Skip to main content

Seisho Music Academy Collaboration Event

奇異共演のリプロダクション

บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นขณะซ้อมละครเวทีรอบพิเศษเรื่อง “บันไดนภาลัย” ของโรงเรียนดนตรีเซโช

คือนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้บ้าคลั่ง โฮโออิน เคียวมะ!?

แม้ทุกคนจะสับสน แต่ก็สนใจสิ่งที่โฮโออิน เคียวมะ เอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า

“ควรทำให้ละครโศกนาฏกรรมจบอย่างมีความสุข”

และแล้วม่านการแสดงละครร่วมกันสุดประหลาด

ของนักแสดงและนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้พานพบกันข้ามเส้นโลกนำพามาก็เปิดฉากขึ้น

天の階段 -บันไดนภาลัย-

เคียว (แคสต์: โฮชิมิ จุนนะ)

ริน (แคสต์: ไดบะ นานะ)

โฮ (แคสต์: เทนโด มายะ)

ทาโร่ (แคสต์: ไอโจ คาเรน)

ผู้รับใช้นภา (แคสต์: ฮานายางิ คาโอรุโกะ)

เมื่อถึงวันแสดงจริง พวกคาเรนแวะมาหาพวกอาเมมิยะที่เช็กด้านโปรดักชันช่วงก่อนเริ่มแสดง เพื่อส่งเสียงเย้ๆ ปลุกใจก่อนแสดงจริง ก่อนจะเริ่มทำก็เห็นว่าเคียวมะที่น่าจะช่วยพวกห้อง B ยกของอยู่ก็หายไปไหนไม่รู้ จนคาโอรุโกะทักว่าปกติก็ชอบทำตัวเสียงดังวุ่นวาย แต่พอหายไปไหนไม่รู้แบบนี้ดันทำเหมือนตัวเองเป็นคนอื่นคนไกลอย่างนั้นแหละ ส่วนมายะบอกว่าเขาอาจจะแค่ขี้อายเฉยๆ แล้วไปนั่งตรงที่นั่งผู้ชมแล้วก็ได้

ฉากตัดไปทางเคียวมะที่มานั่งรอชมละครเวทีไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นเขาก็คิดว่านี่เป็นการมานั่งดูครั้งสุดท้ายแล้ว คงไม่ต้องย้อนไปแก้ไขอดีตอีกแล้ว

เสียงประกาศเริ่มการแสดงดังขึ้น เคียวมะครุ่นคิดว่าเรื่องจะเริ่มจากเสียงของผู้รับใช้นภาเร่งให้เด็กๆ ตื่น แล้วจากนั้นเด็กๆ ที่รู้เรื่องว่าตัวเองต้องเสียสละเพื่อทำตามคำสัญญาจะโกรธ แต่ก็มีบางคนที่รู้สึกยอมแพ้ไปแล้ว แต่ว่าเคียวเป็นเด็กสาวที่ปฏิเสธการกระทำนั้น

เคียว: ฉันไม่อยากเป็น “ดวงดาว” อะไรนั่นหรอกนะ!

ริน: เคียวจัง…

เคียวมะ: (…รินที่เฝ้ามองเคียวอย่างเป็นห่วง เนื้อเรื่ององค์สองคือรินกับเคียวเริ่มตามหาอารยธรรมที่ถูกทอดทิ้งไปในที่ที่เรียกว่า ‘ซากปรักหักพัง’)

เคียว: คำสัญญานั่นเป็นสิ่งที่เราเป็นฝ่ายมอบให้อยู่ฝ่ายเดียว… ไม่มีความรักจากพระเจ้าหรอก! เพราะฉะนั้นพวกเราจะออกไปจากที่นี่ก็ได้ จะผิดสัญญา…ก็ได้นะ

เคียวมะ: (พวกเธอรู้ความจริงที่ว่าพวกตนถูกสร้างจากสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้า และทำตามสัญญาอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้มีความรักใคร่อะไรเลย หลังจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวฉบับใหม่ของบันไดนภาลัย…)

ทาโร่: จะ จริงเหรอ!? ที่ว่าจะออกไปจากที่นี่น่ะ… อุ๊บ!

เคียว: ชู่ เสียงดังชะมัด! ถ้าผู้รับใช้นภาได้ยินเข้าละก็เป็นเรื่องกันพอดี!!

โฮ: แต่ว่านะ~~ ถึงจะบอกว่าออกไปแต่จะทำยังไง…

เคียว: ที่ “ซากปรักหักพัง” น่ะมีวัตถุตกลงมาเพียบเลยไม่ใช่เหรอ? เราจะเอาของเหล่านั้นมาประกอบสร้างเป็น “เรือ” ไง!

ริน: คิกๆ! เหมือน “เรือโนอาห์” ที่เคยเห็นในสมุดภาพเลยเนอะ

เคียวมะ: (…ทว่าผู้รับใช้นภารู้แผนการนี้เข้า และเข้ามาขัดขวางไว้)

ผู้รับใช้นภา: อย่าเข้าใจผิดไปเลยค่ะ พวกคุณไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็น “ดวงดาว” หรอกค่ะ…!

เคียว: …ถ้าอย่างนั้นทำไมพวกเราถึงได้มีหัวใจล่ะ? ถ้าพวกเรามีเพียงเพราะให้เป็น “ดวงดาว” ละก็…จะทุกข์สุขหรือเหงาก็เป็นสิ่งไม่จำเป็นไม่ใช่หรือไง! ถึงอย่างนั้นแล้วทำไมพวกเราถึงได้มีหัวใจกันล่ะ!?

เคียวมะ: (ผู้รับใช้นภาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้ จนความสงสัยทำให้เกิด “บั๊ก” ขึ้นมา ท้ายที่สุดเธอก็เห็นด้วยเด็กๆ และช่วยสร้างยานอวกาศ… อา ทั้งที่รู้เนื้อเรื่องอยู่แล้วแต่ประทับใจชะมัด เพราะที่ตรงนั้นมีผู้รับใช้นภาที่เฝ้ามองเด็กๆ อย่างใกล้ชิด และมีทาโร่ โฮ…ริน และเคียวที่มีชีวิตอย่างเปล่งประกายงั้นเหรอ? ในบรรดา “บันไดนภาลัย” ที่ดูซ้ำมาไม่รู้กี่ครั้ง ครั้งนี้คือครั้งที่กระทบใจที่สุดเลย และในที่สุด…ยานอวกาศก็เสร็จสิ้นและเรื่องมาสู่องก์สุดท้าย!!)

เมื่อสร้างเรือโนอาห์ (ยานอวกาศ) จนสำเร็จ ทาโร่ที่อยากดูยานอวกาศทั้งลำก็คึกจนหน้าคว่ำ แต่เด็กๆ ก็ยังร่าเริงดีแล้วทาโร่ก็วิ่งขึ้นยานไปคนแรก ตามด้วยโฮ ส่วนผู้รับใช้นภาบอกให้เคียวไปพารินมาขึ้นยานไปด้วย แต่ก่อนจะถึงประโยคถัดไปไฟในฮอลก็ดับลงซะอย่างนั้น

พอไฟกลับมาติดปรากฏว่าประตูยานอวกาศก็ปิดตัวลง+มีควันพุ่งขึ้นมา หรือก็คือเทคนิกประกอบการแสดงยานออกตัวนั้นออกตัวก่อนเวลาเพราะกระแสไฟฟ้าไหลไปทำให้สวิตช์ทำงานแบบไม่ได้ตั้งใจ มิหนำซ้ำรินกับเคียวยังไม่ได้ขึ้นยานเลยด้วย เท่ากับว่าเป็นการแสดงที่ผิดพลาดนั่นเอง

เคียวมะตกใจที่เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในรูทไหนมาก่อนเลย พร้อมกับสิ้นหวังเบาๆ ว่าตัวเองไม่อาจข้ามผ่านโชคชะตานี้ไปได้จริงๆ เหรอ แต่เขานึกถึงพวกจุนนะที่จะตั้งใจแสดงละครเรื่องนี้และช่วยเหลือรินให้รอดพ้นจากการสังเวยอย่างที่เคยบอกในรูทก่อน

ริน: กลายเป็นว่าอยู่กันแค่สองคนแล้วสิ…

เคียว: ริน นี่เธอ… ทำไม…เธอถึงปิดประตูไปล่ะ…!? เธอควรจะขึ้นไปบน “เรือโนอาห์” นั่นแท้ๆ!!

ริน: เพราะเคียวจังคิดจะไม่ขึ้นไปอยู่คนเดียวใช่ไหมล่ะ? เพราะพวกเราอยู่ด้วยกันตลอดทั้งตอนสำรวจซากปรักหักพัง ทั้งในค่ำคืนอันยาวนานนะ แล้วฉันก็รู้เรื่องที่…เธอพยายามปกปิดอย่างเอาเป็นเอาตายว่าเชื้อเพลิงส่วนของหนึ่งคนขาดไปด้วย

เคียว: ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เห็นต้องอยู่กับฉันเลยนี่… แค่เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปฉันก็พอใจแล้วแท้ๆ!

ริน: ฉันไม่เอาด้วยหรอก… ก็ฉันอยากอยู่กับเคียวจังตลอดไปเลยนี่… เพราะงั้นเรามาสร้าง “เรือโนอาห์” อีกรอบกันเถอะ เคียวจัง!!

เคียว: ไม่ไหวหรอก… ผู้รับใช้นภาที่ช่วยพวกเราก็ขึ้น “เรือโนอาห์” ไปด้วยแล้วนี่…

ริน: …ต้องไม่เป็นไรแน่นอน นี่ เคียวจัง…มีอยู่วันหนึ่งที่เธอพูดเรื่อง “ทำไมพวกเราถึงมีหัวใจ” ใช่ไหม? ฉันว่าฉันรู้แล้วล่ะว่าทำไม เหตุผลที่พวกเรามีหัวใจไม่ใช่มีไว้เพื่อให้เสียใจกับการลาจากหรอก… แต่มีไว้เพื่อหัวเราะแล้วพูดคำว่าอรุณสวัสดิ์ต่างหาก! เพราะฉะนั้น…มามุ่งเป้าสู่ “รุ่งอรุณ” โดยข้ามผ่านกาลเวลาจำนวนมากกันเถอะ

เคียว: ริน… อืม นั่นสินะ ฉันดันลืมสิ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด…ลืมหัวใจของเธอไปซะได้ เอ้า ริน ยื่นมือมาสิ… มารวมใจให้เป็นหนึ่งเดียวกันนะ

ริน: อื้อ!

เคียว: ไปรับ “รุ่งอรุณ” อีกหลายๆ ครั้งกันเถอะ

หลังแสดงจบคาเรนกับมายะก็ปรบมือให้เพื่อนทั้งสองคน ใช่แล้ว การแสดงหลังจากไฟกลับมาติดอีกครั้งคือการแสดงด้นสดของจุนนะกับนานะทั้งหมดเลย พวกอาเมมิยะก็ชมเหมือนกันที่ด้นสดจนจบได้แบบนั้น

จุนนะ: ในแววตานานะมีคนที่ฉันรู้จักอยู่น่ะ

นานะ: ตกใจเลย… เพราะฉันเองก็เจอคนรู้จักในแววตาจุนนะจังเหมือนกัน ถึงเคียวจังจะเป็นคนเข้มแข็ง แต่พอมีคนมาพึ่งพาแล้วก็จะพยายามไปถึงไหนต่อไหนเลยเนอะ

จุนนะ: อืม ถึงรินจะเป็นคนขี้กลัว แต่ก็ไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด… 

จุนนะ&นานะ: เหมือนกับโฮโออินซังไง!

หลังจากการแสดงจบลง จุนนะกับนานะก็หาตัวเคียวมะที่หายไปไหนไม่รู้ก่อนจะเริ่มงานเลี้ยงฉลองจบการแสดง พอหาตัวเจอ เคียวมะก็บอกขอบคุณจุนนะกับนานะที่สร้างเรื่องราวที่แสนวิเศษนี้ขึ้นมาจนเลี่ยงชะตากรรมฤดูหนาวชั่วนิรันดร์ไปได้ 

จุนนะ: เฮ้อ พูดเรื่องนั้นอีกแล้วเหรอคะ…

นานะ: …ต้องจากกันแล้วเหรอคะ?

จุนนะ: เดี๋ยวเถอะ กระทั่งนานะเองก็พูดอะไรแบบนี้เหรอ…

เคียวมะ: …อืม ตัวตนอันผิดปกติของฉันที่ออกมาจากอนาคตที่กำหนดไว้แล้ว คงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอนใหม่ๆ น่ะสิ พวกเราน่ะ…ไม่ควรจะต้องข้องเกี่ยวกันเลย คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ… ฉันมีของที่อยากให้พวกเธอรับไว้นะ

นานะ: นี่มัน…เข็มกลัด?

เคียวมะ: อืม เป็นของที่ฉันจะมอบให้พวกพ้องคนสำคัญน่ะ

note; เข็มกลัดในเรื่องสไตนส์เกทกับสตาร์ไลท์จะต่างกันตรงที่ของสตาร์ไลท์มีตัวอักษรภาษาอังกฤษเพิ่มมา 2 ตัว คือ OSHMKUFAHD 2010 ซึ่งอักษรเหล่านี้เป็นอักษรตัวแรกสุดของนามสกุลทุกคนที่เป็นสมาชิกห้องทดลองฯ ในอีเวนต์นี้มีโฮชิมิ จุนนะและไดบะ นานะ เป็นสมาชิกที่เพิ่มขึ้นมา ฉะนั้นอักษรย่อถึงเพิ่มขึ้นมาจากของออริจินอล

จุนนะ: อะไรกัน…เราจะรับไว้เดี๋ยวนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ทุกคนรอให้โฮโออินซังไปหาอยู่นะคะ? ทำไมถึงคิดจะโผล่ก็โผล่มา คิดจะหายก็หายไปด้วยเนี่ย…

นานะ: “วะฮะฮะฮ่า! ผลุบๆ โผล่ๆ งั้นเรอะ…! นั่นแหละถึงเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง โฮโออิน เคียวมะ!! คงไม่ได้ลืมไปแล้วใช่ไหม? นักแสดงสติเฟื่อง…โฮชิมิ จุนนะเอ๋ย!”

จุนนะที่เห็นนานะพูดเลียนแบบเคียวมะจึงตอบกลับไปแบบเดียวกัน

จุนนะ: “…จะลืมได้ไงล่ะ! นักแสดงสติเฟื่อง ไดบะ นานะ! ถึงความคิดจะปั่นป่วนจนได้ลิ้มรสขมขื่นจากการกระทำของหมอนั่นมาไม่รู้กี่ครั้ง… แต่ครั้งนี้จะไม่ให้เป็นแบบนั้นหรอกนะ! …จะเฝ้ามองการจากไปด้วยรอยยิ้มให้เห็นเอง! นั่นแหละถึงเหมาะกับการลาจากของพวกเรา!”

เคียวมะ: พวกเธอ…

จุนนะ: …นี่ไง คุณเองก็แสดงจนจบสิคะ!

เคียวมะ: …วะฮะฮะฮะฮะฮ่า!!!!! การแสดงอะไรกันล่ะ! ฉันคนนี้นี่แหละ!! คือผู้ต่อต้านองค์กรและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโลกใบนี้!!!! นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้บ้าคลั่งตัวจริงเสียงจริง… โฮโออิน เคียวมะยังไงล่ะ!! สมาชิกห้องทดลองหมายเลข 877 Banane! สมาชิกห้องทดลองหมายเลข 107 หัวหน้าห้องใส่แว่น!!

จุนนะ&นานะ: ค่ะ!

เคียวมะ: ฉันขอมอบหมายภารกิจให้พวกเธอ… เป็นการสานต่อ Operation Reproduction … จงสร้างละครเวทีที่วิเศษกว่า “บันไดนภาลัย” ต่อไปซะเถอะ!! อย่าได้ยอมแพ้…ต่อเรื่องราวที่จะสานต่อสู่อนาคตซะล่ะ

จุนนะ&นานะ: ได้ค่ะ!

คอมเมนต์กัน!