ซีรีส์ “ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์” ยังอยู่ในช่วงเมนดิช ต่อมาจากบทความที่แล้ว เพราะเป็นวันที่มีไลฟ์วันที่ 2 ต่อเนื่องกันมา ในวันนี้จะเป็นไลฟ์ที่รสชาติอย่างไรกันนะ สำหรับตอนอื่นๆติดตามอ่านได้ในสารบัญเลยเน้อ
สารบัญ: ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
คลิกเพื่อดูสารบัญบทความ
ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
วันดูไลฟ์วันที่สอง – 15 พฤษภาคม 2016
เพราะไม่ต้องซื้อของหน้าคอนกันแล้ว วันนี้ทุกคนได้เรียกว่าตื่นกันอย่างสายโด่งเลย (ราวๆ 8 โมง) ตื่นมาก็จัดแจงเตรียมตัวออกจากที่พักกัน แต่ก่อนนั้นรู้สึกว่าของฝากจากเมื่อวานมีสิ่งที่ควรกินกันก่อน เลยเปิดโมจิถั่วเอดามาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) กินกัน
ก็อร่อยดี..แต่ให้ความรู้สึกแปลกๆขนลุกนิดๆ ตามด้วยเดินไปคอมบินิที่อยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ นั่งชิลๆตากลมเย็น (วันนี้ไม่พลาดขอยืมเสื้อกันหนาวมาใส่แล้วหละ) กินข้าวข้าวกันคนละอย่างสองอย่างแบบเบาๆไปก่อน
รอรถไฟตามเดิมเพื่อเข้าไปที่มาคุฮาริเมสเสะ (พอชำนาญแล้วก็เพลินๆกว่าเดิม เดินทางช้ากันกว่าเดิมอีก!) ทำให้ไปถึงหน้าเมสเสะได้ไม่ยากมากนัก วันนี้คนต่อคิวดูจะไม่เยอะเท่าเมื่อวาน และแน่นอนของหน้าคอนที่หมดเกลี้ยงไปหลายรายการก็ถูกรีสต็อกกลับมาเหมือนเดิม ฉะนั้นจริงๆแล้วจะมาต่อคิววันแรกหรือวันสองก็น่าจะได้ผลเดียวกันนั่นเอง
วันนี้พวกเรากะจะฆ่าเวลาด้วยการไปเดินบูชิโรดสโตร์ (ブシロードストア) ที่อยู่ อิออน มอลล์ สาขามาคุฮาริชินโตชิ (Aeon Mall Makuhari Shintoshin) + ไปหาอะไรกินกลางวันรอเข้าไลฟ์ด้วย แต่เนื่องจากวันนี้ไลฟ์จะเริ่มเร็วกว่าเมื่อวานถึง 3 ชม. โดยประตูจะเปิดตอน 14:30 น. ฉะนั้นก็จะมีเวลาไม่มากนักหละนะ
ดูจากแผนที่แล้วยังพอเดินไปได้ เลยลองๆงมทางภายในเมสเสะกันก่อน ก็ปรากฎว่าเจอป้ายนำทางขนาดใหญ่เลย คงกะจะให้คนไปเดินกันแบบง่ายๆนับว่าอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
เดินซัก 20 นาที (นานหน่อยๆแฮะ..) ก็มาถึงอิออน มอลล์ ตามที่คาดไว้ แต่ที่ไม่ได้คาดคือมันเป็นห้างที่ใหญ่และมีหลายโซนมาก ถ้าจะเปรียบก็ราวๆฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ฉะนั้นการหาร้านที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนักแบบบูชิโรดสโตร์ก็เป็นเรื่องยากนิดๆ
แถมป้ายบอกทางก็ดูเหมือนไม่ช่วย!! ต้องเดินมั่วๆซักนิดถึงเจออยู่ที่แกรนด์มอลล์ ที่เป็นหนึ่งใน 4 มอลล์ใหญ่ เป็นสโตร์ที่ดูใหญ่ใช้ได้เหมือนกันนะ
เหมือนที่นี่จะเน้นขายการ์ดเกมเป็นหลัก (แน่หละ) ก็เดินๆดูของกันตามอัธยาศัยซักนิด มีเจอลายเซนต์ของนักพากย์หลายๆคนที่คุ้นเคยด้วย
หลังจากนั้นก็เดินเล่น..แวะร้านของเล่นวิลเลจแวนการ์ด (ヴィレッジヴァンガード) ที่อยู่ในชั้นเดียวกัน ตอนแรกว่าจะรอดกลับไปแบบเนียนๆแต่ก็เสียตังให้กับการสุ่มฟิกเกอร์เกาะแก้วของเลิฟไลฟ์ไปอีกนิดหน่่อยจนได้ ที่น่าเศร้าคือเมื่อทุกคนเปิดกล่องก็พบว่าไม่มีใครได้ตัวละครโอชิของตัวเองเลย!! จึงเก็บเข้ากล่องแล้วเดินกลับไป (20 นาที) หาอะไรกินที่คอมบินิแถวๆเมสเสะต่อ
ถ้าถามว่าทำไมไม่หาอะไรกินกันที่อิออนซะเลย เพราะในนี้ราคาออกจะจี๊ดไปซักเล็กน้อย ทีมงานประหยัดเลยเอาไว้ก่อนดีกว่า ยังไงวันนี้เพิ่งวันที่ 3 ของการเดินทางอย่าเพิ่งให้เงินตราหมดลงไปเยอะตั้งแต่ตอนนี้! อีกทั้งเวลาก็ใกล้จะ 14:00 น.แล้วด้วย อย่าไปไกลนักน่าจะดีที่สุด
ในช่วงที่มาดูคอนนี้ มีการจัดงานอีเวนท์ตะลุยดันเจี้ยนแบบ VR ของเกมดรากอนเควสท์ด้วย มีคนมาเข้าร่วมมากมายเลย ดูน่าสนใจดีทีเดียวแถมของรางวัลก็ดูจะพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ เห็นพวกชาวญี่ปุ่นมาทำเควสไขปริศนากันเยอะแยะ ดูแล้วยากไปนิดสำหรับชาวต่างประเทศแบบพวกเรา
ใกล้ได้เวลาเข้าคอนก็หยิบพัดที่ซื้อมาเมื่อวาน และหยิบผ้าขนหนูออกมาแล้วเอากระเป๋าไปฝากที่ล็อคเกอร์ แต่คลาดกับเมคุงเล็กน้อยเพราะสื่อสารผิดพลาด.. เน็ตก็แหว่งไปครู่นึงทำให้ติดต่อกันไม่ได้ แต่่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเพื่อนจริงๆนะ!!! หายไปไม่เจอกันซักแปปก็มารวมกลุ่มกันได้
การไม่ได้ใช้ซิมมือถือก็มีความน่ากลัวในการพลัดหลงเล็กๆแบบนี้หละนะ ฉะนั้นควรมองซ้ายขวาเช็คเพื่อนให้แน่ใจก่อนถ้าไม่มีเน็ตที่ใช้งานได้แยกรายคน
ที่ตลกอีกอย่างที่ลืมเล่ามาตั้งแต่บทความที่แล้วคือ
Wซัง: ตั๋วเข้าไลฟ์อยู่ไหน ไหนขอดูหน่อย
แพตตี้: อยู่กับเรา *ยื่นให้*
(ผ่านไป 10 นาที)
แพตตี้: ตั๋วเข้าไลฟ์อยู่ไหนป๋า
Wซัง: อยู่กับเรา..!!
เหมือนว่าจะเป็นโรคกลัวตั๋วหายกัน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่น่าระแวงจริงๆแหละ และเหตุการณ์ในคำพูดนี้เหมือนจะไม่ได้เกิดขึ้นทีเดียวแต่ราวๆ 5 – 6 ครั้งเลยทีเดียว นับว่ากลไกในการป้องกันตัวของพวกเราทำงานได้ดีมากจริงๆ
14:30 น. ได้เวลาเข้าอีเวนท์ฮอล
ที่นั่งของพวกเราในวันนี้อยู่แถวบนสุดของโซนกลาง ตอนแรกคิดว่าไกลมาก แต่ว่าด้วยมุมมองนั้นดันรู้สึกว่าใกล้กว่าเมื่อวานเสียอีก เมื่อหาที่นั่งกันได้แล้วก็เตรียมลองถ่ายภาพถ่ายวิดีโอวอร์มอัพไว้รอชัตเตอร์แชนซ์ แล้วก็เอาพัดมาเล่นกันแบบที่ทำเมื่อวาน..
วันนี้เองก็เริ่มต้นเปิดม่านด้วยเสียงของ อ.โคบายาชิ และอาร์เซนซามะเช่นเดิม เพลงดนตรีเกริ่นนำสไตล์เทศกาลที่ดังอีกครั้งก็ก้องเข้ามาในเวที ในจอฉาย PV เต็มของ “総天然色フルパワー” อีกครั้งหนึ่ง หลังจากจบแล้ว เพลงไตเติ้ลเปิดม่านก็เริ่มขึ้น.. เทศกาลในวันที่สองเริ่มต้นขึ้นแล้ว
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
รีพอร์ทความประทับใจ + เซ็ตลิสท์จากไลฟ์ในวันที่ ②
เพลง 1 ~ 4: “総天然色フルパワー” → “オーバードライブ!” → “泣き虫TREASURES” → “鼓動の彼方~劇場ver~”
เริ่มต้นด้วยเพลงเดิม! แต่บนเวทีไม่เหมือนเดิมเพราะมาด้วยชุดขาว-ดำกิลตี้โฮล์มตั้งแต่แรก แล้วในจอข้างเวทีก็มีภาพไลฟ์จากวันแรกที่ใส่ชุดหลากสีเพลงเดียวกันขึ้นอยู่ (เป็นการนำเสนอที่เข้าท่าใช่ไหมหละ..? ทำให้คนที่มาวันสองวันเดียวคิดว่าเสียดายที่ไม่ได้มาวันแรกแน่ๆ!!)
วันที่สองนี้เซตลิสท์ในส่วนเริ่มต่างจากวันแรก เพลงสองจะเร่งจังหวะกันเลยด้วย “オーバードライブ!” และเพลงสามที่เป็นเพลงจากแวนการ์ดที่ไม่มีในเวทีเมื่อวานแบบ “泣き虫TREASURES” ก็ทำให้ทุกคนสนุกไปกับการคอลว่า “Call My Dream!!” และ “RIDE RIDE RIDE Lucky Chance!!” ปิดท้ายช่วงเพลงด้วยเพลงจากมูวี่ของมิลกี้โฮล์มส
ในช่วง MC สไตล์กิลตี้เรียกเสียง บู่ววววววววววว ได้จากผู้ชมเป็นส่วนมาก (ขำ) แต่ละคนยังพากย์ได้สุดๆจริงๆ เรียกได้ว่าถึงบทบาทสไตล์ตัวร้ายจนฟังแล้วขำก๊ากเลยทีเดียว
เพลง 5~ 6: “セイシュンビギナー!” → “We are the Miracle Holmes.”
หลังจากกิลตี้โฮล์มทั้ง 4 โดนบู่จนกลับหลังเวทีไป (ฮา) ก็เป็นคิวของรุ่นน้องเฟเธอร์อายาสะและไอมิมาร้องเพลงคู่ขาวม่วง “セイシュンビギナー” ที่ยังคงฟังแล้วสดชื่นด้วยพลังวัยรุ่น ! จากนั้นรุ่นพี่ทั้ง 4 ที่หายไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายก็กลับมา และร้องเพลงให้พวกเราได้ร้องสึกิ๊ว (ずきゅん) ตามเนื้อร้องและเปลี่ยนสีไฟถี่ๆเพื่อตอบรับการแนะนำตัวตามเพลงกัน
เพลง 7~ 9: “.ミルキィ A GO GO” → “ナゾ! ナゾ? Happiness!!” → “激情! ミルキィ大作戦”
ตอนนี้กลับมาเป็นกลุ่มมิลกี้โฮล์มสแบบสีๆ 4 คนแล้วหละ เปิดด้วยเพลงที่ใหม่และสนุกมากแบบ “ミルキィ A GO GO” ที่ฟังวันนี้ก็ยังดีและน่ารักเหมือนเดิม แต่เพลงต่อมาตกใจ! นึกว่าจะไม่ได้ร้องคอล “นาโซ นาโซ นาโซ” กับเพลง “ナゾ! ナゾ? Happiness!!” ที่เป็น OP ของอนิเมภาค 2 กันซะแล้วว (เคยฟังเพลงนี้มาไม่รู้กี่ครั้ง อยากฟังไลฟ์มากๆนึกว่าจะกินแห้วเสียอีก) ตามด้วยเพลงมูวี่ที่สนุกตรงท่อนคอลเช่นเดิม
จะว่าไปถึงเป็นคอนวันที่ 2 แต่ทุกคนก็ดูยังสดชื่นมีพลังอยู่เลย สุดยอดไปเลย!!
ตรงจากบริเวณที่นั่งนี้ ข้างหน้าพวกเรามีกองเชียร์ที่มีอาการอินกับไลฟ์เป็นอย่างมาก เต้นเชียร์แบบเต็มแรงทุกเพลงแม้ไม่มีแท่งไฟ อาจจะเป็นสไตล์ของเขา.. บางทีก็เหลือบไปมองจนลืมมองเวทีไปด้วยเลยด้วยสิ จริงๆแล้ว ไลฟ์เมื่อวันแรกก็มีคุณลุงแปลกๆยืนข้างๆแล้วแกก็คอยคุยกับสาวๆบนเวทีแบบพึมพำคนเดียวด้วย.. อาจจะเป็นสไตล์ของเขาเช่นเดียวกัน
เพลง 10~ 12: “HAPPY!絶好調” → “パーティーパーティー!” → “羽ばたいてDreamin”
กลุ่มเฟเธอร์เข้ามารับหน้าที่ MC คั่นช่วงในชุดฮัปปิตกแต่งแบบเมื่อวาน แต่คราวนี้ในจอมีฉาย VTR จากพวกกิลตี้โฮล์ม! ออกมาเล่นมุขฮัปปิ ฮัปปิ ฮัปปี้ (Happy) ซ้ำรอย!! แล้วก็ต่อด้วยเพลง “HAPPY!絶好調”
จากนั้นตามด้วยกลุ่มมิลกี้รุ่นพี่ในชุดฮัปปิที่สวยงามน่ารัก (แอบสปอยไว้ล่วงหน้าว่าชุดฮัปปินี้พวกเราจะได้เห็นกันแบบใกล้ๆในวันก่อนเดินทางกลับด้วยแหละ!!! ถ้าอยากเห็นชุดกันแบบชัดๆก็ติดตามอ่านตอนอื่นๆกันต่อด้วยนะ)
หลังจากเปลี่ยนเป็นฮัปปิฟอร์มกันแล้วก็ได้ร้องเพลงที่น่าคิดถึงแบบ “パーティーパーティー!” ต่อ ตรงนี้เหมือนเซตลิสท์ของเมื่อวันแรก แต่ว่ากลับตามด้วยเพลง “羽ばたいてDreamin” ที่เป็นเพลงหลักของมิลกี้โฮล์มสอนิเมภาคฟุตาริ จริงๆเพลงนี้เดินกันวุ่นๆแต่ก็ดูน่ารักดีมาก
ที่สำคัญคือมีรถลากพาไอดอลออกมาหาพวกเราวิ่งมาอีกแล้วววววว และตำแหน่งการนั่งกลางนี่ทำให้ได้สัมผัสกับการไลฟ์ที่ใกล้มากก และมีช่วงเวลาผ่านของรถนี่ตรงที่นั่งกลางๆนี่นานมาก เพราะเป็นจุดที่จะมาแช่ซักพักแล้วสลับเลนกัน ทำให้ได้รู้สึกขึ้นมาว่า ตำแหน่งนี้ก็ดีนะเนี่ย!!!
ยังคงยืนยันความน่ารักของทุกคนไม่มีน้อยลง มีแต่น่ารักมากขึ้น แย่จัง หรือนี่จะเป็นความติ่ง (?) อ้อ รถในวันที่ 2 นี่บรรทุกทั้ง 6 คนตั้งแต่รอบแรกเลยด้วยนะ
เพลง 13: “美的・エゴイズム” → ช่วงกิจกรรม
เพลงต่อมายังคงเป็นเกสคนเดิมของเราจากวันแรกของไลฟ์ อาเคซากะ ซาโตมิซัง วันนี้ก็มาพร้อมกับชุดกิโมโน (?) ที่ดูเท่และเฉียบขาดเช่นเดิม วันนี้สเตจพร้อมมาก สีแดงและม่วงขึ้นพรึ่บสวยงามพร้อมเพรียงไม่ช้าแบบเมื่อวันแรกแล้ว
แล้วก็ตัดเข้าช่วง MC ยาวประจำไลฟ์พร้อมแบ่งเวทีเป็นสิบส่วนเพื่อแจกของแบบเมื่อวาน! เพิ่มเติมคือคราวนี้ยิงกันแม่นเชียวแทบจะไม่พลาดเลยนะะ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ไม่มีการยิงของรางวัลผ่านเฉียดมาทางพวกเราเลย.. น่าเศร้าจริงๆ
เพลง 14 ~ 15: “NERORO☆おんど” → “ミルキィアタック”
เซตลิสท์ช่วงหลังจากเล่นกิจกรรมแจกของนี่เหมือนกับวันแรกแบบ 100% เลย โดยช่วงแรกขอเรียกว่าช่วงขายของ เพราะหลังจากเพลงเดี่ยวของโซระมารุจัง (ที่ผู้เขียนบทความหลังจากเห็นตัวจริงนางก็เริ่มคิดว่าน่ารักมากๆ (?)) จะเป็นเพลง “ミルキィアタック” ที่ทุกคนร่วมคอล “ア~タッ~ク” และ “วัชโช่ย” กันแบบแสบคอและมีกล้อง VR แบบ 360 องศาติดไว้บนเกี้ยวที่มีสตาฟหามมาขึ้นบนเวที
ซึ่งแน่หละภาพจากกล้องนี้ก็น่าจะเอาไปแถมกับแผ่นไลฟ์ที่จะออกตามมา คงเป็นกล้องกระดาษไว้วางสมาร์ทโฟน+โหลดแอพเพื่อสัมผัสบรรยากาศเหมือนดั่งพวกเรานั่งอยู่บนหัวเกี้ยวมิโคชินั่น ทำให้เกิดรู้สึกอยากได้แผ่นนี้ขึ้นมาเลย..
เพลง 16 ~ 18: “みるみるUPっぷ↑↑” → “ミルキィ100ワールド”→ “冒険☆ミルキィロード!!”
ทั้งสามเพลงอยู่ในอัลบั้มที่สอง “総天然色” ทั้งหมดเลย เมื่อวานฟังแล้วรู้สึกชอบช่วงนี้สุด วันนี้ก็คงรู้สึกแบบนั้น เพลงแบบ “みるみるUPっぷ↑↑” นี่ยังทำให้สนุกอยู่ทั้งการคอล “รันรันรัน” “รุนรุนรุน” ตอบรับเนื้อเพลงหรือจะเป็นการร้องตามในท่อนฮุคที่ “มิรุ” กันยาวๆก็ล้วนแต่สนุกสนาน
ในบทความที่แล้วไม่ได้พูดถึงเพลง “ミルキィ100ワールド” ที่เป็นเพลง ED ของอนิเม “ฟิวเจอร์การ์ดบัดดี้ไฟต์” เลย แต่จริงๆเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่จังหวะสนุกและถือเป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นมากที่เคยออกซิงเกิ้ลมาในช่วงหลังๆด้วย
ในช่วง MC นี้มียูริเซอร์วิส (!!!) ให้ดูกันด้วยแหละ โดยแบ่งคู่กันสวีทหนุงหนิงให้ดู โซระมารุกับมิโครอนจะแนวๆเช็ดเหงื่อให้กันแบบเบาๆ อ่อนโยนตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง ส่วนคิตตะซังกับมิโมรินเป็นซีนป้อนน้ำให้กันดูดและเช็ดเหงื่อกันแบบรุนแรงด้วยผ้าดิบตามสไตล์คู่รักสไตล์ผู้ใหญ่ ปาดหน้าปาดคอกันไปมา (?).. ปล.ผ้าดิบที่ว่ามีให้ซื้อกันก่อนเข้าคอนเป็นเซตพร้อมพัดนั่นเอง
จริงๆยูริเซอร์วิสนี้มีทั้ง 2 วันเลยนะแต่บทความที่แล้วลืมเขียนไป
เพลง 19 ~ 21: “ いつだってサポーター!” → “正解はひとつ!じゃない!!” → “カラフルwith you”
เข้าสู่ช่วงถ่ายภาพได้! และในวันนี้ทุกคนดูเตรียมพร้อมกับ “ ชัตเตอร์แชนซ์” มากกว่าเมื่อวานมาก เพราะเริ่มรู้แล้วว่าพอถึงเวลาจะมีริบบิ้นปริมาณมากยิงออกมาและเป็นฉากที่สวยงาม
เพลงในช่วงนี้สลับ ช้า เร็ว ช้า ที่ชอบมากๆคือทั้งเพลง “正解はひとつ!じゃない!!” ที่เป็น OP ของอนิเมทีวีภาคแรก ถึงอนิเมจะเป็นอนิเมบั่นทอนปัญญาแต่เพลงเขาดีจริงๆนะ (ฮา) และยังมีตบท้ายด้วยเพลง “カラフルwith you” เพลงนี้ชอบมากจริงๆ มันฟังแล้วรู้สึกให้ความรู้สึกประมาณว่าเดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกอะไรแบบนี้ หลังจากกลับมาไทยก็วนลูปฟังเพลงนี้อีกหลายรอบเลย ขึ้นแท่นเป็นเพลงโปรดของมิลกี้โฮล์มสไปเลยทีเดียว
ในช่วงนี้บรรยายด้วยรูปน่าจะดีและเหมาะกว่าใช้คำพูดหละมั้ง?
หลังจากนี้ถือว่าหมดช่วงการแสดงหลักของวันที่ 2 เข้าสู่ช่วงอังกอร์แล้ว
BONUS TRACK: “ANSWER”
อ.โคบายาชิออนสเตจเป็นครั้งที่ 2 สำหรับเพลงนี้ที่เป็นโบนัสแทร็คแถมมากับอัลบั้มที่ 2 ของมิลกี้โฮล์มสนั้นนับว่าเป็นเพลงแถมที่คุณภาพดี ได้ฟังการร้องสดก็นับว่าเป็นโอกาสที่เพิ่มเข้ามา การร้องของโมริชิมะซังก็เนื้อเสียงดีลากยาวได้ไม่ขาดช่วงด้วย วันนี้พร้อมเพรียงกันเปิดสีน้ำเงินให้แท่งไฟจนเข้ากับบรรยากาศการฉายดาวในฮอลล์ด้วยหละ
อังกอร์ 1 ~ 3: “雨上がりのミライ” → “プロローグは明日色” → “はいぱーみるきぃあわー”
มิลกี้กลับมาแล้วในชุดเสื้อยืด+ฮัปปิ+กางเกงขาสั้น สไตล์ผ่อนคล้ายแบบเพลงอังกอร์ (อยากแปะภาพให้ดูแต่ช่วงนี้ถ่ายรูปไม่ได้แล้ว) ออกมาร้องเพลงชาติและไฮเปอร์มิลกี้ฯ ที่ดี (ลองหามาฟังแล้วร้องตามท่อน ฮาย-ปา-มิล-กี-ไทม์ ดูสิจะพบว่าสนุกมากทีเดียว)
ทั้งสามเพลงในช่วงอังกอร์เป็นเพลงที่ดี สนุกมาก ร้องตามร้องคอลสนุก แต่ว่าพอคิดว่ากำลังจะเข้าสู่เพลงสุดท้ายของไลฟ์นี้จริงๆแบบไม่มีพรุ่งนี้อีกวันก็อดใจหายนิดๆไม่ได้
เพลงสุดท้าย: “夏祭り”
ข้ามเรื่องการประกาศอนิเมซีซั่นใหม่ไปเพราะพิมพ์ไปเมื่อวานแล้ว จากนั้นทั้ง 8 คน (รวมเกส) ก็ขึ้นรถลากอีกครั้งเป็นรอบสุดท้าย ร้องเพลง “夏祭り” ที่มีทำนองกินใจอีกอีกครั้งหนึ่ง.. จริงๆแล้วการจัดธีมคอนเสิร์ตเป็นแบบงานเทศกาลอาจจะมีจุดประสงค์ให้เหมือนตอนที่พวกเราไปเที่ยวงานเทศกาลแล้วดูพลุเพื่อปิดท้ายก็ได้นะ จะได้ความรู้สึกราวๆ สนุกจัง ยังไม่อยากให้จบเลย แต่ว่าปีหน้าก็ยังมีอีก ประมาณนั้น
เป็นความรู้สึกที่ประหลาดหลังจากฟังเพลงนี้จบ และนักแสดงทุกคนมาโค้งให้กับผู้ชม ก่อนเข้าหลังเวทีเพื่อจบการแสดงของปีนี้
สรุปไลฟ์วันที่ ② + ภาพรวมไลฟ์
จบไปแล้วสำหรับการแสดงสำหรับทั้ง 2 วัน เป็นครั้งแรกที่ได้ดูไลฟ์ของมิลกี้โฮล์มส และถ้าผู้เขียนเข้าใจไม่ผิด น่าจะเป็นไลฟ์แรกของมิลกี้โฮล์มสที่มี 2 วันด้วยกระมัง (ถ้าข้อมูลผิดพลาดต้องขออภัย) จริงๆแล้วการมีไลฟ์สองวันนี่ เคยคิดว่าเป็นเรื่องยากที่คนดูจะสามารถรู้สึกสนุกได้ทั้ง 2 วันในฟีลที่เต็มที่เท่าๆกัน
แต่ว่าสำหรับการมาดูไลฟ์ในสถานที่จริงแห่งนี้แล้ว ความคิดนั้นเปลี่ยนไป ไลฟ์มีความสนุกที่อยู่ในระดับเท่ากันเลย จริงๆแล้ววันที่ 2 จะมากกว่าด้วยซ้ำ รู้สึกพีคกว่ามาก ยิ่งพ่วงกับบรรยากาศของการเชียร์แบบญี่ปุ่น บรรยากาศของงานเทศกาล.. ทำให้หลังจากดูจบแล้วก้เกิดความรู้สึกที่ว่าอยากจะดูอีกครั้งขึ้นมาในหัวขึ้นมา แย่ซะแล้วสิ
สุดท้ายของสุดท้ายในการรีพอร์ทไลฟ์มิลกี้โฮล์มส “ฟูลคัลเลอร์มัตซึริ” ในปี 2016 นี้
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
เดินทางกลับที่พักหลังจบไลฟ์ (อีกครั้ง)
ตามเดิม หลังจากได้มีความพึงพอใจกับไลฟ์กันเสร็จก็แวะดูมอนจิจจี้ตัวเดิม (?) รวมถึงสแตนด์ดอกไม้เหมือนเดิม แวะเอาของที่ล็อคเกอร์แล้วก็มาถ่ายภาพหน้าเมสเสะกันแบบดีๆเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงว่าครั้งหนึ่งเคยมาไลฟ์ในปีนี้กัน (จริงๆมีภาพหมู่ของพวกเราด้วยแต่ยังไม่ได้เอามาแปะ)
วันนี้เลิกไว บัสจึงยังไม่หมด กลับถึงที่พักได้อย่างรวดเร็วเกินคาด ราวๆทุ่มครึ่งก็ถึงแล้วหละ จริงๆทางผู้จัดงานอาจจะอยากจัดไวเพราะเป็นวันอาทิตย์ด้วย (วันจันทร์ต้องแยกย้ายกันไปทำงานหรือเรียนต่อ) ถ้างานเลิกดึกการกลับบ้านก็จะดึกตามอีก คนอยู่ภูมิภาคอื่นๆคงจะลำบากตามไปมากขึ้น
กิจกรรมต่อไปของพวกเราคือหอบหิ้วเสื้อผ้าไปร้านซักรีดแถวๆนี้และหาข้าวกินกันนั่นเอง!
จิบะไม่มีมือถือ (?)
จากคราวที่มาญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วพกเสื้อมาน้อยและเอาไปซักที่เครื่องหยอดเหรียญนั้นทำให้เกิดความสบายขึ้นจริงๆ (..) และคราวนี้ตอนที่ไปสำรวจแฟมิลี่มาร์ทตั้งแต่วันแรกก็ได้พบเจอร้านซักผ้าหยอดเหรียญระดับมืออาชีพที่ดูดีมากร้านหนึ่ง จึงจำตำแหน่งกันเอาไว้
เอาเสื้อผ้าที่จะซักยัดรวมๆใส่กระเป๋าพกพามา แล้วก็เทมือถือโยนทิ้งกันไว้ที่ห้อง มีแต่แพตตี้ที่พกกล้องมาถ่ายรูปเล่น ตอนแรกก็เดินไม่ถูก..แต่ว่าอาศัยเดาๆทางแบบสุ่มๆเอาพวกเราก็มาถึงร้านซักรีดดังกล่าวได้ไม่ยาก
ร้านนี้ไม่มีพนักงานคอยบริการ มีแต่เครื่องซักผ้าขนาดต่างๆกันปริมาณมากให้เลือกใช้ มีเครื่องปั่นผ้าด้วย เป็นทางเลือกที่ดีที่จะใช้งาน จริงๆมีเครื่องสำหรับซักรองเท้าผ้าใบและเครื่องอบฟูกด้วยนะ..! ทีนี้พวกเราก็เอาเสื้อผ้ายัดรวมๆซักเครื่องเดียวกันนั่นหละ นับเวลาก็ซัก 30 นาที
ปัญหามีนิดหน่อยคือไม่ได้พกมือถือมาจึงไม่มีนาฬิกาไว้ใช้งานด้วย การบอกเวลา 30 นาทีของพวกเราจึงต้องใช้วิธีถ่ายรูปแล้วเช็คเวลาเป็นระยะๆ เอา (ขอโทษนะมือถือที่เราคิดว่าไม่มีเน็ตแล้วแกจะไม่มีประโยชน์เลยโยนไว้) ระหว่างนี้เลยไปซุปเปอร์มาร์เก็ตขายของกินที่เจอกันตอนวันแรกเพื่อหาอาหารปรุงสำเร็จมากินกัน
ซื้อๆแล้วก็กลับมานั่งกินที่ร้านซักรีดนั่นหละ แต่พออบผ้าเสร็จพบว่ามีโศกนาฎกรรมเล็กน้อยเพราะผู้เขียนลืมปากกาเปอร์มาเนนท์สีดำไว้ที่เสื้อแล้วซักมันรวมไปพร้อมกับปั่นแห้งนั่นหละ ; _ ; ทำให้เสื้อผ้าบางส่วนกับผ้าเชียร์ที่ซื้อมาเปื้อนหมึกดำเลย (รู้สึกผิด ถ้าเจอจะซื้อมาชดเชยให้อยู่นะ..)
จากนั้นก็หอบหิ้วผ้ากลับมาห้องพักกันและจัดกระเป๋าให้เรียบร้อย เพราะว่าพรุ่งนี้เช้าพวกเราจะออกจากที่พักนี้กันแล้ว แต่จะยังไม่เข้าโตเกียว..! พรุ่งนี้เป็นการเดินทางไปเที่ยวมินามิโบโซ (南房総市) แหลมใต้สุดของจิบะ บ้านเกิดของโซระมารุที่พวกเราไปดูกันวันนี้เนี่ยแหละ~
เครดิตภาพ
บางภาพในบทความได้นำมาจากทวิตเตอร์ (https://twitter.com/milkyholmes) และเว็บไซต์หลัก (http://milky-holmes.com/) ของทางมิลกี้โฮล์มสเพื่อประกอบความเข้าใจ