลฟ์อีกครั้ง จะวาดให้สวยงามมาวางไม่ให้แพ้ใครเลย (บอกกับตัวเองไว้แบบนั้น แม้จะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร..)
พวกเราลืมอะไรไป.. อ้อ มาดูไลฟ์ทั้งทีแต่ว่าไม่ได้ถ่ายหนังหน้าตัวเองเอาไว้เลย แต่ว่ากล้องก็ไม่มี ทำไงดี.. อืม ก็เลยเอาพัดหน้าเซย์ยูมาเล่นตลกกันอีกครั้ง
การเดินทางกลับที่พักนั้นเกิดความยากลำบากขึ้นมาเพราะว่า รถบัสหมด ไปตั้งแต่ 21:00 น. แล้ว และอากาศหนาวมากๆ ตัวผู้เขียนที่ย่ามใจไม่พกเสื้อกันหนาวมาซักตัวเนื่องจากเคยเที่ยวฮ่องกงในอุณหภูมิเท่านี้แล้วรอดต้องประสบกับภาวะหนาวสั่นเกือบเอาตัวไม่รอด.. แต่พวกเราต้องเดินไปสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด (ไคฮินมาคุฮาริ) และต้องต่อรถไฟเกือบ 3 รอบ หรือ 4 รอบนี้หละ ถึงจะกลับไปยังที่พักของพวกเราได้
และปริมาณคนที่สถานีรถไฟเยอะมาก ต้องทำใจเบียดเล็กน้อย กลับมาถึงแถวบ้านก็โซ้ยยาคูลท์กันซักหน่อย (2 ขวด 90 เยน) จากนั้นก็ซื้อบะหมี่สำเร็จรูปต่างๆ โอเด้ง ข้าวกล่องถูกๆ กลับห้องไปกินกันแบบจนๆชดเชยที่วันนี้ใช้จ่ายกันไปเยอะ แต่มีการลองชิมลิ้นวัวตากแห้งที่ได้จากเพื่่อนชาวญี่ปุ่นของแพตตี้ด้วยนะ นับว่าอร่อยดีทีเดียวสำหรับชาวดาวเนื้อวัว
ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมส่วนตัวกัน เช่น เดินไปซื้อไอศครีมชาเขียวเข้มข้น+โมจิ+ถั่วแดงมาจาก 7-11 ซึ่งมีความหวานที่เกินพอดีไปมาก ต้องมีรสขมตัดหน่อย คงไม่เหมาะจะกินเป็นของหวานเบาๆก่อนนอนนัก
วันนี้รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ..เหมือนว่าจะกรนไปเล็กๆ ทำให้เพื่อนร่วมทริปลำบากใจ (?) จะโดนฆ่าในอนาคตไหมนะ สำหรับรีพอร์ตไลฟ์และบันทึกในวันนี้ก็จบลงแค่ตรงนี้ก่อน มาติดตามพาร์ทสองกันในตอนหน้าเน้อ!
เครดิตภาพ
บางภาพในบทความได้นำมาจากทวิตเตอร์ (https://twitter.com/milkyholmes) และเว็บไซต์หลัก (http://milky-holmes.com/) ของทางมิลกี้โฮล์มสเพื่อประกอบความเข้าใจ