Skip to main content

Tokyo-20150109-DSC00973

บทนำ

คือจริงๆแล้วซีรีส์สารคดีที่จะเขียนๆลงต่อไปนี้มันจะเป็นคล้ายๆบันทึกการเดินทางไปญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืนแบบเล่าเรื่องกึ่งฝอยของ Wซังผู้ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศ (มือใหม่สุดๆ..) โดยจะขอเล่าด้วย เอ่อ ภาษาพูดทั่วๆไปละกัน และเนื่องจากในปัจจุบันนี้เขาว่าญี่ปุ่นไปง่ายพอๆกับอัมพวา เรื่องไกด์ทั้งหลายเลยจะขอข้ามไป หรือเขียนแค่พอไปคุ้ยต่อได้ก็พอ (?) โดยบทความนี้เป็นบทความที่ 1 จากทั้งหมด 4 บทความ ติดตามได้ในสารบัญด้านล่างนี้

สารบัญ: โตเกียวเที่ยว 0

คลิกเพื่อดูสารบัญบทความ

ก่อนเดินทาง

วันที่ 1

วันที่ 2

วันที่ 3 และกลับจากการเดินทาง

ไปก็ไป

Tซัง: เฮ้ย..เมื่อไรจะไปญี่ปุ่น

Wซัง: งั้นไปมันธันวาเลยละกัน แต่ไม่ค่อยมีตังนะเว้ย

Tซัง: เออ ไปกากๆ ก็พอ

บทสนทนาดังกล่าวดูมันง่าย แต่ว่าด้วยจากอดีตกาล T ที่เป็นเพื่อนของตัว Wซังเองมันชวนมานาน (มาก) และโดนผลัดมานาน (มาก) เช่นกัน เห็นว่าโอกาสพอเหมาะ สิ้นปี เลยตัดสินใจว่าจะไปใช้เงินให้เหมาะสมกับเทศกาล

จะว่าไปสิ้นปีหรือปีใหม่เป็นเทศกาลที่ทำให้คนตัดสินใจเสียเงินได้ง่ายๆเหมือนกันนะ เช่นเหล่าติ่งทั้งหลายเวลาสิ้นปีก็มักจะกดสั่งของหรือว่าจ่ายค่าฟิกเกอร์ค่าจิปาถะได้ง่ายๆดังตังงอกออกมาจากดิน

หลังจากนั้นชาวแก๊ง 2 หน่อเลยคิดว่าจะไปจองทัวร์กันกับบริษัทแห่งหนึ่ง (เอช. อะไรซักอย่าง) เนื่องจากว่าไม่มีประสบการณ์ในการจองตั๋วเครื่องบินและสำรองที่พักในต่างประเทศ (เลย) ทั้งสองคน เราจึงตัดสินใจไปที่บริษัททัวร์ H.I.S สาขาสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินพระราม 9 จากนั้นก็ดูราคากันเสร็จสรรพ ตกสนนราคากันคนละ 2 หมื่นกว่าๆ โดยเลือกเสร็จแล้วก็ไปจัดแจงลางานกัน แล้วก็มอบหมายให้ T ไปซื้อทัวร์ตามที่ดูกันไว้ เป็นโตเกียวเที่ยวเอง 5 วัน 3 คืน

Tซัง: “จองไม่ได้หว่ะ ต้องใช้พาสปอร์ตด้วย ทั้งสองคนด้วยนะ”

….ถึงบางอ้อเลย ต้องไปซ้ำอีกรอบนั่นเอง โดยเมื่อไปซ้ำในวันอื่น จองเสร็จเรียบร้อย~~เป็นช่วง 23 – 27 ธันวาคม โดยทางโรงแรมบอกเดี๋ยวจะไปคอนเฟิร์มโรงแรมให้เรียบร้อยแล้วโทรกลับมายืนยันอีกที พวกเราก็เลยคิดว่าโอเคแล้ว และเดี๋ยวไปเตรียมแผนเที่ยวแทน..

ทัวร์: “โรงแรมเต็มค่ะต้องเลื่อนวัน”

Wซัง: “งั้นไปช่วงมกราปีหน้าละกันครับ”

ทัวร์: “ปีหน้าไม่มีโปรฯนี้แล้วค่ะ สตาร์ทที่ 3 หมื่นแทน”

โอ้…ห่างกันไม่กี่วันเพิ่มไปอีกหมื่น แลดูเงินตราไม่พร้อม (และเราไม่ยอม) เลยคิดว่าไหนๆก็กะจะไปแล้ว จองตั๋วเองก็ได้..จองที่พักเองก็ได้ ไม่ยากหรอก (?)

ภาคของการจองตั๋วเครื่องบินและจองโรงแรม

คณะทัวร์ (ที่มี 2 คนน่ะหละ) นั่งเปิดเว็บจองตั๋วพวกเอ็กพีเดียอย่างไม่ค่อยรู้เรื่อง และนั่งจ้องเวลาเดินทาง..คือแหม ถ้าเป็นตั๋วที่ราคาถูกมากๆประมาณหมื่นสอง หมื่นสาม ก็มักจะเวลาเดินทางไม่ค่อยเลิศ- ต่อเครื่องนาน อะไรราวๆนั้น ทำให้สุดท้ายเราเลือกที่จะไปกับแอร์เอเชียเอกซ์ (จองผ่านเว็บโดยตรง) ที่ถึงจะแพงซักหน่อย (รวมๆภาษีอะไรๆแล้วก็เป็นหมื่นแปด) แต่ได้บินตรงไม่เสียเวลาเที่ยว

จองง่ายกว่าที่คิดเยอะ คล้ายๆกับซื้อเกมในสตีม

จองง่ายกว่าที่คิดเยอะ คล้ายๆกับซื้อเกมในสตีม

จองได้มาเป็นเดินทาง 8 มกราคม กลับ 12 มกราคม เวลาก็จัดว่าโอเค เว้นแค่ว่าขากลับอาจจะเช้าไปซักหน่อย (9 โมงเช้า) แต่พวกเราเชื่อมั่นในระบบการเดินทางของญี่ปุ่น (ทั้งๆที่ไม่เคยไปเนี่ยแหละ) เลยคิดว่าไม่มีปัญหา

ก่อนจะผ่านไปตรงนี้ จองกับแอร์เอเชียเอกซ์นี่เราเลือกให้ถูกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น ไม่เอาอาหาร ไม่เลือกที่เอง ไม่เลือกบริการเสริมใดๆ ไม่จ่ายด้วยบัตรเครดิตด้วย (เพราะชาร์จเพิ่มเล็กน้อย) เลือกที่จะพิมพ์ใบจองไปจ่ายที่เคาท์เตอร์เซอร์วิสแทน

ปรินท์ไปพร้อมเตรียมเงินไปราวๆ สามหมื่นเก้า เข้าไปที่บิ๊กซี ตรงไปเคาท์เตอร์เซอร์วิสบอกว่าชำระเงินค่าตั๋วเครื่องบิน แค่นี้ก็

.

.

ไม่เสร็จ…..พนักงานกดไม่เป็น

ตัว Wซัง เองต้องตระเวนหาเคาท์เตอร์เซอร์วิสที่อื่นๆเกิน 3 ที่ กว่าสุดท้ายจะมาเจอว่า 7-11 ปากซอยบ้านตัวเองนี่หละที่ทำเป็น (ขอบพระคุณน้องพนักงานที่กดอย่างคล่องแคล่ว)

ทีนี้ก็ที่พัก พวกเราอยากพักย่านที่ดึกๆมันมีอะไรให้เดินมั่ง (อันนี้สำคัญมาก เพราะว่ากะจะนอนกันแบบน้อยๆเที่ยวเยอะๆ) ..แล้วก็ไม่ไกลนาริตะมากไป (ลืมบอกไปว่าเลือกลงที่นาริตะ) อ่านๆดูมีสองย่านคือ อุเอโนะ และอาซากุสะ อาซากุสะวัดเยอะ ส่วนอุเอโนะมีตลาด ไกด์แบบคร่าวๆบอกมาแค่นี้ เลยใช้บริการของบุคกิ้งดอทคอม (http://www.booking.com) จองซะ เลือกแบบเสื่อทาทามิด้วย เพราะอยากนอนมานานแล้ว (ฮา) และแน่นอนเอาถูกๆ ข้าวเช้าไม่ต้อง ได้มาในราคา 3 คืน 2 คน 21000 เยน จองเสร็จก็จะได้ใบยืนยันที่พักมาให้เราไปพิมพ์เพื่อไปยื่นกับโรงแรม

อา ลืมบอกไปว่าข้อดีของเว็บนี้คือไม่ต้องจ่ายก่อน แค่ผูกบัตรเครดิตประกันเอาไว้ก็พอ ตอนนี้ที่พักก็มีแล้ว ตั๋วก็มีแล้ว สบายแล้วหละ

จัดกระเป๋าแบบหนาวๆ?

Wซัง: “ดูพยากรณ์อากาศมาละ 0 – 3 องศาเลยหว่ะ”

Tซัง: “เท่าภูเรือที่ตูไปมาเลย ไม่โหดหรอก”

จริงดิ.. ไม่ค่อยเชื่อมันเท่าไรเลยไปหาข้อมูลการรับมือกับความหนาวมาไม่งั้นอาจไม่สนุกได้ จากนั้นจึงไปสอยที่ Uniqlo เอา แบรนด์ญี่ปุ่นก็น่าจะกันความหนาวแบบญี่ปุ่นได้สิ (คิดแบบเบสิคๆ) จากนั้นจึงใช้ตังจำนวนนึงที่ไม่ได้คาดไว้ ซื้ออุปกรณ์กันหนาวดังนี้

  • เสื้อแขนยาวตัวในฮีทเทค (HEATTECH) 590 ฿
  • กางเกงลองจอห์นฮีทเทค 590 ฿
  • ถุงมือฮีทเทคแบบใช้มือถือได้ 390 ฿
  • แจคเกตขนฟู 790 ฿

หลังจากซื้อเสร็จก็ไปคุยกับนาย T อีกทีว่าเอ็งแน่ใจแล้วหรือ? นาย T ก็ยังเงียบไปและยืนยันว่าเทอร์โมมิเตอร์ที่ภูเรือมัน 0 องศาจริงๆนะเว้ย

ญี่ปุ่นหนาวเท่าภูเรือ

จำคำตรงนี้เอาไว้แล้วเดี๋ยวพอถึงญี่ปุ่นมาดูกันอีกที (ฮา) ส่วนอื่นๆก็ไม่ได้คิดว่าต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษ.. เคยมีคนบอกว่าไปพักประเภทโฮสเทลเตรียมของฝากไปหน่อยก็ได้ ก็เลยจัดไป เพรทซ์รสต้มยำกุ้ง 1 แพค และเนื่องด้วยคิดว่าไปต่างแดนต้องเตรียมพร้อมและจัดเต็ม..ในฐานะคนติดทวิตให้ Tซัง ไปสมัครไวไฟฯไว้ใช้ตอนเที่ยวด้วย รู้สึกจะได้ของยี่ห้อซามูไรไวไฟมา ตกวันละ 200 กว่าบาท หารกันก็คนละร้อย นอกนั้นก็มีโหลดแอพสำหรับช่วยเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินมาซักตัวนึง

IMG_0325

Tokyo Rail Map+ Lite • Yokohama, Saitama, Chiba โดย Urban-Map

อย่าลืมสมัครประกันการเดินทางด้วยหละ ไป 3 วันตกราวๆ 250 บาทเองนะ ของซิกน่า..ก็โอเคอยู่ จ่ายง่าย ได้กรรมธรรม์ไว (กันไว้ดีกว่าแก้) จริงๆเรื่องนี้จะมีประเด็นในท้ายสุดด้วย..แต่ไว้ค่อยว่ากัน

อ้อ ช่วงนี้ค่าเงินญี่ปุ่นถูก เราเลยไปแลกกันที่ซุปเปอร์ริชแถวๆราชประสงค์ ซึ่งมันมีสีส้มกับสีเขียว..ไม่รู้เหมือนกันว่าเข้ากันสีไหน แต่ก็น่าจะไม่มีอะไรแตกต่าง อนึ่งรู้สึกจะปิดไวนิดนึง ใครจะแลกก็ตรวจสอบเวลาปิดให้ดีก่อน และพวกเราแลกตังกันไปราวๆคนละ 15000 บาท (ทำไมธุรกิจแบบไทยๆทำไปซักพักต้องเอาชื่อเดียวกันมาแยกเป็นสองร้านหว่า..อย่างร้านเกาเหลาเนื้อแถวสะพานเหล็กก็ด้วย ตอนแรกร้านเดียวกันภายหลังก็แยกจาก หรือมันเป็นวัฒนธรรม อันนี้ก็ไม่อาจทราบ…)

พอรวมๆแล้วกระเป๋ายัดของไปประมาณนี้เอง อย่าลืมปลั๊กพ่วง อุปกรณ์ชาร์จดีไวซ์ต่างๆ และอุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับการถ่ายภาพ บลาๆ

เสื้อ 3 ตัว สำหรับเที่ยว 5 วัน 3 คืน ยีนส์ตัวเดียวทั้งงาน หมดละ

เสื้อ 3 ตัว สำหรับเที่ยว 5 วัน 3 คืน ยีนส์ตัวเดียวทั้งงาน หมดละ

วางแผนเที่ยว

พวกเราไม่เคยไปญี่ปุ่นมาก่อน แต่ว่าด้วยความชื่นชอบในอนิเมญี่ปุ่นและวัฒนธรรม คนนึงก็บ้าไอดอลสองมิติ คนนึงก็บ้ากันดั้ม  แต่ว่าคราวนี้ไปในฐานะของนักท่องเที่ยวทั่วไปที่ชอบถ่ายรูปเล่น..ก็เตรียมแผนกันแบบง่ายๆก่อนว่าเราอยากไปที่ไหนบ้างในโตเกียว โดยอาศัยเปิดจากเว็บทริปแอดไวเซอร์ (http://www.tripadvisor.com) พอได้ที่รวมๆก็มาแบ่งเขตให้ลงๆวันเดียวกันซะ

แผนเที่ยวฉบับอัลฟ่า

เมื่อแปลนแพลนไปได้ระดับนึงก็มาเกลาแผนให้ละเอียดขึ้นโดยใช้กูเกิ้ลไดรฟ์ช่วยกันลงรายละเอียด เช่นสถานีสำหรับการเดินทาง เวลา เช็คเวลาเปิดปิดของที่ต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการกินแห้วเมื่อไปถึงสถานที่จริง อืม..กูเกิ้ลไดรฟ์นี่ใช้เก็บรายละเอียดสำคัญต่างๆรวมทั้งใบจองโรงแรมสำรอง สำเนาพาสปอร์ต เอาไว้ใช้เวลาจำเป็นด้วย

ลืมไป ก่อนจะเข้าสู่การเดินทาง..จู่ๆคณะทัวร์ก็งอกเงยเป็น 3 คนหลังจากพวกเราจองทุกอย่างเสร็จแล้ว (!?) โดยคุณน้องสาวของ Wซัง ขอติดตามไปด้วย ก็เลยเป็นคณะสามคน ส่วนอื่นๆนางจะจัดการเอง ฉะนั้นเราจึงลดภาระตรงนี้ไปเยอะ ดีมากน้องสาว

วันเดินทาง 8 มกราคม 2558

ตามกำหนดการณ์ พวกเราจะออกเดินทางกันจากดอนเมืองแบบสไตล์คลาสสิค) วันที่ 8 มกราคม 2558 ช่วง 23:45 น. แต่ด้วยความเอ็กไซต์ และจู่ๆก็กลัวตังไม่พอกัน พวกเราเลยไปแลกตังเพิ่มกันคนละ 3 พันบาท (สำรองเป็นค่าที่พักล้วนๆ) แถมนาย T อุตสาห์ถ่อไปแลกที่ซุปเปอร์ริชอีก

แต่สนามบินมันก็มีที่ให้แลกนะ

เริ่มต้นด้วยการเอาเลขที่จองที่เราเช็คอินผ่านเว็บกันไว้แล้ว (แอร์เอเชียเช็คอินออนไลน์ได้ก่อนตั้ง 14 วันทั้งไปและกลับ) แต่ก็อยากจะได้ตั๋ว + อยากลองใช้เครื่องตามประสากะเหรี่ยง เลยไปกดๆ จนได้ตั๋วและแท็กกระเป๋ามา ก็อยากจะลองติด เลยติดไปซะ

มากดๆซะตรงนี้คนว่างกว่าไปต่อคิวข้างในนะ

มากดๆซะตรงนี้คนว่างกว่าไปต่อคิวข้างในนะ

ได้แท็กกระเป๋าและบอร์ดดิ้งพาสมา (ไม่ต้องติดเองหรอก..)

ได้แท็กกระเป๋าและบอร์ดดิ้งพาสมา (ไม่ต้องติดเองหรอก..)

พอเข้ามาด้านในได้พบกับคลื่นมหาชนชาวสยามที่รอต่อคิวเชคอินกันตั้งแต่ราวๆ 2 ทุ่มครึ่ง คิวยาวพอควร..แต่พวกเราเช็คอินกันมาแล้วเลยไปที่เคาท์เตอร์ดรอปกระเป๋าแทน คิวสั้นเลยหละพอไปถึงเคาท์เตอร์พนักงาน..พนักงานก็จัดแจงดึงแท็กกระเป๋าออก และเอาใบใหม่ที่เหมือนเดิมมาแปะ

Wซัง: “แล้วเขาให้ปรินท์ข้างหน้ามาแปะทำไมฮะ”

พนักงานแอร์เอเชีย: “ระบบมันยังใช้ไม่ได้น่ะครับ ปรินท์ออกมาเฉยๆ”

โอเค เก็ต ทีหลังจะไม่แปะแท็กกระเป๋าเองแล้วจ้า หลังจากดรอปกระเป๋าไปก็ได้ใบขาออกขาเข้าของประเทศไทยมากรอก (เตรียมปากกามาก็ดีถ้าขี้เกียจหาหยิบยืม) แล้วก็เข้าไปผ่าน ตม. และเข้าส่วนดิวตี้ฟรีพร้อมหาอะไรกินกันก่อนเดินทาง

ดิวตี้ฟรีที่ดอนเมือง

ทุกอย่างล้วนถูกอัพเกรดขึ้นไปเป็นราคาอีไล้ไฮโซครับ! คิดว่าเพื่อเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทย เช่นมะม่วงอบแห้ง 450 บาท หรือน้ำขวดละ 27 บาท อีกอย่างที่ลืมคิดมาคือทำไมไม่กินข้าวเย็นมา คงเพราะตื่นเต้นมากไป (?!)

อร่อยกับมะม่วง (ไม่ซื้อ)

อร่อยกับมะม่วง (ไม่ซื้อ)

โซนดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง

โซนดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง

ถ้าอยากกินของที่มันเข้ากับข้างนอก แนะนำให้กินสตาร์บัคส์ ราคาเท่ากับข้างนอก คือแพงอยู่แล้ว แต่รู้สึกดีกว่าเพราะกินได้เหมือนไม่โดนเอาเปรียบทางสังคม กินตาบัคฯไปซักแปปก็พบกับปัญหาชีวิตอย่างแรกคือ มือถือคู่ชีพไอโฟน 4 S ชาร์จไม่เข้า เพราะสายชาร์จพัง… ยังดีที่ก่อนเดินทางเปลี่ยนมาใช้ไอแพดเป็นตัวเล่นแอพเล่นเน็ตอยู่แล้ว จึงไม่คิดมากนัก..

นั่งรอเวลาจน 23:15 ก็ไปรอขึ้นเครื่องที่หน้าเกท แก๊งเราออกเดินทางด้วยเครื่องบินตรงจากดอนเมืองถึงนาริตะด้วยเที่ยวบิน XJ600

เคยคิดว่าบินดึกๆน่ะดี แต่เดี๋ยวดูกัน

เคยคิดว่าบินดึกๆน่ะดี แต่เดี๋ยวดูกัน

หลังจากเด็กเรือเอาเชือกไปผูกหลักและทอดสมอ ก็ขึ้นเรือข้ามฟากกันได้

หลังจากเด็กเรือเอาเชือกไปผูกหลักและทอดสมอ ก็ขึ้นเรือข้ามฟากกันได้

ฝันไปแล้วว่าจะได้นอน

คืองี้ ตัว Wซัง เองคิดว่าบินประมาณ 5-6 ชั่วโมง จะได้นอนบนเครื่องซัก 1 ตื่น เพราะปกติเป็นคนนอนน้อยอยู่แล้ว นอนแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก แต่เมื่อมาขึ้นกับสายการบินโลว์คอสต์ การที่คุณจะได้นอนนับว่าเป็นเรื่องฝันกลางวัน เนื่องจาก

  • สเต็บในการเสิร์ฟข้าวยามดึกดื่นต้องสั่งมาก่อน หรือมาซื้อในนี้ ถ้าไม่จ่ายก็ไม่มีนะ
  • รถเข็นแสนสนุกที่คอยวิ่งขายสินค้าปลอดภาษีรุ่นเอกคลูซีฟมีเฉพาะในสายการบิน
  • แคบ ไฟสว่างเป็นส่วนมาก
  • การสั่งผัดกะเพราะตอนตี 4 ของผู้โดยสารด้านหน้า

อะไรประมาณนี้.. ถ้าหลับลงก็ต้องนับว่าจิตแข็งพอสมควร และเมื่อเวลาผ่านไปแบบนิ่งๆ 5 ชั่วโมงเพราะโลว์คอสต์แอร์ไลน์ไม่มีการอำนวยความสะดวกบนเครื่องบินพวกเกม หนังสือ ดูหนัง ฟังเพลงของว่าง บลาๆ  พวกเราก็มาถึงนาริตะซักที!! กัปตันช่างขับได้ซิ่ง– เพราะพวกเราเดินทางมาถึงญี่ปุ่นก่อนกำหนดถึง 1 ชั่วโมง สวัสดีประเทศญี่ปุ่น อย่าลืมปรับเวลา +2 ชั่วโมง ด้วยหละในนาฬิกาและสมาร์ทโฟนของท่าน

คนที่ใช้กล้องเซ็ตด้วยก็ดี..จริงๆนะ (ลืมไปสนิทเหมือนกัน)

เช้านี้สดใส

เช้านี้สดใส

ตามทางเดินขาเข้า

ตามทางเดินขาเข้า

แล้วค่อยมาว่ากันต่อในภาคต่อไป อนึ่งขอทิ้งท้ายกับการรีวิวแอร์เอเชียว่าคุณแอร์โฮสเตสทั้งหลายนั้นน่ารักมาก แม้พวกเธอจะเข็นรถขายของทั้งคืนก็ตาม (ฮา) ทิปส์อีกอย่างคือถ้าอยากเห็นภูเขาฟูจิตอนขามาให้นั่งซ้ายของเครื่องบิน ส่วนขากลับให้นั่งขวา

ค่าใช้จ่ายก่อนถึงญี่ปุ่น

  • ตั๋วเครื่องบิน: 18,750 บาท
  • ค่าเครื่องแต่งกายกันหนาว: 590+590+390+790 = 2,360 บาท
  • แทกซี่จากบ้านไปดอนเมือง: 220 บาท
  • เพรทซ์รสต้มยำกุ้ง 1 กล่องแพ็ค: 49 บาท
  • สตาร์บัคส์: 200 บาท

คอมเมนต์กัน!