Seisho Music Academy Collaboration Event
奇異共演のリプロダクション
บุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นขณะซ้อมละครเวทีรอบพิเศษเรื่อง “บันไดนภาลัย” ของโรงเรียนดนตรีเซโช
คือนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้บ้าคลั่ง โฮโออิน เคียวมะ!?
แม้ทุกคนจะสับสน แต่ก็สนใจสิ่งที่โฮโออิน เคียวมะ เอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า
“ควรทำให้ละครโศกนาฏกรรมจบอย่างมีความสุข”
และแล้วม่านการแสดงละครร่วมกันสุดประหลาด
ของนักแสดงและนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้พานพบกันข้ามเส้นโลกนำพามาก็เปิดฉากขึ้น
天の階段 -บันไดนภาลัย-
เคียว (แคสต์: โฮชิมิ จุนนะ)
ริน (แคสต์: ไดบะ นานะ)
โฮ (แคสต์: เทนโด มายะ)
ทาโร่ (แคสต์: ไอโจ คาเรน)
ผู้รับใช้นภา (แคสต์: ฮานายางิ คาโอรุโกะ)
วันถัดมาจุนนะกับนานะซ้อมอ่านบทละครที่ว่าด้วยการเรียกตัวเองว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้จะเปลี่ยนโลก เนื้อความที่คุยกันคือผู้รับใช้นภาเล่าให้เคียวฟังว่าในประวัติศาสตร์อันยาวนานจะมีคนที่ออกมาสู้เพื่อบอกว่าสิ่งที่ทุกคนเชื่อมันผิดให้เห็นอยู่ประปราย ถึง 99% คนเหล่านั้นจะเป็นคนแปลก แต่อีก 1% ที่เหลือคือคนที่คอยเปลี่ยนโลกใบนี้ อย่างกาลิเลโอ กาลิเลอี ผู้ริเริ่มแนวคิดว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล หรืออิกนาทซ์ เซ็มเมิลไวส์ ที่เป็นผู้บุกเบิกการทำหัตถการปลอดเชื้อ
อาเมมิยะกับมาไซมาทักทั้งสองคนที่ซ้อมอ่านบทอยู่พอดี แต่ก่อนจะเข้าเรื่องก็ทักส่วนที่เพื่อนซักซ้อมกัน ที่มีนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องเข้ามาเอี่ยวเพราะได้รับอิทธิพลมาจากเคียวมะ จุนนะเองก็ชอบฉากนี้ตรงที่ตัวละครแสดงให้เห็นท่าทีที่กล้าหาญในการสู้กับความเป็นจริงที่ไม่สมเหตุสมผล จนนานะพึมพำว่าโฮโออินซังเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่านะ
เรื่องปรึกษาของพวกอาเมมิยะคือลำดับในบทละครองก์ 3 ตอนท้าย เป็นฉากที่รินกับเคียวจับมือกันเข้ายานอวกาศ พอประตูยานปิดลงก็จะปล่อยควันแล้วปล่อยยาน พวกมาไซกังวลตรงคำว่า “ปล่อยยาน” ซึ่งจะแสดงออกผ่านการกระทำ ไม่ใช่มีตัวละครคนไหนพูดบรรยาย และถ้าเป็นไปได้ก็อยากทำให้เป็นที่น่าจดจำเพราะเป็นฉากจบ
จุนนะ: แต่อันนี้เนี่ยเป็นพร็อบที่เคยทำให้เข้ากับหอประชุมใหญ่เซโชใช่ไหมล่ะ? ถึงโฮโออินซังจะบอกว่าทำได้ แต่จะทันจริงๆ ใช่ไหม? ถ้ามันดูยากก็ตัดส่วนนี้ออกแล้วเดินเรื่องว่าอยู่ในยานจะดีกว่าหรือเปล่า?
นานะ: ถ้าทำแบบนั้นก็ต้องปรับไม่ก็เปลี่ยนบทพูดน่ะสิ …ฉันออกจะชอบบทสนทนาตรงนี้แท้ๆ “ไปกันเถอะเคียวจัง! เข้าไปใน ‘เรือโนอาห์’ กันเถอะ! ตอนเข้าไปต้องกระโดดแบบระวังไม่ให้ล้มด้วย!”
จุนนะ: “คิกๆ ฉันช่วยเพราะเป็นห่วงแหละนะ เอ้า ยื่นมือมาสิ”
นานะ: “อื้อ นี่ เคียวจัง จากนี้ไปพวกเรามาพูดอรุณสวัสดิ์กันเยอะๆ เลยเนอะ”
จุนนะ: “ได้สิ… พวกเราไม่กลายเป็น ‘ดวงดาว’… พวกเราจะไปต้อนรับ ‘รุ่งอรุณ’ นั้นเอง”
มาไซเห็นเพื่อนแสดงก็คิดว่าทั้งคู่จับมือกันอย่างเป็นธรรมชาติจนไม่อยากตัดทิ้งเลย แต่ยังไงก็มีเรื่องการใส่เสียงด้วย อาเมมิยะว่าจะดูตัวพร็อบก่อนแล้วค่อยคิดอีกที จุนนะเป็นห่วงนิดหนึ่งว่าเคียวมะจะทำได้เรื่องได้ราวอะไรไหม แต่ฝั่งห้อง B รู้ทุกความเป็นไปเลยเอาให้ดูว่ายานอวกาศที่เคียวมะทำหน้าตาเป็นยังไง แล้วฉากจะตัดไปตรงฉากเด็กๆ ไปดูยานอวกาศของจริง
ทุกคนตื่นเต้นกันใหญ่ว่าระดับนี้แล้วเป็นพร็อบเฉยๆ แน่เหรอ (ส่วนในเรื่องสไตนส์เกท จริงๆ แล้วสิ่งนี่คือไทม์แมชชีนในเรื่อง) มาไซทักว่าดีไซน์เหมือนดาวเทียมเลย มายะเองก็คิดว่าถ้ายานนี้จงใจทำโดยมีแบบเป็นดาวเทียมก็น่าสนใจมากว่าทำไมถึงทำออกมาเป็นรูปแบบนี้ แต่จะอย่างไรก็ตาม การที่เคียวมะทำออกมาได้ในเวลาที่มีจำกัดก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
อาเมมิยะเห็นเคียวมะอยู่ด้วยพอดีเลยปรึกษาเรื่องที่คุยกับพวกจุนนะไป ทางห้อง B คิดว่าจะปล่อยควันขาวกับเสียงปล่อยยานออกมาพร้อมกับประตูยานปิดลง แล้วดับแสงสปอตไลท์ที่ส่องยาน เคียวมะบอกว่าทำได้ไม่มีปัญหา เดี๋ยวจะติดตั้งเครื่องปล่อยไอน้ำในชั่วพริบตาใต้ยานให้ แต่ถ้าไม่ได้เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน งั้นจะรีบโทรหาผู้ช่วยเดี๋ยวนี้
เคียวมะ: ฮัลโหล คริสติน่าใช่ไหม!? ตอนนี้ฉันแอบเจ้าพวกองค์กรติดต่อหาเธอ… ดะดะดะเดี๋ยวก่อน! ครับ อย่าตัดสายทิ้งเลย… อันที่จริงฉันอยากปล่อยควันออกมาเยอะๆ อย่างปลอดภัยโดยไม่ใช้ไอน้ำน่ะ ครับ… ใช้ไกลคอลในผลิตภัณฑ์อาหารกับน้ำกลั่น…? ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็โอเค! จงปรับแก้*อุปกรณ์หมายเลขสี่กับดารุเดี๋ยวนี้ซะ!!!!
*หมายถึงอุปกรณ์ในห้องทดลองแห่งอนาคตในเรื่องสไตนส์เกท เป็นเครื่องเพิ่มความชื้นแบบเร่งด่วนที่สร้างไอน้ำได้ในปริมาณมาก
ถึงการร้องขอความช่วยเหลือจากคุริสึจะทำให้เด็กเซโขมองเคียวมะแปลกๆ แต่ถ้าแก้ไขเรื่องได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว จุนนะเองก็รู้สึกขอบคุณที่เคียวมะคอยช่วย ทำให้การแสดงน่าจะออกมาดีเยี่ยมได้ เพราะเคียวมะชอบพูดจาแปลกๆ จนน่าสงสัยว่าจะให้ข้องเกี่ยวกับละครเวทีเรื่องสำคัญดีแน่เหรอ แต่จุนนะมองผิดไปเลยขอโทษเคียวมะที่เคยคิดอย่างนั้น
อยู่ๆ นานะก็หัวเราะขึ้นมาด้วยอินเนอร์เคียวมะ แถมยังพูดจาเหมือนเคียวมะใส่จุนนะจนใครๆ ก็งงว่า “อะไรเล่าแม่หัวหน้าห้องใส่แว่น…เรื่องน่าเบื่อแบบนั้นน่ะช่างมันปะไร! ถ้าว่างจนใส่ใจเรื่องนั้นละก็ จงแสดงผลสำเร็จให้เห็นบนเวทีกับไดบะ นานะคนนี้และทุกคนซะสิ!!”
พอเห็นแบบนี้คาเรนกับมายะก็หัวเราะแบบเดียวกับเคียวมะตามที่นานะทำ ส่วนเคียวมะก็ประทับใจแล้วบอกว่าพวกเธอจะช่วยรินและนำทางไปสู่บันไดนภาลัยแบบแฮปปี้เอนด์ได้แน่นอน