แม้ซีรีส์จะชื่อว่าญี่ปุ่นไปดูไลฟ์ แต่พวกเราไม่ได้ดูไลฟ์แล้วกลับประเทศไทยกันซักหน่อย นี่ยังแค่ 1 ใน 3 ของทริปเท่านั้นเอง! วันนี้เป็นคิวของการไปเยือนสถานที่แปลกระดับอันซีน สำหรับตอนอื่นๆติดตามอ่านได้ในสารบัญเลยเน้อ
สารบัญ: ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
คลิกเพื่อดูสารบัญบทความ
ญี่ปุ่นไปดูไลฟ์
ไปเที่ยวมินามิโบโซ! – 15 พฤษภาคม 2016
ถ้ายังไม่ลืมกันวันนี้พวกเราจะไม่ได้พักที่จิบะแล้วแต่จะเข้าโตเกียวกัน แต่ทว่าในเมื่อพักที่จิบะแล้วก็อยากจะ.. เที่ยว “ความเป็นจิบะ” บ้าง แต่ว่าเมื่อลองอ่านไกด์แล้วพบว่าจังหวัดจิบะนี้ใหญ่โตใช้ได้เลยทีเดียว ฉะนั้นเลยใช้วิธีเลือกด้วยความติ่ง ง่ายใช่ไหมหละ ฉะนั้นเราจะไปเที่ยวเมืองบ้านเกิดของคุณ โซระ โทคุอิ (徳井 青空) หรือโซระมารุ ที่พวกเราไปดูไลฟ์กันมาเมื่อสองวันที่แล้วนั่นหละ และเมืองบ้านเกิดที่ว่านี้ก็คือเมือง มินามิโบโซ (南房総市) นั่นเอง
มินามิโบโซ เป็นเมืองที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นไปในทะเล (คาบสมุทร) อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดจิบะ เป็นบ้านนอกที่มีผู้คนแค่ประมาณ 38,000 คน เป็นเมืองที่ยังไม่ได้เน้นการท่องเที่ยวมากนักทำให้อาจได้รับการสัมผัสถึงวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นในต่างจังหวัด (ที่ไม่ไกลโตเกียวนัก) ได้ง่ายในระดับหนึ่ง การเดินทางไปถึงได้ด้วยรถไฟ แต่ในการเดินทางไปจุดที่เป็นคาบสมุทรนั้นจำเป็นต้องนั่งรถบัสแทนอย่างเดียว
![สัญลักษณ์ประจำเมืองมินามิโบโซ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516083-1024x682.jpg)
สัญลักษณ์ประจำเมืองมินามิโบโซ
ของขึ้นชื่อของมินามิโบโซคือ ดอกไม้, พัด, ผลบิวะ, เนื้อปลาวาฬ และการเล่นเซิร์ฟบอร์ด
อ่านจากข้อมูลก็ดูเป็นเมืองที่เรียบง่ายดี ฟังดูเหมือนจะไปเที่ยวแบบปกติๆใช่ไหมหละ ก็จริงอยู่ แต่ในการเดินทางไปในครั้งนี้นั้นมีจุดประสงค์เพิ่มเติมคือตามรอยแฟนบุ๊ค “โซระมารุโนะฮิกิดาชิ (そらまるのひきだし)” หนังสือรวมภาพและอื่นๆที่เพิ่งออกมาในช่วงนี้ และในนั้นเองก็มีหลายภาพที่ตัวโซระมารุได้มาถ่ายกับสถานที่ต่างๆในเมืองมินามิโบโซ
![แฟนบุ๊คดังกล่าว](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/07/NEOBK-1911745-216x300.jpg)
แฟนบุ๊คดังกล่าว
แค่นี้ก็น่าจะทำให้พวกเรามีแรงบันดาลใจแปลกๆที่จะมาเที่ยวเมืองบ้านนอกแล้วหละ จัดว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนั่นเอง
การเดินทางที่เริ่มด้วยการหาล็อคเกอร์
พวกเราเช็คเอาท์จากที่พัก (คงเรียกเช็คเอาท์ไม่ได้ ลักษณะของแอร์บีเอ็นบีก็แค่วางกุญแจไว้แล้วเดินออกมานั่นเอง) ตอนเช้าตรู่ตั้งแต่ราวๆ 06:30 น. เลยทีเดียว แต่ว่าถ้ายังไม่ลืมคือพวกเราเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ แน่นอนว่ามาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มีตั้งแต่ 24 นิ้ว 26 นิ้ว และ 28 นิ้ว (ใหญ่เกือบสุด) ฉะนั้นภารกิจแรกของพวกเราคือต้องเอากระเป๋าไปฝากที่สถานีรถไฟนั่นเอง
![ช่วงเช้าที่สถานีรถไฟซึดานุมะ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516005-1024x576.jpg)
ช่วงเช้าที่สถานีรถไฟซึดานุมะ
โดยเส้นทางในการเดินทางคือจะต้องมาฝากกระเป๋าที่สถานีไฟ JR ซึดานุมะ (Tsudanuma Station) โดยตอนที่มานี่ก็เริ่มรู้สึกว่าชาวซาลารี่แมนทั้งหลายก็เริ่มเดินทางกันแล้วเช่นกัน สถานีจึงมีผู้คนเป็นจำนวนมากเดินไปเดินมาจริงๆ.. และเมื่อลากกระเป๋าขึ้นลงสะพาน ขึ้นลงลิฟท์ ขึ้นลงทางลาดนานๆ ก็มาถึงหน้าสถานี และเจอล็อคเกอร์ แต่ว่า
.
.
ขนาดไม่พอจะใส่กระเป๋าเดินทางไซส์ใหญ่ได้!!
ฉะนั้นจึงต้องทำการเดินกลับไปกลับมาในบริเวณนั้นนั่นหละ ตอนแรกก็ใจหายว่าจะหาที่ฝากกระเป๋าไม่ได้ แต่ว่าจู่ๆก็รู้สึกได้ว่าโชคดี เพราะเจอล็อคเกอร์ที่มีตู้ว่างขนาดใหญ่ให้พวกเราได้ฝากของกันพอดีเลย (แม้ว่าตัวผู้เขียนจะแจ๊คพอตเจอล็อคเกอร์เสียไป 1 ตู้ เสียเงินไป 300 เยนเปล่าๆ)
![แถวๆหน้าสถานีมีงานศิลปะแบบอาร์ตๆ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516003-1024x682.jpg)
แถวๆหน้าสถานีมีงานศิลปะแบบอาร์ตๆ
ฉะนั้นจึงเป็นบทเรียนให้กับพวกเราว่าการเดินทางที่มีลักษณะของการเดินทางเปลี่ยนที่บ่่อยๆนั้น การพกพากระเป๋าเดินทางใบใหญ่อาจจะต้องวางแผนหาสถานที่ฝากกระเป๋าที่แน่นอนกว่านี้ (ไม่ควรใช้ดวงในการหา) หรือจริงๆอาจจะต้องศึกษาวิธีใช้บริการขนส่งของแบบแมวดำขนส่ง (Kuroneko Yamato) อาจจะดีกว่า ไม่ก็เปลี่ยนตัวเองเป็นแบคแพ็คเกอร์ สะพายกระเป๋าใหญ่ใบเดียวไปไหนมาไหนแทน
หลังจากฝากกระเป๋ากันสบายใจก็ซื้อเสบียงกัน เพราะจากที่เช็คตารางเวลาแล้วเราจะต้องเดินทางนานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยจะเดินทางจากสถานีนี้ด้วยสายอุชิโบะ (Uchibo Line) แวะเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีทาเทยามะ (Tateyama Station) จนถึงปลายทางที่สถานีจิคุระ (Chikura Station) กัน
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516013-e1467701194427-1024x681.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516029-1024x682.jpg)
เนื่องด้วยเป็นการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานาน (นานระดับที่บนรถไฟมีห้องน้ำให้เข้าเลยทีเดียว) เลยทำให้ต้องนั่งดูวิวสลับกับนอนหลับ ผ่านไปซักพักทิวทัศน์ข้างทางก็แลดูมีความเป็นต่างจังหวัดสูงมาก ทั้งมีไร่นา ป่า เขา และในที่สุดก็ถึงทะเล
![วิวระหว่างการเดินทาง](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516015-1024x682.jpg)
วิวระหว่างการเดินทาง
![โครงกระดูกปลาวาฬ เป็นสิ่งที่บอกว่าใกล้ถึงมินามิโบโซแล้ว (?)](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516054-1024x682.jpg)
โครงกระดูกปลาวาฬ เป็นสิ่งที่บอกว่าใกล้ถึงมินามิโบโซแล้ว (?)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516010-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516048-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516053-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516052-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516049-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516046-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516055-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516014-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516051-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516050-1024x682.jpg)
แวะเดินผ่านเมืองเล็กไปศาลเจ้าทาคาเบะ
ในที่สุดผ่านการเดินทางที่ยาวนานพวกเราก็มาถึงสถานีจิคุระ (Chikura Station) ถือว่าเป็นการเริ่มต้นในมินามิโบโซตั้งแต่ตรงนี้เนี่ยแหละ จากแปลนของพวกเราจะต้องทำการรอรถบัสของบริษัททาเทยามะนิตโตบัส (館山日東バス) ปลายทางอาวะ-ชิราฮามะ (安房白浜) โดยจะแวะลงที่ระหว่างทางที่ศาลเจ้าทาคาเบะ ที่พวกเราตั้งใจจะไปเยี่ยมเยือนกัน
![ถึงสถานีจิคุระแล้ว](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516060-1024x682.jpg)
ถึงสถานีจิคุระแล้ว
![รถบัสที่ว่า.. แต่ไม่ออก อีกนานกว่าจะออก](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516016-1024x682.jpg)
รถบัสที่ว่า.. แต่ไม่ออก อีกนานกว่าจะออก
![ตารางค่าโดยสารบัส](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516056-1024x682.jpg)
ตารางค่าโดยสารบัส
แต่พอเช็คตารางเดินรถแล้ว พวกเรามาถึงตอนราวๆ 11 โมงเช้า แต่ว่ารถคันต่อไปกว่าจะออกก็ 11:30 น. อีกทั้งระยะทางก็ไม่น่าจะไกลมากจากสถานีนี้ไปยังศาลเจ้าทาคาเบะ พวกเราเลยเปิดไอแพดช่วยนำทาง (อ้อ ตอนนี้ซิมมือถือสำหรับเล่นเน็ตใช้ได้แล้ว มีอิสระมากๆในการเดินทาง) แล้วออกเดินไปพร้อมกับชมเมืองแถวๆนี้ไปด้วยเพื่อซึมซับบรรยากาศ
![มีความเรโทรสไตล์ญี่ปุ่น](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516059-1024x682.jpg)
มีความเรโทรสไตล์ญี่ปุ่น
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516020-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516018-1024x682.jpg)
แถวนี้ดูเต็มไปด้วยร้านค้าที่ดูย้อนยุค (โดยไม่ได้ตั้งใจย้อน) ร้านค้าต่างๆเหมือนจะยังไม่เปิดมากเท่าไร ถ้าตัวเมืองแถวจิบะเมื่อ 3 วันก่อนเรียกว่าคนน้อยแล้วแถวนี้น่าจะเรียกได้ว่าร้างคนเลยด้วยซ้ำ!! ดูมีปริมาณประชากรน้อย ร้านค้าต่างๆก็เลยคนน้อยและดูโล่งๆตามไปด้วย การเดินเล่นแถวนี้ให้ความรู้สึกแปลกๆมาก สนุกดีเหมือนกัน
![ดูเก่าแบบไม่ได้ตั้งใจเก่า](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516061-1024x682.jpg)
ดูเก่าแบบไม่ได้ตั้งใจเก่า
![เดินลัดเลาะขอบทาง](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516069-1024x682.jpg)
เดินลัดเลาะขอบทาง
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516067-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516065-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516066-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516064-1024x682.jpg)
พอเดินมาก็ได้เจอกับศูนย์ยาคูลท์ (?) เหมือนจะเป็นสำนักงานประจำของสาวยาคูลท์ในบริเวณนั้นนั่นหละ ตอนแรกเจอตู้ขายของอัตโนมัติข้างหน้าด้วยเลยกะจะไปกดยาคูลท์มากิน.. แต่ว่าไม่มียาคูลท์ขายทั้งๆที่เป็นศูนย์ยาคูลท์นี่คืออะไรกัน..
ลืมไปพวกเรายังแทบไม่ได้กินข้าวเช้าเลย ตอนนี้ก็เกิดอาการหิวเลยหามินิมาร์ทแถวๆนั้นและก็พบกับร้าน+โลโก้ที่คุ้นตา ร้านยามาซากิ เหมือนร้านขนมปังที่มักมีตามห้างสรรพสินค้าในไทยเลยนั่นเอง แต่ที่พลิกกว่าคือข้างในมันมีสารพัดตั้งแต่ขนม ผักสด เครื่องเขียน สินค้าไอดอล และขนมปัง
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516070-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516071-1024x682.jpg)
เลยได้ซื้อขนมปัง น้ำ ขนม ต่างๆติดกันมา ผู้เขียนเห็นว่าผลบิวะ (枇杷, ผลไม้คล้ายมะปราง ชื่อภาษาอังกฤษคือผล Loguat ฤดูที่ออกผลคือช่วงเดือน 5) นั้นขึ้นชื่อในจังหวัดจิบะ เลยซื้อเยลลี่มาลองกินซักหน่อย มีความแปลกๆอร่อยดีหววานสดชื่นอยู่เหมือนกัน
![เยลลี่ผลบิวะ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516081-1024x682.jpg)
เยลลี่ผลบิวะ
ทีนี้หลังจากหาอะไรกินได้แล้วก็ต้องพบว่า.. ไม่สามารถหาถังขยะได้เลยในแถบนี้ เลยต้องถือถุงขยะอาหารทั้งหมดนั้นเดินไปเรื่อยๆ ผ่านชานเมืองชานไร่ ทุ่งนา สุสาน บ้านบน ดงไผ่ ดงโซลาร์เซลล์ เดินเล่นๆผ่านไปตามแต่กูเกิ้ลแมปจะนำทางไปเรื่อยๆ
บางทีตอนที่เดินอยู่นี่ก็สงสัยขึ้นมาว่านี่กำลังทำอะไรกันอยู่ มาเที่ยวที่ไหนกัน แต่ว่าก็สนุกไปอีกแบบ และได้พบว่าแม้จะเป็นต่างจังหวัดยังไงก็ตาม ความสะอาดของที่ทาง ถนน ของชาวญี่ปุ่นนั้นอยู่ในระดับสูงจริงๆ แทบจะไม่เห็นขยะเลย (ไม่เห็นถังขยะด้วย)
![เปิดกูเกิ้ลแมปแล้วเดินลัดเลาะไปตามทาง ดูวังเวงนิดๆ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516027-1024x682.jpg)
เปิดกูเกิ้ลแมปแล้วเดินลัดเลาะไปตามทาง ดูวังเวงนิดๆ
![นี่พวกเรายังคงไปถูกทางใช่ไหมครับ (?)](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516082-1024x682.jpg)
นี่พวกเรายังคงไปถูกทางใช่ไหมครับ (?)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516095-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516080-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516079-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516091-1024x682.jpg)
เดินไปใช้เวลาซักพัก (จากสถานีรถไฟ รวมการแวะซื้อของต่างๆก็ราวๆ 1 ชม.พอดี) พวกเราก็มาถึงจุดมุ่งหมายของการตามรอยที่แรก ศาลเจ้าทาคาเบะ (Takabe Shrine, 高家神社)
![เมื่อเห็นป้ายตรงนี้ก็ถึงศาลเจ้าทาคาเบะแล้วหละ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516034-1024x682.jpg)
เมื่อเห็นป้ายตรงนี้ก็ถึงศาลเจ้าทาคาเบะแล้วหละ
ศาลเจ้าทาคาเบะ เป็นศาลเจ้าชินโตแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่บูชาเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร จึงมักเป็นจุดสำคัญที่เหล่าพ่อครัวแม่ครัวจะมาขอพรในการทำอาหารต่างๆ เช่น ขอให้ทำอาหารได้เก่งกาจยิ่งขึ้น ขอให้ซอสโชยุที่ปรุงในแต่ละปีอร่อยมากขึ้น ขอให้เหล้าที่หมักรสชาติดีขึ้น รวมถึงพวกชาวประมงก็มาขอให้จับปลาอร่อยๆได้เยอะขึ้นด้วย ในศาลนี้เองมักจะเป็นที่ๆชาวครัวจะเอามีดเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาถวายคืนให้กับเทพเจ้าเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่อุปกรณ์ทำมาหากินด้วย
ปกติแล้วที่ศาลแห่งนี้จะมีงานบูชาเทพเจ้าอยู่ประจำปี ปีละ 2 ครั้ง (มีแล่ปลาทูน่าใหญ่ถวายเทพเจ้าด้วย) และในวันที่พวกเรามานี้ก็เฉียดไป 1 วัน งานจะมีในวันที่ 17/5/2016 นั่นเอง (แต่ก็อาจจะดีไปอย่างหนึ่งคือถ้ามีงานเทศกาลคนคงจะเยอะมากแน่ๆ) ด้วยเหตุนี้ทำให้บริเวณศาลเจ้าเต็มไปด้วยเตนท์เทศกาลและการจัดเตรียมสถานที่ต่างๆ รวมถึงมีสถานีโทรทัศน์อย่าง NHK คอยมาเตรียมถ่ายรายการพิเศษ
![โทริอิหินบริเวณทางเข้าศาลเจ้า](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516111-1024x682.jpg)
โทริอิหินบริเวณทางเข้าศาลเจ้า
![บริเวณศาลาหลัก](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516038-1024x682.jpg)
บริเวณศาลาหลัก
![ท่านเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร (?)](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516113-1024x682.jpg)
ท่านเทพเจ้าแห่งการทำอาหาร (?)
![มุมนี้เป็นมุมที่เหมือนในแฟนบุคมาก (ตามนี้) เลยต้องถ่ายเอาไว้สินะ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516040-1024x682.jpg)
มุมนี้เป็นมุมตั้งใจถ่ายเพราะเป็นมุมในแฟนบุค (ตามนี้)
ก็แวะเดินเล่นถ่ายรูปตามจุดต่างๆพอสมควร (แต่อยู่ได้ไม่นานนักเพราะที่นี่ดูวุ่นๆกันเพราะมีการถ่ายรายการนั่นหละ) และแน่นอนก็แวะซื้อเครื่องรางมาตามระเบียบ ด้วยการที่ไม่ว่าจะศาลเจ้าที่ไหนของญี่ปุ่นก็มักจะมีสินค้าที่ระลึกแบบที่หาได้เฉพาะที่ให้ได้ซื้อกันเพื่อเป็นศิริมงคล
เครื่องรางที่นี่น่าจะอำนวยพรให้ทำอาหารเก่งขึ้นนะ ทั้งนี้คงต้องฝึกทำอาหารด้วยหละไม่งั้นจู่ๆไม่น่าจะเก่งขึ้นได้! อีกอย่างที่ไม่ลืมถ่ายรูปมาก็เป็นแผ่นป้ายไม้ขอพร (เอมะ) ที่โซระมารุมาเขียนไว้ด้วย~
![เอมะของโซระมารุ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516131-1024x682.jpg)
เอมะของโซระมารุ
![เครื่องรางประจำศาลเจ้านี้เป็นตุ๊กตาไม้](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516116-1024x682.jpg)
เครื่องรางประจำศาลเจ้านี้เป็นตุ๊กตาไม้รูปเทพเจ้า (?)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516119-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516115-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516120-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516117-1024x682.jpg)
อีกอย่างที่ควรสะกิดใจกันขึ้นมาตั้งแต่แรกคือศาลเจ้านี้เป็นจุดที่ชาวมินามิโบโซเขาทำแคมเปญ “Minamiboso Lovers’ Spot” ที่เป็นจุดไว้ให้คู่รักเดินทางมาเดทกันในเขตเมืองนี้หละ (มีอยู่ 11 หรือ 14 จุดนี่หละ) สำหรับจุดนี้เป็นหมายเลข 7 ด้วยนะ คงเหมาะกับคู่แต่งงานใหม่มาแล้วก็ขอให้ทำอาหารอร่อยๆให้สามีทานตอนเช้าตอนเย็น อะไรแบบนั้น (ฮา)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516110-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516031-1024x682.jpg)
หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปชมบรรยากาศซักพักก็เดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อหาป้ายรถบัสไปจุดหมายต่อไป เปิดๆกูเกิ้ลแมปเพื่อหาตำแหน่ง(ยังคงพึ่งพาได้จริงๆ แม้จะอยู่ในต่างจังหวัดขนาดนี้) ที่น่ากลัวคือจำนวนรถบัสนั้นตกอยู่ ชม.ละ 2 คันเท่านั้นเอง ตอนรอไปก็วังเวงไปว่ารอถูกรึเปล่า รถมันยังเดินแน่นะ (ฮา)
โดยจุดมุ่งหมายต่อไปที่เราจะไปคือปลายทางของรถบัสสายเดิมที่เคยคิดจะรอกันที่สถานีรถไฟ นั่นคือ ปลายทางอาวะ-ชิราฮามะ (安房白浜) นั่นเอง
![เดินมารอรถบัสกันตรงนี้แหละ ดูไร้คนจนน่าสงสัย](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516148-1024x682.jpg)
เดินมารอรถบัสกันตรงนี้แหละ ดูไร้คนจนน่าสงสัย
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516152-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516151-1024x682.jpg)
ริมทะเลกับประภาคารโนจิมาซากิ
นั่งรถมาอีกราวๆ 30 นาที โดนค่าโดยสารไปกันคนละ 520 เยน ก็มาถึงจุดที่เรียกกันว่าใต้สุดของจังหวัดจิบะกันแล้ว โดยจุดมุ่งหมายที่จะเดินไปกันก็คือริมทะเลเพื่อไปดูประภาคารที่เป็นสถานที่ตามรอยต่อไป ระหว่างเดินก็ได้พบว่าบริเวณนี้แทบจะไม่มีการพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเท่าไรเลย (เห็นโรงแรมอยู่แค่ 1 แห่ง) เป็นบ้านริมทะเลสไตล์ญี่ปุ่นกันจริงๆนั่นหละ อากาศก็สดชื่นมากด้วย
![ระหว่างทางเดินไปริมทะเล](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516162-1024x682.jpg)
ระหว่างทางเดินไปริมทะเล
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516166-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516163-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516164-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516168-1024x682.jpg)
![เจอเรือประมงเล็กๆจำนวนหนึ่งด้วยหละ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516167-1024x682.jpg)
เจอเรือประมงเล็กๆจำนวนหนึ่งด้วยหละ
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516170-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516171-1024x682.jpg)
พอเดินมาจนได้ที่ (ซัก 15 นาที) เดินชมทะเลชมบรรยากาศลมเย็นแดดจ้าแบบสบายๆซักพัก ก็ได้พบว่าบริเวณนี้มีความเป็นหมู่บ้านชาวประมงแบบแปลกๆ.. เช่นว่าจู่ๆก็เจอคุณลุงพายเรือมาจากทะเล (มาจากไหนไม่รู้) แล้วก็เอาเรือมาจอดไว้ชายฝั่งเดินขึ้นไป อะไรแบบนี้ หรือจะเป็นร้านขายอาหารทะเลแบบเล็กๆที่ไปจับวัตถุดิบกันมาจากแถวๆนั้น เป็นต้น
![บริเวณย่านร้านอาหารทะเลแถวประภาคาร](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516177-1024x682.jpg)
บริเวณย่านร้านอาหารทะเลแถวประภาคาร
![บรรยากาศที่ไร้ผู้คนมากๆ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516165-1024x682.jpg)
บรรยากาศที่ไร้ผู้คนมากๆ
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516175-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516172-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516173-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516176-1024x682.jpg)
จริงๆที่เดินมาถึงบริเวณร้านอาหารนี้แล้วก็ย่อมหมายถึงพวกเรามาถึงทางเข้า ประภาคารโนจิมาซากิ (Nojimazaki Lighthouse, 野島埼灯台) กันแล้วนั่นเอง
![ประภาคารโนจิมาซากิ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516180-1024x682.jpg)
ภาพของประภาคารดังกล่าว
ประภาคารโนจิมาซากิ ตั้งอยู่ใต้สุดของจังหวัดจิบะ เป็นหนึ่งในแปดประภาคารที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยเมจิด้วยเหตุผลของการเปิดประเทศในช่วงปี 1858 (ข้อบังคับจากสนธิสัญญามิตรภาพอังกฤษ-ญี่ปุ่น) ประภาคารแห่งนี้ถูกออกแบบและสร้างโดย ฟร็องซัว เลองส์ แวร์นี (Francois Leonce Verny) วิศวกรชาวฝรั่งเศส เคยพังไปรอบหนึ่งเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่
ปัจจุบันประภาคารนี้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ และยังเป็น “1 ใน 100 ประภาคารที่สำคัญที่สุดของโลก” อีกด้วย
หมดช่วงขายตรงประวัติศาสตร์ พวกเราก็เดินขึ้นเนินกันดุ่มๆไปดูประภาคาร ระหว่างทางก็มีศาลเจ้าเล็กๆที่ไม่ได้ค้นหาชื่อด้วยว่าเป็นศาลเจ้าอะไร ก็แวะดูแวะไหว้กันซักนิด ศาลนี้มีเทพสมบัติทั้ง 7 เป็นรูปปั้นหินด้วยนะ ปลัดขิกก็มี ช่างมีความหลากหลายยิ่งนัก
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516129-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516181-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516184-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516086-1024x682.jpg)
พอเดินเข้าไปบริเวณประภาคารก็ได้พบว่าในส่วนนี้จะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่ง (200 เยน) ถ้าอยากขึ้นไปดูวิวด้านบน (และจุดสำหรับการตามรอยโซระมารุก็อยู่ด้านบนประภาคาร) ไหนๆแล้วเพื่อซึมซับประวัติศาสตร์ก็เลยต้องจ่ายเงินขึ้นไปเดินเล่นกันเสียหน่อย
อนึ่งในบรเิวณนี้ก็เห็นว่าเป็น Minamiboso Lovers’ Spot อีกที่หนึ่งด้วยนะทั้งบนประภาคารและในบริเวณรอบข้างที่เป็นริมทะเลที่มีชายหาดและโขดหินสวยๆ ที่เดี๋ยวเราจะไปเดินดูต่อเนื่องต่อจากขึ้นประภาคารกันนี่หละ
![ขึ้นไปข้างบนกัน](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516186-1024x682.jpg)
ขึ้นไปข้างบนกัน
![มีบอกวิธีหลบแผ่นดินไหวด้วยเมื่ออยู่ในประภาคาร](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516193-1024x682.jpg)
มีบอกวิธีหลบแผ่นดินไหวด้วยเมื่ออยู่ในประภาคาร
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516194-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516196-1024x682.jpg)
ประภาคารนี้มีความสูง 30 เมตรและต้องขั้นบันไดประมาณ 120 ขั้น เพื่อไปถึงจุดบนสุด (ก่อนขะขึ้นบนสุดบันไดจะชันมาก ต้องระวังกันด้วยหละ) เมื่อขึ้นถึงชั้นบนสุดก็ได้พบกับวิวสวยงามของแหลมสมุทรแห่งมินามิโบโซแห่งนี้!! มีความเย็นจากลมที่พัดมาและวิวจากความสูงทำให้รู้สึกหายเหนื่อยที่เดินขึ้นมาทีเดียว
ในบริเวณนี้เป็นอีกที่ๆในแฟนบุคของโซระมารุมาถ่ายกัน ฉะนั้นถ้าอยากจะมาถ่ายรูปเลียนแบบ (?) ก็ต้องแวะกันมาหละนะ
![ทะเลและชายฝั่งจากมุมมองข้างบน](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516199-1024x682.jpg)
ทะเลและชายฝั่งจากมุมมองข้างบน
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516198-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516197-1024x682.jpg)
![อีกหนึ่งมุมล้อเลียน เอ๊ย ประทับใจจากในแฟนบุค](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516112-1024x682.jpg)
อีกหนึ่งมุมล้อเลียน เอ๊ย ประทับใจจากในแฟนบุค (ตามนี้)
หลังจากชมบรรยากาศด้านบนก็แวะมาในส่วนของมิวเซียมข้างล่างซักแปป โดยจะเป็นส่วนจัดแสดงโคมฉายแสง (มั้ง) ของประภาคารว่าสมัยก่อนใช้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันก๊าด และใช้เลนส์ขยายแสงแบบเฟรชเนล ก็ได้รับความรู้กันไปบ้างอย่างละนิดอย่างละหน่อยเนื่องจากไม่มีภาษาอังกฤษประกอบ
![มีโคมไฟที่ใช้จริงให้ดูด้วย](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516094-1024x682.jpg)
มีโคมไฟที่ใช้จริงให้ดูด้วย
![อุปกรณ์จากสมัยโบราณ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516189-1024x682.jpg)
อุปกรณ์จากสมัยโบราณ
และจุดที่ทำให้แถวนี้กลายเป็นจุดที่ดีสำหรับคู่เดทคงจะเป็นบริเวณริมทะเลที่มีโขดหินขนาดใหญ่จนดูเป็นเอกลักษณ์จำนวนมาก และยังมีการเอาเก้าอี้ไปตั้งไว้ในจุดที่น่าจะสามารถชมทะเลได้สวยที่สุดของบริเวณนี้ (นั่งได้ 3 คน..) ไหนๆแล้วเลยเดินขึ้นไปนั่งกัน และพบว่าวิวจากบริเวณนี้ก็ดีสุดจริงๆตามที่คุยไว้เลย
![เดินมาชมวิวกันริมทะเล](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516210-1024x682.jpg)
เดินมาชมวิวกันริมทะเล
![ChibaTokyo-20160516214](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516214-1024x682.jpg)
ทะเลบริเวณนี้ไม่มีชายหาดสวยแต่ว่าเป็นโขดหินขนาดใหญ่จำนวนมาก
![สุดยอดจุดนั่งชมวิวประจำมินามิโบโซ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516217-1024x682.jpg)
สุดยอดจุดนั่งชมวิวประจำมินามิโบโซ
![วิวจากตรงเก้าอี้](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516228-682x1024.jpg)
วิวจากตรงเก้าอี้
![มีรั้วกันตก..ที่มันกันไม่ได้มั้งเนี่ย](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516230-1024x682.jpg)
มีรั้วกันตก..ที่มันกันไม่ได้มั้งเนี่ย
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516225-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516241-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516242-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516206-1024x682.jpg)
![มีประติมากรรมแปลกๆด้วยนะ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516205-1024x682.jpg)
มีประติมากรรมแปลกๆด้วยนะ
ได้เวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้ + กับพวกเราที่่ไม่ได้กินข้าวเช้ากันเต็มที่มา + การเดินที่ยาวไกล ทำให้ความหิวมาจนถึงจุดที่ไม่ไหวแล้ว จึงต้องหาร้านข้าวแถวๆนั้นหละ และไหนๆก็เป็นการตามรอยแล้ว.. จะกินร้านข้าวเดียวกับที่โซระมารุไปลองกินก็คงไม่แปลก (!) จึงเดินย้อนกลับมาจากส่วนประภาคารแล้วแวะกินข้าวที่ร้าน มิซุรุเมะ (みずるめ) ที่เป็นร้านอาหารชุดกัน
![ร้านมิซุรุเมะ มีรูปกุ้งสองตัวที่ป้ายร้านคือของแท้ (ฮา)](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516178-1024x682.jpg)
ร้านมิซุรุเมะ มีรูปกุ้งสองตัวที่ป้ายร้านคือของแท้ (ฮา)
ในร้านนี้เป็นร้านอาหารชุดและอาหารทะเล เน้นอาหารทะเลนั่นหละ แถวๆนี้ก็อยู่ริมทะเลฉะนั้นความสดของวัตถุดิบน่าจะรับประกันได้แน่นอน เลยสั่งข้าวหน้าปลาดิบกับข้าวชุดปลาทอดมากินกัน สนนราคากันคนละประมาณ 1,800 เยนเท่านั้น (แต่มันเป็นมื้อที่เกือบจะแพงสุดในทริปแล้ว)
รสชาติอร่อยและสด รู้สึกดีที่ได้กินเลยทีเดียวหละ (หัวเราะ) นอกจากนั้นยังได้รับการบริการที่ดีจากคุณน้าเจ้าของร้านด้วยแม้พวกเราจะพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแต่ก็รู้สึกว่าเขาพยายามที่จะรับแขกอยู่นะ และโชคดีที่เมนูมีภาพประกอบเกือบหมด
จริงๆถ้ากินพวกอาหารทะเลย่างน่าจะอร่อยเด็ดกว่านี้ แต่ว่าด้วยงบประมาณจึงไม่น่าจะทำเช่นนั้นได้
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516158-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516157-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516251-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516155-1024x682.jpg)
![บรรยากาศภายในร้าน](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516252-1024x682.jpg)
บรรยากาศภายในร้าน
จริงๆออกจะไม่สงสัยในความสดเท่าไร เนื่องจากเมคุงเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เดินเล่นริมทะเล เจอคุณลุงคนนึงขี่มอไซค์ฯมาจอดริมทะเล ถือถุงตาข่ายมา แล้วก็เดินลงทะเลไปดุ่มๆเลย.. คงไปจับอะไรแถวๆนี้มากินมาขายหละมั้ง นับว่าใกล้เคียงธรรมชาติดีจัง
การเดินทางกลับโตเกียวที่ยาวนานกับป้ายรถเมล์แปลกๆ
ดูจากเวลาที่ล่วงเลยมาเป็นบ่าย 3 โมงเย็น กำหนดการที่จะไปขึ้นเขาอีกที่หนึ่งคง (โนโกกิริยามะ, 鋸山) ต้องเอาไว้ก่อนเพราะปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นแล้วหละไม่น่าจะขึ้น+ลงทัน เลยเดินไปหาป้ายรถบัสเพื่อต่อไปยังสถานีรถไฟกันแบบสบายๆ แต่ว่าไม่ใช้วิธีย้อนกลับทางเดิมแล้วหละเพราะจะเป็นการอ้อมเปล่าๆ
![เดินทางไปตามถนน หาป้ายรถบัส](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516255-1024x682.jpg)
เดินทางไปตามถนน หาป้ายรถบัส
![เจอแมว!](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516254-1024x682.jpg)
เจอแมว!
![พวกเรามาทำอะไรที่นี่ มีแต่ภูเขาและท้องฟ้า (เหมือนเคยพิมพ์ไปแล้ว)](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516258-1024x682.jpg)
พวกเรามาทำอะไรที่นี่ มีแต่ภูเขาและท้องฟ้า (เหมือนเคยพิมพ์ไปแล้ว)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516256-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516257-1024x682.jpg)
พอมาถึงป้ายรถบัสก็ได้พบว่า.. รถบัสเพิ่งออกไปซักแปปเดียวก่อนพวกเรามา เลยต้องรอกันยาวๆเลยหละ แต่ว่าป้ายตรงนี้มีความน่ากลัวสูงมาก น่าจะเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่ได้เห็นสิ่งของสาธารณะมีความสกปรกจากฝุ่นและหยากไย่แมงมุม..คงเน้นเอาไว้ยืนหลบแดดหลบฝนจริงๆ แต่ว่าข้างในมีที่นั่งด้วยหละนะ แค่ฝุ่นจับจนนั่งไม่ลง เอ๊ะ..ไม่ใช่แค่หยากไย่แมงมุมแต่มีกระทั่งไส้เดือนดินที่ออกมาเดินเผ่นผ่านม้วนตัวกระโดดไปมาให้สาวๆในปาร์ตี้ตกใจกันด้วยแหละ (นานๆทีจะเห็นร้องวี๊ดว้ายกัน~!) หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรทำ นั่งๆ ยืนๆ รอๆ ซื้อน้ำจากตู้กดน้ำอัตโนมัติ
.
.
.
ใช่แล้ว ในกระทั่งที่แบบนี้ก็มีตู้กดน้ำจริงๆ.. แม้จะเป็นที่ๆรถบัสผ่านมา ชม.ละ 1 คันขนาดนี้คุณก็ยังหาที่กดน้ำได้ เลยไปนั่งกดน้ำดื่มนั่งกินข้างลำธารเล็กๆ สบายๆ รอกัน แม้ว่าสถานที่ๆมานั่งกินน้ำจะไม่อำนวยเท่าไรเพราะไปนั่งกันริมขอบแคบๆที่หงายเงิบไปก็หามส่งโรงพยาบาลกลับไทยได้ทันที (ไม่แนะนำให้เลียนแบบ) อ้อ ลืมไปเลย.. พวกเราที่แบกขยะกันมาตั้งแต่เช้าจนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถพบเจอถังขยะได้แม้แต่แห่งเดียวในมินามิโบโซ.. พวกเขาไปทิ้งที่ไหนกันน่ะ
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516202-682x1024.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516203-682x1024.jpg)
จนรถบัสมาก็เลยได้นั่งยาวไปจนกว่าจะถึงปลายทางที่สถานีรถไฟทาเทยามะ (Tateyama Station, 館山駅) ซึ่งเป็นจุดที่ดูๆแล้วมีอะไรให้ท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันนะดูจากปริมาณร้านขายของฝากในบริเวณสถานีรถไฟนี้ (มีพวกบิวะ, เนื้อปลาวาฬ, ถั่วลิสง ที่ขึ้นชื่อ) อ้อ แน่นอนว่ามีถังขยะแล้ว
![ChibaTokyo-20160516259](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516259-1024x682.jpg)
สถานีรถไฟทาเทยามะ
![ChibaTokyo-20160516260](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516260-1024x682.jpg)
ของขึ้นชื่อคือถั่วลิสง เลยลองกินซอฟท์ครีมถั่วลิสงดู รสชาติราวๆโก๋แก่
และหลังจากนั่งรถไฟสายอุชิโบะกลับไปที่สถานีซึดานุมะที่พวกเราฝากกระเป๋าเดินทางเอาไว้ในล็อกเกอร์เมื่อตอนเช้า ก็เป็นอันครบถ้วนการเดินทางในมินามิโบโซของพวกเราแล้วหละ แถวสถานีซึดานุมะในยามหัวค่ำนี้ดูแตกต่างกับตอนเช้าเหลือเกิน ทุกคนไม่ดูเร่งรีบมาก และเป็นเมืองเล็กๆที่ดูมีสีสันชีวิตชีวาพอสมควรเลยทีเดียวหละ
หรือไม่ก็เพราะพวกเราไปบ้านนอกกันมาเต็มๆทั้งวันเลยดูอะไรมีแสงสีก็เจริญไปหมดก็ไม่รู้
![กลับมาที่สถานีซึดานุมะที่จิบะแล้ว](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516267-1024x682.jpg)
กลับมาที่สถานีซึดานุมะที่จิบะ
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516268-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516266-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516270-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516271-1024x682.jpg)
หลังจากเอากระเป๋ากลับมาเสร็จทุกคน ก็เดินทางเข้าโตเกียวด้วยสายชูโอ/โชบุ (Chuo/Sobu Line) ต่อรถที่สถานีรถไฟ JR โอจาโนะมิซุ (Ochanomizu Station) และเดินทางอีกนิดหน่อยจนถึงสถานีอาวาจิโช (Awajicho Station) ที่อยู่ใกล้ที่พักใหม่มากที่สุด อนึ่ง จากสถานีนี้เดินแค่อีก 5 นาทีก็ถึงที่พักของพวกเราแล้วหละ แต่ว่า
![มาถึงโตเกียวแล้ว](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516264-1024x682.jpg)
มาถึงโตเกียวแล้ว
มีการเดินขึ้นลงบันไดที่ซับซ้อนหลายต่อมาก.. การแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นลงบันไดไม่ใช่เรื่องสนุกจริงๆ แม้จะพยายามเดินหาลิฟต์แล้ว แต่บางสถานีก็ไม่มีจริงๆฉะนั้นต้องระวังด้วย + เผื่อแรงไว้สำหรับแบกกระเป๋า
ที่พักใหม่ของพวกเราในวันนี้คือ นากาโอกะบิลด์ (長岡ビル) ชั้น1 ที่อยู่ในเขตคันดะ.. หรือถ้าจะให้เจาะจงไปมากกว่านี้คือ เดินแค่ 10 นาทีจากย่านของติ่ง อากิฮาบาระ (Akihabara) นั่นเอง! จองผ่านแอร์บีเอ็นบีเช่นเคย
![ทางเข้าที่พัก](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516262-1024x682.jpg)
ทางเข้าที่พัก
![กว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516277-1024x768.jpg)
กว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ
สำหรับพวกเราที่เหนื่อยล้าจากการแบกกระเป๋าและเดินทางอาจจะล้มตัวลงนอนเสียตั้งแต่ตอนนี้ แต่ไม่ใช่..!!! เพราะว่ายังประมาณสองทุ่มนิดๆเท่านั้นเลยวางกระเป๋าแล้วเข้าไปหาอะไรเดินเล่นกันที่อากิบะ วันนี้ตัวผู้เขียนอยากจะซื้ออุปกรณ์กล้องซักหน่อยเลยขอเลือกเข้า โยโดบาชิอากิบะ (Yodobashi Akiba, ヨドバシAkiba) ที่เป็นห้างใหญ่ขายสารพัดอุปกรณ์ไฟฟ้าและของเล่นก่อน (ยังไงก็ปิดสี่ทุ่มแน่นอน ต่างจากร้านอนิเมอื่นๆที่ราวๆสามทุ่มก็ปิดแล้ว)
![เดินเข้าอากิบะตามประสาคนโหยหาแสงไฟจากเมือง](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516272-1024x682.jpg)
เดินเข้าอากิบะตามประสาคนโหยหาแสงไฟจากเมือง
![มุมจากหัวสะพานข้ามไปแหล่งซื้อของ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516283-1024x682.jpg)
มุมจากหัวสะพานข้ามไปแหล่งซื้อของ
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516281-1024x682.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516282-1024x682.jpg)
ประสบการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่่น (?)
ตอนที่ได้เดินซื้อของในโยโดบาชิอากิบะนี้ ขณะที่กำลังเพลิดเพลินเดินเล่นกันสามคน จู่ๆก็ สั่น ขึ้นมา ไม่ใช่เพราะของแพงแต่อย่างใด แต่ว่าอาคารทั้งอาคารสั่นไหวเล็กๆ แค่พอรู้สึกได้ เป็นเวลาประมาณ 5 – 10 วินาทีเท่านั้นเองมั้ง ก็เลยได้เก็ตแล้วว่านี่หละประสบการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นที่่เป็นที่กล่าวขวัญว่าต้องหาโต๊ะแล้วก้มลงไปหลบหรือรีบไปทุ่งกว้างข้างล่าง
แต่พวกเราใจเย็นกว่านั้นมาก สมเป็นคณะทัวร์สโลว์ไลฟ์ ใช้วิธีดูพฤติกรรมของพนักงานก่อน.. พนักงานนิ่ง ทุกคนนิ่ง ก็เลยเดินดูของแบบนิ่งๆต่อไปแบบสบายใจสุดๆ แต่พอเปิดเช็คทวิตเตอร์และห้องแชทติดแอร์ก็ได้พบว่่าเพื่อนๆเป็นห่วงเพราะว่ามีการออกข่าวว่าแผ่นดินไหวที่่ญี่ปุ่นหนักนิดหน่อย ประมาณ 4.0 ตามมาตราริกเตอร์ เลยต้องบอกว่าพวกเราสบายดี อย่าได้ตกใจไป
ประเด็นคือมันไหว.. โดยมีจุดศูนย์กลางแถวๆจิบะ
.
.
.
นี่ถ้าตอนขึ้นประภาคารแล้วไหวขึ้นมาอาจจะได้ใช้วิธีหลบแผ่นดินไหวตามที่ป้ายประกาศที่อ่านเจอบอกไว้ก็ได้นะ (ลองย้อนขึ้นไปอ่านดู ฮา) ไม่ก็โดนน้ำพัดตกทะเล..
![ของติ่งที่แวะดูในโยโดบาชิขณะเกิดแผ่นดินไหวไปสดๆร้อนๆ](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516284-1024x576.jpg)
ของติ่งที่แวะดูในโยโดบาชิขณะเกิดแผ่นดินไหวไปสดๆร้อนๆ
สุดท้ายหลังจากมีประสบการณ์ตื่นเต้นเล็กๆ ซื้อของจนพอใจอีกหน่อย ก็เดินทางกลับที่พักกัน จากอากิบะนี่กลับที่พักได้แบบสบายๆจริงๆไม่เมื่อยด้วย นับว่าดีงามสำหรับคนที่ต้องการเดินอากิบะเยอะๆหละนะ
รีวิวที่พักนากาโอกะบิลด์ชั้น 1
ปิดท้ายด้วยการรีวิวที่พัก แน่นอนว่าคราวนี้มีดี
- ใหญ่มาก ในราคา 800 บาทโดยประมาณต่อคืนต่อคนนับว่าดีมากๆ สบาย มีความสะอาด เตียงนุ่มไม่เก่า แต่ใครไม่ชอบปีนอาจจะลำบากเล็กๆ
- ทำเลดีมาก ใกล้อากิบะ ใกล้สถานีรถไฟมาก ตอนดึกไม่ได้ยินเสียงรถไฟ แม้จะอยู่ชั้น 1 แต่ว่าไร้เสียงรบกวนจากภายนอกแม้จะเป็นใจกลางเมืองใหญ่
- ห้องน้ำมีแยกส่วนของส้วมและส่วนอาบน้ำ แต่ว่าไม่มีผ้ากั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อ จึงต้อง DIY กันเอาเอง
- ไดร์เป่าผม สบู่ แชมพู พร้อม แต่ว่า..ผ้าขนหนูต้องไปเช่าที่ชั้น 2 ราคา 100 เยน ซึ่งไม่ได้เขียนบอกเอาไว้ในรายละเอียดตอนที่จอง และผู้เขียนไม่รู้!!! เลยต้องออกเดินทางไปตอนเที่ยงคืนกว่าๆฝ่าลมหนาวไปซื้อผ้าขนหนูมาถึงราคา 1,600 เยนจาก ดอง กิโฮเต้ สาขาอากิบะ (เปลือง!!!)
- มีเครื่องซักผ้าให้บริการที่ชั้น 2 เช่นเดียวกัน ฟรี แต่ว่าไม่มีที่ปั่นแห้ง
- ตู้เย็น ไมโครเวฟ มีหมด
- ใกล้มินิมาร์ท ใกล้ร้านอาหาร ใกล้ร้านราเม็งและอื่นๆ
- ใช้ระบบเข้าออกด้วยรหัสและกุญแจ มีความปลอดภัย 2 ชั้น
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516280-1024x768.jpg)
![](https://withbarrel.com/wp-content/uploads/2016/06/ChibaTokyo-20160516279-1024x768.jpg)
สรุปได้คำเดียวว่าดีมาก ประทับใจสุดๆ ถ้าใครมาเที่ยวโตเกียวแล้วหละก็แนะนำที่พักแห่งนี้เลย คุ้มราคาจริงๆ ขอให้ตอนได้มาญี่ปุ่นครั้งต่อไป ยังคงใช้บริการแอร์บีเอ็นบีได้ด้วยเถิด