ในทุกๆ ปี เกมสคูลเฟส (Love Live! School Idol Festival) จะจัดงานเทศกาลขอบคุณผู้เล่น หรือที่เรียกกันว่าคันฉะไซ (感謝祭) ภายในงานจะมีโซนจัดแสดง มินิเกม และสเตจแข่งขันเกม+ประกาศข้อมูลใหม่ๆ ของเกมและซีรีส์เลิฟไลฟ์ ที่ผ่านมางานจะจัดช่วงกลางปี (เดือนพ.ค.-ส.ค.) และจัดงานที่โตเกียว อิเคบุคุโระ ตึก Sunshine City เว้นแต่ปี 2018 จัดงานทั้งหมด 3 ครั้ง 3 จังหวัด ไล่มาตั้งแต่โอซาก้า (INTEX Osaka) ชิซึโอกะ นูมาสึ (Plaza Verde) และโตเกียว (Tokyo Big Sight)
ส่วนงานของปีนี้จัดขึ้นในวันที่ 21-22 กันยายน 2019 อาคาร Belle Salle Akihabara เข้างานได้ตั้งแต่ 9.30 – 18.00 น. ไม่ต้องเสียค่าเข้างาน มีสเตจสำหรับเล่นมินิเกมและโซนจัดแสดง
ตัวผู้เขียนตอนนี้เองก็อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นพอดี เลยถือโอกาสแวะไปซื้อของและเดินเล่นสักหน่อย อย่างไรก็ตาม บทความนี้ออกแนวบันทึกส่วนตัวที่บ่นเสียเป็นส่วนมาก ไม่ใช่รีพอร์ตงานใดใดทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้มันก็มีที่มาที่ไป เอาเป็นว่าอ่านกันได้ตามสบายเลยค่ะ!
ก่อนวันงานหนึ่งวัน (20 ก.ย. 19)
เพื่อไม่ให้หลงทางในวันจริง เราก็ต้องมาทัวร์สถานที่ก่อนจริงไหมคะ (ไม่จริง) จริงๆ ก็คือเข้าเมืองมาซื้อของแล้วบังเอิญเจอสถานที่จัดงานล่ะค่ะ ไม่ได้หาข้อมูลเลยว่าตึกอยู่ตรงไหน แต่เดินๆ ไปก็เจอเฉยเลย บ้าจริง สถานที่จัดงานไม่ห่างจากJRอากิบะมากค่ะ เดินออกจากทางออกElectric Town Exitมาแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
ก่อนวันงานหนึ่งวันก็เซ็ตฉากกันเรียบร้อยแล้ว
สถานที่จัดงานกินที่แค่ชั้น 1 ของตึกนี้ ตอนนั้นที่เดินผ่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนกระทั่งวันจริงได้มาเจอฝูงชนนี่แหละค่ะ
งานวันที่สอง (22 ก.ย. 19)
เราเลือกไปงานวันที่สองเพราะอยากไปดูสเตจประกาศข้อมูลใหม่ของ SIFAS ค่ะ บวกกับอากุปอง (โอนิชิ อากุริ คนพากย์อุเอฮาระ อายูมุ) ลูกน้อยของเราขึ้นสเตจทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นเลย ไหนๆ งานก็ฟรีแล้วไปดูหน้าลูกสักหน่อยคงไม่เป็นไร ขณะที่นั่งกินข้าวเช้าอย่างสบายอารมณ์ก็นั่งเล่นทวิตเตอร์ไปด้วย แล้วสะดุดกับทวิตอันนี้พอดี
グッズ販売整理券は、現在最後尾の14時30分集合の券をお渡ししております。 https://t.co/39Iw8Bvq5P
— ブシロード グッズ EC&完売情報 (@BushiM_info) September 21, 2019
เนื้อความคือตอนนี้ตั๋วอนุญาตเข้าพื้นที่ซื้อสินค้า แจกถึงคิวที่เข้าซื้อได้ตอนบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ตอนนั้นตกใจมาก ยังเช้าอยู่เลยไม่ใช่เหรอ!! เลยรีบกินข้าวให้เสร็จแล้วแต่งตัวออกจากบ้านทันที ไปช้ากว่านี้เดี๋ยวของที่อยากได้จะหมดซะก่อน โกๆๆ
ดูจากอีกฟากหนึ่งของถนนแล้ว พบว่ามีคนมางานเยอะอยู่เหมือนกัน (มันก็ควรจะเยอะแหละ 555) พอข้ามถนนมาปุ๊บก็จะพบกับไลเบอร์มากมายที่ยืนออกันอยู่ในตัวงาน ก่อนที่จะเข้าพาร์ทบ่นของคนขี้บ่น เรามาดูผังงานกันดีกว่าค่ะ
วาดผังจากความทรงจำก็จะประมาณนี้ค่ะ ไม่แน่ใจว่า 3 กับ 4 เป็นอันเดียวกันไหม แต่มันหน้าตาประมาณนี้ พอไปถึงเราก็ถ่ายรูปตรงโซนทางเข้าไว้นิดหน่อย ตั้งแต่ประตูเข้างาน พาเนลโฆษณาSIFAS แล้วก็อะคริลิกสแตนดี้โฮโนกะ จิกะ อายูมุ ไซส์ใหญ่!
ปากทางเข้างาน
ของที่ได้รับแจกตอนเข้างาน
บัตรคิวซื้อของที่ได้รับมา
พาเนลโฆษณาSIFAS
อะคริลิกสแตนดี้
กำแพงSSRการ์ดN
หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็รีบเดินไปรับคิวต่อแถวซื้อของ ได้คิวรอบบ่ายสี่โมงมาค่ะ (ไปรับตอนสิบโมงครึ่ง) ก็ยังดีที่ได้คิวซื้อให้อุ่นใจอยู่นิดหนึ่ง (โซนขายของจะเปิดให้เข้าแบบไม่ต้องรันคิวตอนห้าโมงเย็น) มโนภาพในใจคือระหว่างรอให้ถึงสี่โมงเย็น น่าจะเข้าไปเดินงาน ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศให้ครบทุกมุม ลองเล่นแป้นสคูลเฟสอันใหญ่ๆ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะน่าจะรันคิวเล่นกันจนเต็มหมดแล้ว แต่ความช็อกก็ต้องมาเยือนเมื่อสิ่งที่เราเผชิญจริงๆ คือ
กำหนดให้สีเหลืองเป็นฝูงชนมหาศาลที่ยืนออกันเพื่อดูสเตจนะคะ () …ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่สเตจเปิดให้เล่นสคูลเฟสจอยักษ์ (ถ้าใครนึกภาพไม่ออก มันคือสิ่งนี้ค่ะ) แปลว่าต้องเปิดเพลงเสียงดังๆ ด้วยนั่นเอง สิ่งที่พบในตอนนั้นคือเสียงยิงมิกซ์ค่ะ ; ; เสียงดังและรบกวนคนแถวนั้นมากๆ ยิ่งงานจัดในสถานที่เปิดยิ่งดูไม่ดีเข้าไปใหญ่ รู้แหละว่างานเข้าฟรีแบบนี้คงมีพวกก่อกวนมาไม่ใช่น้อย กลายเป็นว่าคนคอลธรรมดาก็เสียงไปตีกันกับพวกยิงมิกซ์ ซึ่งคนยิงมิกซ์ก็ดูเสียงดังกว่าซะอย่างนั้น… ส่วนตัวเราไม่ชอบการยิงมิกซ์เลยปลีกตัวไปรับใบแสตมป์แรลลี เดินเก็บแสตมป์คนเดียวเงียบๆ คงเหมาะมากกว่า เลยเป็นที่มาของชื่อบทความคันฉะไซไม่ได้เข้างาน เพราะเข้าไปข้างในไม่ได้เลยค่ะ…
แสตมป์แรลลีเป็นกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพติ่งด้วยการให้เดินไปตามร้านต่างๆ ที่อยู่ในละแวกสถานที่จัดงาน เมื่อเก็บแสตมป์ครบแล้วให้เอาไปแลกแฟ้มที่เคาน์เตอร์บริเวณด้านขวามือของงานค่ะ โดยสถานที่ที่เป็นจุดปั๊มแสตมป์มีทั้งหมด 9 ที่ด้วยกัน ได้แก่
① AKIHABARA Gamers สาขาหลัก – แสตมป์รูปโฮโนกะ จิกะ อายูมุ
② Yellow Submarine Akihabara Main Shop Mint – แสตมป์รูปเอริ ไดยะ เซ็ตสึนะ
③ Shosen Book Tower – แสตมป์รูปโคโตริ รูบี้ คาสึมิ
④ Pasela Resort AKIBA Multi Entertainment – แสตมป์รูปอุมิ โยชิโกะ ชิสึคุ
⑤ Sega Akihabara ตึก 3 – แสตมป์รูปริน โย ไอ
⑥ Softmap AKIBA④ ตึก Amusement – แสตมป์รูปมากิ ริโกะ คานาตะ
⑦ Kotobukiya Akihabara – แสตมป์รูปโนโซมิ คานัน คาริน
⑧ Sega Akihabara ตึก 5 – แสตมป์รูปฮานาโยะ ฮานามารุ รินะ
⑨ Card Kingdom สาขาหน้าสถานีรถไฟอากิฮาบาระ – แสตมป์รูปนิโกะ มาริ เอมม่า
ถ้าเราใช้จ่ายหรือเล่นเครนเกมในร้านนั้นๆ มากกว่า 500 เยน จะได้รับโปสการ์ดภาพอาร์ตงานคันฉะไซประจำปีนี้ ซึ่งร้านไหนมีแสตมป์รูปใคร ก็ได้โปสการ์ดรูปสามคนนั้นค่ะ แปลว่าถ้าจะเก็บโปสการ์ดให้ครบทุกร้าน ต้องเสียเงินอย่างต่ำ 4,500 เยน เราไม่ได้เตรียมงบในส่วนนี้มาเลยไม่ได้เก็บโปสการ์ดของร้านไหนเลยค่ะ TwT เสียดายนิดหน่อยแต่ต้องประหยัดไว้ ไม่งั้นจะไม่มีเงินดำรงชีวิตค่ะ 55555 ที่พิเศษคือแต่ละร้านจะมีพาเนลวางไว้ให้ถ่ายรูปได้ด้วยค่ะ
พาเนลµ's
พาเนลAqours
พาเนลPDP
พาเนลอายูมุ โฮโนกะ จิกะ หน้าร้านAKIHABARA Gamers
พาเนลเซ็ตสึนะ เอริ ไดยะ ในร้านYellow Submarine Akihabara Main Shop Mint
พาเนลคาสึมิ โคโตริ รูบี้ ในร้านShosen Book Tower
พาเนลชิซึคุ อุมิ โยชิโกะ ในร้านPasela Resort AKIBA Multi Entertainment
พาเนลไอรินโย หน้าร้านSega Akihabara ตึก 3
พาเนลคาริน โนโซมิ คานัน ในร้านKotobukiya Akihabara
พาเนลรินะ ฮานาโยะ ฮานามารุ ในร้านSega Akihabara ตึก 5
ที่ไม่มีของมากิ ริโกะ คานาตะ / นิโกะ มาริ เอมม่า เพราะหาไม่เจอค่ะ บางอันเราก็เบลอๆ ไม่ทันสังเกต อาศัยให้เพื่อนที่มาด้วยช่วยสะกิดให้ว่าพาเนลแต่ละอันอยู่ส่วนไหนของร้าน ถ้าปีหน้ามีโอกาสได้ไปและได้เขียนลงบล็อกแบบนี้อีก สัญญาว่าจะถ่ายเก็บมาให้ครบๆ ค่ะ อ้าก
หลังจากไล่ล่าแสตมป์จน (เกือบ) ครบ เราก็เดินกลับไปสถานที่จัดงานตอนเที่ยงตรงค่ะ เป็นเวลาขึ้นสเตจของเอมิซึน อันจัง อากุปองพอดี แต่สภาพที่จัดงานก็ไม่ต่างจากเมื่อเช้าที่เรามารับคิวซื้อของเท่าไร คือมีแต่คนยืนอัดกันเต็มไปหมด กลิ่นเต่าโชยหึ่งมาพร้อมกับแดดแรงๆ ที่ส่องลงกลางหัวอีกต่างหาก () แต่เพื่อลูกก็พยายามจะเขย่งเท้าจากตรงใกล้ๆ ประตูทางเข้างานดูค่ะ
ภาพจากสายตาเราในตอนนั้นน่าอนาถพอควร นอกจากจะห่างไกลจนไม่เห็นอะไรนอกจากหัวคนแล้ว ตรงจอก็โดนกำแพงที่แปะรูปSSRบังไปครึ่งจอ คนยืนออก็หลายร้อย จากที่คิดว่าอยากเห็นหน้าอากุปองสักครั้งก็ไม่เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของน้อง ยังดีที่มองจอเห็นเอมิซึนกับอากุปองอยู่นิดหนึ่ง ถ้ากล้องซูมออกมาเป็นนักพากย์ 3 คนนั่งเรียงกัน เราจะไม่เห็นหน้าอันจังเลยค่ะเพราะโดนกำแพงบัง โคตรเศร้า ตอนห้าโมงเย็นที่อากุปอง นัตจัง ทานากะขึ้นสเตจเราเลยตัดสินใจเทและรอดูย้อนหลังในยูทูปเอาค่ะ สู้กำแพงมนุษย์ไม่ไหวจริงๆ ถ้าจะดูคงต้องพกบันไดลิงส่วนตัวมาด้วย…
หลังจากจบสเตจเราก็ไปล่าแสตมป์③ที่ Shosen Tower ที่อยู่ไกลที่สุดในแผนที่ แยกออกมาโดดมากๆ ซึ่งลำดับการเก็บแสตมป์ของเราเรียงจาก⑤→⑦→⑧→⑥→④→①→⑨→②→③ค่ะ เนื่องด้วยเราเดินหาแสตมป์ตอนเช้า เลยต้องต่อแถวรอปั๊มแสตมป์แทบทุกร้านเลยค่ะ มีอยู่ร้านหนึ่งที่เราว่าพีคมาก จำไม่ได้ว่าร้านไหน แต่เป็นร้านที่ต้องต่อแถวยาวออกไปด้านนอกร้านส่วนที่เป็นบันไดด้านข้าง เราเดินขึ้นบันไดไปสักสามชั้นได้มั้งคะ แถวถึงค่อยๆ ทยอยเลื่อนลงไป ส่วนมากทางร้านจะให้เราปั๊มเอง แต่บางร้านก็มีพนักงานยืนปั๊มให้เพื่อความรวดเร็วค่ะ
ในเมื่อล่าแสตมป์ครบแล้วก็ถึงเวลาแลกของขวัญ ของที่ได้มาเป็นแฟ้มลายจิบิเด็กๆ จากซีรีส์เลิฟไลฟ์ทั้ง 27 คน ชุดสาวน้อยเวทมนตร์ (?) ที่เป็นตีมประจำปีนี้ค่ะ
แฟ้มกับแสตมป์
หน้าตาแสตมป์แรลลีหลังจากเก็บครบ!
ถัดมาเป็นช่วงเข้าคิวซื้อของค่ะ ทางทีมงานจะให้เรามากองๆ กันข้างๆ อาคารที่จัดงาน แล้วเดินโข่งเอาว่าให้คนที่ได้หมายเลขนี้มารวมตัวข้างหน้า ทางทีมงานจะจัดแถวแยกไว้ให้ เราที่อยู่Q14ก็เดินมาต่อแถวแบบมึนๆ หน่อยเพราะคนกองกันเกะกะมากจริงๆ ค่ะ ถ้าไม่ตั้งใจฟังหน่อยคงอดซื้อของตลอดกาล 5555 จากนั้นทีมงานจะปล่อยแถวให้ลงไปซื้อของที่ชั้นใต้ดิน (งานจัดชั้นหนึ่งใช่ไหมคะ ซื้อของก็ชั้นใต้ดินนั่นแหละค่ะ) ลงไปเสร็จก็ต่อแถวรอคนคิวก่อนหน้าช็อปให้เสร็จก่อน ทีมงานถึงจะให้คิวถัดไปเข้าพื้นที่ซื้อของได้
ตอนแรกว่าจะซื้อเสื้อคอกลมของงานปีนี้เก็บไว้สักหน่อย แต่ของหมดไปตั้งแต่รอบก่อนที่เราจะเข้าไปซื้อได้อีก กลายเป็นว่าเราเข้าไปซื้อแต่ของที่ขายในงานปีที่แล้วซะงั้น ซึ่งก็คือเสื้อฮู้ดรูบี้ ที่รูบี้ใส่ในการ์ดURใบนี้นั่นเอง
จุดประสงค์ที่ลงภาพไม่มีอะไรนอกจากเห่อเลยค่ะ ชอบมาก ตอนมันขายปีที่แล้วไม่มีเงินจะซื้อ มาปีนี้ได้ซื้อสมใจอยากสักที 5555 ถ้าซื้อของครบทุกๆ 3,000 เยน จะได้รับโคลสเตอร์กระป๋อง (?) หนึ่งชิ้น ส่วนเราได้มาสองชิ้น เป็นจิกะ โย ริโกะกับชิซึคุ รินะ คาสึมิค่ะ ตอนแรกเราว่าซื้อของเสร็จจะไปเดินเล่นแล้ววกกลับมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศตอนคนน้อยๆ ช่วงงานใกล้ปิดหน่อย แต่อย่างว่าอะนะคะ คนอัดกันแน่นตั้งแต่เช้ายังไง ตอนเย็นก็เป็นอย่างนั้น เลยตัดใจไปทำอย่างอื่นดีกว่า
โดยรวมเราไม่ค่อยประทับใจงานปีนี้เท่าไรเลยค่ะ ถึงจะไม่เคยไปงานปีก่อนๆ แต่ก็เคยไปอีเวนต์ของการ์ตูนเรื่องอื่นที่จัดที่ตึกซันไชน์ ไม่ค่อยอยากหยิบมาเปรียบเทียบเท่าไร แต่เราประทับใจงานนั้นที่แบ่งพื้นที่เป็นส่วนๆ ชัดเจน โอเคกว่าคันฉะไซเยอะเลย ถ้าปีนี้คันฉะไซจัดที่ตึกซันไชน์เหมือนปีก่อนหน้า น่าจะมีพื้นที่กว้างพอให้จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ โดยที่ไม่มีคนไปออกันที่จุดใดจุดหนึ่งจนไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่นั้นได้ เราเองก็อุตส่าห์นั่งรถมาถึงที่ แต่ได้เห็นแค่อะคริลิกสแตนดี้กับรูปเศษเสี้ยวการ์ด SSR ก็เซ็งเหมือนกันนะ ไม่จำเป็นต้องกลับไปจัดที่ตึกซันไชน์ก็ได้ แต่ขอให้จัดในพื้นที่ที่กว้างพอที่จะรับคนได้และแยกโซนออกมาให้ชัดเจน ไม่ใช่มั่วจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเหมือนของปีนี้ค่ะ
หวังว่าปีหน้าที่น่าจะจัดงานคันฉะไซของ SIF+SIFAS จะพิจารณากระแสตอบรับของงานปีนี้ (เท่าที่ไปส่องมา มีคนพูดถึงเรื่องขนาดสถานที่จัดงานอยู่จำนวนหนึ่งเหมือนกัน) แล้วนำไปปรับใช้ในปีหน้าให้ดียิ่งขึ้น เข้าใจว่าปีนี้อาจจะมีของมาโชว์ไม่เยอะ จะเช่าที่กว้างๆ เช่าตึกหลายๆ ชั้นก็ใช่เรื่อง แต่มันไม่โอเคจริงๆ นั่นล่ะ ไม่ค่อยมีพื้นที่ให้เทรดของด้วย ไปแล้วแทนที่จะแฮปปี้กลับมาเต็มร้อย ดันมาเสียอารมณ์กับการจัดสรรพื้นที่ซะงั้น เราไม่ซีเรียสเรื่องเห็น/ไม่เห็นนักพากย์บนเวทีนะ ซีเรียสที่มางานแต่ดูงานไม่ได้นี่แหละ โว้ย 5555555
สุดท้ายนี้ก็ปิดด้วยภาพของที่ได้จากงานแล้วกันค่ะ อายูมุที่อยู่ระหว่างกลางโคลสเตอร์คือกดได้จากตู้กาชาแถวนั้นค่ะ สุ่มกาชาสแตรปแล้วได้โอชิเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ซาบซึ้ง