Skip to main content

遠足のレヴュー (เรวิวปิกนิก เรวิวเดินทางไกล) คืออีเวนต์ของซีรีส์สตาร์ไลท์ที่จัดขึ้นเนื่องในโอกาสแผ่นละครเวที #2 revival วางจำหน่าย เนื้อหาอีเวนต์จึงเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องราวในละครเวที #2 revival มินิเกม มุมถาม-ตอบและแสดงแบบอ่านบท โดยอีเวนต์มีแผนจัดทั้งหมด 8 รอบ รอบละจังหวัดดังนี้

  1. จังหวัดฟุคุโอกะ (28 ธันวาคม 2019)
  2. จังหวัดไซตามะ เขตโอมิยะ (4 มกราคม 2020)
  3. จังหวัดคานางาวะ เมืองโยโกฮาม่า (12 มกราคม 2020)
  4. จังหวัดมิยางิ เมืองเซนได (8 กุมภาพันธ์ 2020)
  5. จังหวัดจิบะ (29 กุมภาพันธ์ 2020)
  6. จังหวัดโอซาก้า (1 มีนาคม 2020)
  7. จังหวัดไอจิ เมืองนาโกย่า (8 มีนาคม 2020)
  8. จังหวัดฮอกไกโด (28 มีนาคม 2020)

แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้รอบที่ 5-8 เลื่อนวันจัดออกไป และยังไม่มีกำหนดวันจัดจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง ซึ่งในส่วนของเอนทรี่นี้จะพูดถึงอีเวนต์รอบ 3 ที่โยโกฮาม่าค่ะ ซึ่งความพิเศษของรอบนี้คือเป็นรอบเดียวที่แคสต์โรงเรียนเซรันรวมตัวกันครบ 3 คนนั่นเอง!

ปกติเวลารีพอร์ตเราจะเกริ่นยาวมาก แต่เนื่องจากมันผ่านมานานมากแล้ว และเท่าที่จำได้ไม่ประสบวิบากกรรมใดๆ เป็นพิเศษ แถมไปถึงตอนอีเวนต์จะเริ่มเลยไม่มีการผจญภัยอันน่าตื่นตะลึงมาเล่าค่ะ


เอนโซคุเรวิวรอบโยโกฮาม่าจัดที่ 横浜市鶴見区民文化センターサルビアホール 4Fホール เป็นฮอลจัดงานที่อยู่ใกล้สถานีสึรุมิ เดินทางค่อนข้างสะดวก ด้วยสเกลงานจัดในสเกลที่เล็กมากกกกกคือ 546 ที่เท่านั้นและงานเริ่ม+เลิกเร็ว ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทางทั้งขามาและขากลับเลยค่ะ

ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศสถานที่จัดงานมาก็จริง แต่เพราะเป็นอีเวนต์พูดคุยสเกลไม่ใหญ่ คนที่มางานก็ค่อนข้างเงียบกันค่ะ ตอนแรกเกือบหาที่จัดงานไม่เจอด้วยเพราะมันไม่มีอะไรสะดุดตาเลย ถ้าไม่เดินตามคนที่น่าจะมางาน อาจจะยืนงงอยู่หน้าอาคารแล้วหาทางเข้าไม่เจอ เป็นอีเวนต์ที่สงบเบอร์นี้เลย…

เราไปถึงเวลาเข้างานพอดี ก็ต่อแถวเดินเข้าตามปกติ พอทีมงานฉีกหางตั๋วไป เราจะได้ของที่ระลึกเป็นเข็มกลัดที่มีรูปคาร์แรกเตอร์ของแคสต์ที่มางานวันนี้ค่ะ พอเข้าไปแล้วก็ทึ่งนิดหน่อยที่ตัวเองอยู่ใกล้เวทีพอควร ตอนดูผังเห็นว่าตัวเองอยู่กลางๆ ก็จริง แต่มันใกล้มากค่ะ ใกล้สุดอะไรสุด ส่วนคนแถวหน้าสุดก็ใกล้ในเบอร์ที่นั่งพิงพนักแล้วยื่นแขนออกไปก็คว้าเซย์ยูได้อะค่ะ TvT ตัวเวทีที่แคสต์ดำเนินรายการก็ไม่ได้สูงและห่างจากที่นั่งแถวหน้าเท่าไร จากมุมเราที่อยู่กลางๆ ฮอลคือเห็นหน้าแคสต์ทุกคนชัดแจ๋วมากค่ะ ถ้าเทียบเป็นฟิกสเกลคงเป็น 1:8… พูดถึงตอนก่อนเริ่มมานานก็เข้าเรื่องกันเถอะค่ะ


遠足のレヴュー in YOKOHAMA 2020.1.12

โคยามะ โมโมโยะ (Cast.ไอโจ คาเรน) นานากิ คานอน (Cast.ยานางิ โคฮารุ)

ไอบะ ไอนะ (Cast.ไซโจ คลอดีน) สึคุอิ มินามิ (Cast.มินาเสะ สึซึ)

อิโต้ อายาสะ (Cast.ฮานายางิ คาโอรุโกะ) คาโดยามะ โยโกะ (Cast.โฮนามิ ฮิซาเมะ)

ตอนเริ่มงานฮอลจะดับไฟลงแล้วค่อยๆ เปิดไฟให้สว่างขึ้นมา พร้อมกับแคสต์แต่ละโรงเรียนที่ยืนเรียงกัน เริ่มจากฝั่งเซรันจะอยู่ฝั่งขวาของเวที (จากมุมคนดูหันหน้าเข้า) และเซโชอยู่ด้านซ้ายของเวที MC หลักของงานคือโมโยะจังคู่กับคานอนซีงค่ะ

แรกเริ่มทุกคนดูพกสติกันมาครบดี แต่อนิจจายังไม่ทันแนะนำตัวเสร็จ ไอไอก็ทำสคริปต์ร่วงลงพื้นไปแล้ว ถัดจากแนะนำตัวเสร็จจะเป็นโมโยะที่แนะนำว่ามินามิซังเพิ่งกลับมาจากประเทศอังกฤษ ขอให้ผู้ชมทุกคนตะโกนต้อนรับมินามิซังว่า “ยินดีต้อนรับกลับนะ (โอคายริ)” แล้วมินามิซังก็ตอบด้วยความดีดเกินร้อยแบบสึซึจังว่า “กลับมาแล้วค่า!” พร้อมกับบอกว่างานนี้เป็นงานแรกของปีและงานแรกหลังจากกลับมาญี่ปุ่นเลย

และที่สำคัญคือเอนโซคุโยโกฮาม่าเป็นงานรอบเดียวที่รวมแคสต์จากโรงเรียนเซรันครบ 3 คน (รอบอื่นจะเป็นเซโชล้วน ไม่ก็เซโช+เซรัน 1 คน) ทุกคนที่มางานรอบนี้โชคดีนะคะที่ได้เห็นพวกเรารวมตัวกันครบ แล้วพวกเราก็จะทำอะไรที่พิเศษๆ ที่ทำในรอบอื่นไม่ได้ให้ทุกคนดูด้วย (ถึงตรงนี้ก็สำนึกในดวงตัวเองเลยค่ะว่าตัวเองก็มีดวงกับเขาเหมือนกันนี่นา) เลยเริ่มจากเซรันที่ทำท่าเชิดหน้าจบเพลงเปิดตัวเซรัน (ใครนึกไม่ออกลองเปิดแผ่นละครเวทีดูย้อนได้นะคะ) เรียกเสียงหัวเราะของผู้ชมได้เป็นอย่างดี พอเล่นกันเสร็จแบบพอเป็นพิธีแล้วทุกคนจะนั่งประจำที่ เริ่มเข้ารายการอย่างเป็นทางการ!

生コメンタリー

生コメンタリーคือการเปิดไฟล์ #2 revival ดูพร้อมกับทุกคนบนจอใหญ่ ถ้ามีฉากไหนที่แคสต์อยากคอมเมนต์หรือเล่าเรื่องเป็นพิเศษก็จะเล่าแทรกขึ้นมาเลย ความรู้สึกตอนนั่งฟังจะเหมือนเล่นเกมแยกประสาทสัมผัสค่ะ เพราะเสียงในคลิปกับเสียงแคสต์จะตีกันโช้งเช้งมาก บางทีทุกคนก็แย่งกันพูดจนฟังไม่ออกว่าใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แต่ในความวุ่นวายเราก็พอจับใจความมาได้อย่างละนิดละหน่อยค่ะ

ฉาก 1 – ฉากต้นเรื่อง เริ่มตั้งแต่เซรันคุยกันเองว่าสตาร์ไลท์ของเซโชนี่ดีจัง จนจบที่อ.โซดะบอกว่าเราจะมีโครงการแลกเปลี่ยนกับเด็กเซโช

→ เกิดการล้อเลียนกันเกิดขึ้น ถ้าจำไม่ผิดคือล้อฉากที่สึซึกระโดดขึ้นเวที

ฉาก 2 – ช่วงเซรันแนะนำตัวกับเซโช ที่ฮิซาเมะเจอนานะ มาฮิรุเจอสึซึ มายะเจอโคฮารุ

→ ตอนมายะจับมือกับโคฮารุ ในภาพจะมีคลอดีนทำหน้าไม่ถูกใจสิ่งนี้เป็นแบ็กกราวน์ เลยมีใครสักคนล้อว่า “ดูคลอดีนทำหน้าไม่พอใจนั่นสิ”

→ อีกสองคู่ก็มีแซวกันเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าแซวอะไรค่ะ มินามิซังนี่ชอบชงสึซึมาฮิ แล้วคนข้างๆ เราเป็นชิปเปอร์คู่นี้ หน้าตาเขาดูมีความสุขตลอดการชงของมินามิซังดีค่ะ

ฉาก 3 – อ.โซดะบอกว่าจะชิงสตาร์ไลท์ไปจากเซโช

→ ตอนที่อ.โซดะพูด แบ็กกราวน์เป็นฟุตาบะทำหน้าเหวี่ยงมาก พร้อมบวกสุดอะไรสุด อายาสะจังเลยล้อด้วยเสียงคาโอรุโกะว่า “ดูสิคะ คนคนนี้โกรธน่าดูเลยนะคะเนี่ย”

ฉาก 4 – ตอนเซรันแสดงเพลงกุนโจ (群青)

ฉาก 5 – พาร์ทไลฟ์ หลังละครเวทีจบ

→ ไอไอบอกว่าขอสารภาพบาปหน่อยได้ไหม คือตอนที่ลงเวทีไปเต้นตรงโซนคนดูของการแสดง #2 revival วันแรก รอบแรก ฉันเหยียบเท้าใครไปไม่รู้ ไม่ทราบว่าในนี้มีใครโดนฉันเหยียบเท้าไปรึเปล่าคะ ในฮอลก็ฮาก๊ากกันเลย

อายาสะ: ตอนนั้นใครจะไปรู้ คนดูเค้าก็มองแค่พวกเรารึเปล่า ไม่รู้ตัวหรอกว่าโดนเหยียบเท้า!

→ มินามิซังเล่าว่า “มันมีเพลงหนึ่งที่ต้องกระโดดสูงๆ แล้วตอนซ้อมเห็นโยโกะกระโดดสูงมาก พอถามโยโกะ โยโกะก็บอกว่ากระโดดสูงๆ ไปเลย ตอนแสดงรอบถัดไปฉันเลยกระโดดสูงมาก จนทีมงานบอกว่าใจเย็นๆ นะคะ ไม่ต้องกระโดดสูงขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวมันโดนผู้ชม”

→ อายาสะเปิดประเด็นว่าจริงๆ ในไลฟ์จะมีท่าเต้นที่แคสต์เต้นแล้วแข่งกันทำหน้าประหลาดใส่กัน

โยโกะ: จริงเหรอคะ ก็ว่าอยู่ว่าเวลาหันหน้าไปทางอิคุตะซังทีไร อิคุตะซังชอบทำหน้าตลกๆ ทุกทีเลย

อายาสะ: อืม พวกฉันตั้งใจทำหน้าแบบนั้นแหละ ก็อยากเห็นแคสต์คนอื่นที่สบตาด้วยหลุดขำตอนแสดงนี่นา

อายาสะเลยเรียกโมโยะมายกตัวอย่างว่าที่เต้นแล้วทำหน้าประหลาดๆ ใส่กันเป็นยังไงบ้าง ก็เป็นสองคนนี้ยืนหันหน้าเข้าหากันกลางเวที แล้วทำแก้มพองๆ บ้าง หดคอให้หน้าตลกๆ บ้าง แล้วกลับมานั่งที่

อายาสะ: เนี่ย แต่เวลาทำหน้าตลกๆ ใส่คานอนซังทีไร คานอนซังจะคีปหน้านิ่งเป็นโคฮารุตลอดเลยอะ ไม่สนุกเลย ฮือๆ

撮影のレヴュー:ポーズをみんなでそろえまSHOW

ถัดมาเป็นมินิเกมแข่งขันกันระหว่างโรงเรียน ก่อนเข้าเรื่องว่าเป็นการแข่งขันอะไร มีโมโยะที่เป็น MC กล่าวที่มาและความสำคัญว่าโยโกฮาม่าคือเมืองแรกที่ริเริ่มอุตสาหกรรมการถ่ายภาพในญี่ปุ่น ดังนั้นรูปแบบการแข่งขันของเรวิวถ่ายภาพคือทีมงานจะให้หัวข้อมาฉายบนจอโปรเจกเตอร์ แล้วให้สมาชิกทีมนั้นๆ ทำท่าโพสตามหัวข้อที่ได้รับ ถ้าทุกคนในทีมทำท่าโพสเหมือนกันจะได้รับคะแนนไป โดยทีมที่ชนะจะได้รางวัล และทีมที่แพ้ต้องโดนเกมลงทัณฑ์

การแข่งขันจะแบ่งทีมเป็นฝั่งเซโช (โมโยะ อายาสะ ไอไอ) กับเซรัน (คานอนซัง มินามิซัง โยโกะซัง) มีฝั่งเซโชที่ส่งอายาสะไปเป่ายิ้งฉุบเลือกว่าฝั่งไหนได้เริ่มเล่นก่อน ส่วนฝั่งเซรันส่งโยโกะซังมา ผลคืออายาสะเป่ายิ้งฉุบแพ้ เซรันเลยได้เริ่มก่อน (เกร็ดเพิ่มเติมคืออายาสะเศร้ามาก แต่ทุกคนขำ เพราะก่อนหน้าตอนงานดราฟต์เลือกเพลงแสดงแบนด์ไลฟ์ อายาสะดวงวืดรัวๆ จนน่าเห็นใจ แล้วมาเอนโซคุก็ดันเป่ายิ้งฉุบแพ้เขาอีก…)

หัวข้อเรวิวถ่ายภาพฝั่งเซรัน

  1. ยีราฟ → คานอนซังทำไม่เหมือนเพื่อนๆ
  2. มอเตอร์ไซค์ → ทำท่าบิดมอเตอร์ไซค์
  3. Position Zero → โยโกะซังทำไม่เหมือนเพื่อน เพราะนึกว่าที่เพื่อนเตี๊ยมกันว่า “มีแค่ท่านั้น” คือท่าที่คุยกันเล่นๆ หลังเวทีว่าถ้าเซรันได้ทำท่า Position Zero แต่ละคนจะเอาอาวุธจิ้มพื้นยังไง พอให้ฝั่งเซโชออกมาทำ ทุกคนก็ทำท่าแบบคาเรน ฝั่งเซรันเลยโวยวายรวมๆ ว่าก็พวกฉันยังไม่เคยได้ทำท่า Position Zero เหมือนฝั่งเซโชนี่นา เพราะงั้นออกมาไม่เหมือนกันก็ไม่แปลกหรอก!
  4. เบสบอล → ทำท่าตีเบสบอล
  5. บลูซงจิเอมิ (ブルゾンちえみ ดาราตลกของญี่ปุ่น) → โพสท่าที่ดาราคนนี้ทำบ่อยๆ
  6. เรวะ (ชื่อปีศักราชปัจจุบันของญี่ปุ่น) → ทำท่ายกป้าย อันนี้ขำเป็นบ้ากันทั้งฮอลเลยค่ะ เกลียดมาก (อ่านว่าชอบมาก)

รวมๆ เลยเป็นฝั่งเซรันได้ไป 4 คะแนน เพราะมีอันยีราฟกับ Position Zero ทำไม่เหมือนกัน

หัวข้อเรวิวถ่ายภาพฝั่งเซโช

  1. แว่นตา → ไอไอทำท่าจับแว่นไม่เหมือนคนอื่น
  2. โยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์
  3. รักบี้ → อายาสะทำไม่เหมือนคนอื่น
  4. ซาลาเปาไส้หมู → ทุกคนทำท่าหยิบกินเหมือนกัน
  5. โดรน → ไอไอทำไม่เหมือนอยู่คนเดียว คือทำท่าเป็นโดรน ในขณะที่เพื่อนทำท่าบังคับโดรน…
  6. ไอบะ ไอนะ→ พอหัวข้อขึ้นมา ไอไอก็ตะโกนถามคนดูก่อนเลยว่า “ทุกคนคะ ทำท่าให้เหมือนฉันนี่ต้องทำยังไงคะ ถึงจะเป็นฉันเอง แต่ฉันก็นึกไม่ออกนะ!!” ในขณะที่โมโยะกับอายาสะคุยกันเองว่าต้องเป็นท่านั้นแน่ๆ แต่ไอไอก็ไม่รู้ว่าท่าไหน พวกเธอตกลงอะไรกันเองเนี่ย พอทำออกมา โมโยะกับอายาสะทำท่ามวยปล้ำ คือท่าล็อกคอแบบที่ไอไอชอบทำบ่อยๆ (…) ส่วนตัวไอไอเองที่เป็นหัวข้อกลับทำท่าเอานิ้วโป้งชี้เข้าหาตัวเอง พร้อมให้เหตุผลว่า “เวลาฉันแนะนำตัว ฉันทำท่านี้บ่อยจะตาย ทำไมพวกเธอถึงเลือกท่านั้นเล่า!” ไอไอเลยถามฝั่งเซรันว่าถ้าเซรันได้หัวข้อนี้จะทำท่าไหนกัน ซึ่งเซรันก็ตอบอย่างพร้อมเพรียงว่าท่าล็อกคอ แถมไอบะซังเพิ่งไปดูมวยปล้ำมาด้วยไม่ใช่เหรอคะ

ฝั่งเซโชที่มีความสามัคคีมากจึงได้แค่ 2 คะแนนจากหัวข้อโยโกฮาม่ามารีนทาวเวอร์และซาลาเปาไส้หมู ฝั่งที่โดนเกมลงทัณฑ์จึงเป็นฝั่งเซโช เนื้อหาของเกมลงทัณฑ์คือเด็กฝั่งเซโชต้องสารภาพรักเด็กฝ่ายเซรันในฐานะแคสต์ค่ะ จับคู่เป็น 3 คู่ ให้สารภาพรักทีละคู่ ตกลงกันว่าเป็นคู่อายาสะ-โยโกะ โมโยะ-มินามิ ไอไอ-คานอน ส่วนเซรันที่ชนะก็ได้ของรางวัลคือขนม+อาหารแห้งขึ้นชื่อของโยโกฮาม่า ถาดใหญ่มาก คาดว่าคงไปแบ่งกันเองหลังเวทีอีกที

ตอนก่อนเริ่มมีคุยกันว่าฝั่งไอไอ-คานอนเนี่ย ถ้าเป็นตัวละครคือคลอดีน-โคฮารุก็ยังได้คุยกันตอนแสดงละครเวทีนะ แต่คาโอรุโกะ-ฮิซาเมะกับคาเรน-สึซึเนี่ยไม่เคยคุยกันเลยไม่ใช่เหรอ มินามิซังเลยชงให้หนึ่งแก้วว่า “นั่นสินะ ก็ฉันอยู่กับมาฮิรุคนเดียวเลยนี่นา สนใจแค่มาฮิรุก็แบบนี้แหละ” (มีแบ็กกราวน์เป็นเสียงชิปเปอร์วี้ดว้าย)

คู่อายาสะ-โยโกะ

อายาสะ: ไง โยโกะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ (เว้นช่วงไปสักระยะ จำได้แค่ว่าขำมากจนลืมจด…) เนี่ย เธอชอบทาคาระสึกะใช่ไหม ฉันได้ตั๋วละครเวทีมา 2 ใบนะ ไปดูด้วยกันไหม ฉันชอบเธอนะ เรามาคบกันไหม

พอสารภาพรักเสร็จ ฝ่ายสารภาพรักต้องโค้งหลังแล้วยื่นมือไปข้างหน้าค้างไว้ รอว่าอีกฝ่ายจะตอบรับไหม ซึ่งทุกคนต้องทำค้างไว้จนกว่าจะสารภาพรักครบค่ะ

คู่โมโยะ-มินามิ

โมโยะ: ฉันคิดถึงมินามิซังมากเลยค่ะ ตอนที่มินามิซังไปเมืองนอกแล้วต้องใช้ชีวิตคนเดียวเนี่ย ใจฉันไม่สงบเลยค่ะ เป็นห่วงตลอดว่ามินามิซังจะอยู่คนเดียวไหวไหม ไหนจะ*เอาแหวนออกจากนิ้วไม่ได้ ไหนจะอะไร เลยคิดว่าถ้าขาดฉันไป มินามิซังคงอยู่ไม่ได้หรอกค่ะ ชอบนะคะ ช่วยคบกับฉันด้วยเถอะค่ะ

*หมายถึง https://twitter.com/minami373minami/status/1209609084267376640?s=21 ว่าด้วยตอนอยู่อังกฤษ มินามิซังไปลองแหวนที่ร้านแหวนร้านหนึ่ง แล้วตอนลองใส่ดันเอาออกจากนิ้วไม่ได้เลยต้องซื้อแหวนวงนั้นมา ในเมนชั่นมีคนแนะนำวิธีดึงแหวนออกจากนิ้วมากมาย สุดท้ายมินามิซังก็เอาแหวนออกอย่างปลอดภัยนะคะ

คู่ไอไอ-คานอน

ไอไอ: ไง คานอน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ตั้งแต่ตอนแสดง #2 ด้วยกันคราวนั้นเลย ตอนนั้นเราเคยคุยกันใช่ไหมว่าไว้หาโอกาสมาคุย ไว้มาเจอกันอีก แต่เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยเนอะ เพราะงั้นจากนี้ไปเธอก็มาอยู่กับฉันแล้วเราจะได้เจอหน้ากันทุกวัน คบกับฉันไหม

ตรงนี้ไอไอสารภาพรักเป็นสำเนียงคันไซแบบห่ามๆ ด้วยค่ะ แฟนเกิร์ลกร๊าวใจน่าดู 55555

พอสารภาพรักเสร็จครบทุกคน ฝั่งเซรันก็จับมือตอบกลับหมด หมายความว่ารับรัก แล้วก็กอดกันสักพักก่อนจะแยกไปนั่งประจำที่

มุมถาม-ตอบ

เป็นมุมที่ทีมงานจะเลือกคำถามมาจากผู้เข้าร่วมงาน ก่อนเข้างานจะมีกล่องให้ทุกคนหย่อนคำถามค่ะ ซึ่งมีทั้งหมด 2 คำถามด้วยกันคือ

1. หลังจากแคสต์ทุกคนได้อ่านมังงะ#2 transition บทย้อนอดีตแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เพราะมังงะบทย้อนอดีตเขียนเสร็จก่อนจะแสดง #2 revival ความรู้สึกของแคสต์ที่มีต่อตัวละครเปลี่ยนไปบ้างไหม

คอมเมนต์รวมๆ ของแคสต์คือเนื้อเรื่องมังงะ #2 เผยถึงปูมหลังเซรันที่ไม่ได้พูดถึงตอนแสดงละครเวที ทุกคนดีใจที่มีฉบับมังงะขยายความเพิ่ม ทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของตัวละครและปมในใจของแต่ละคนมากขึ้น เพราะงั้นตัวแคสต์จะได้ทำความเข้าใจตัวละครที่ตัวเองแสดงมากขึ้น

โยโกะ: ปกติจะมีทีมงานส่งมังงะรายเดือนที่ลงในเกกคังบูชิให้อ่าน แล้วฉันได้อ่านตอนเรวิวหิมะแรก (初雪) พร้อมกับโมเอกะซังที่แสดงเป็นนานะพอดี ตอนอ่านด้วยกันจนจบ โมเอกะซังก็ร้องไห้ออกมาแล้วพูดว่า “ฮือออออออ ฮิซาเมะจังงงงงงงงงงงงงงงงง” ด้วยล่ะ

ฝั่งเซโช: จริงๆ แล้วโมเอปิเป็นคนเซนสิทีฟมากเลยนะจะบอกให้

โยโกะ: ค่ะ เนื้อเรื่องเขียนดีจนเรารับสารไปแล้วก็แปลงออกมาเป็นน้ำตาได้ในทันทีเลยนี่นา

มินามิซังก็คีพคาร์คุยเรื่องมาฮิรุเหมือนเดิมค่ะ

2. วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของคางุระ ฮิคาริจัง อยากถามแคสต์ทุกคนว่าถ้าต้องให้ของขวัญวันเกิดตัวละครที่ตัวเองแสดง จะให้อะไรบ้าง

อันนี้คนถามคือคนที่นั่งข้างๆ เราด้วยค่ะ บังเอิญสุดอะไรสุด

โมโยะ: อืม คงเป็นกู้ดส์คานิฮานิวะละมั้ง… ถึงตอนนี้ในโลกฝั่งนี้จะมีกู้ดส์คานิฮานิวะอย่างเดียวคือเสื้อก็เถอะ แต่คาเรนดูเป็นเด็กที่ได้อะไรก็ดีใจนะ

ไอไอ: อยากพาคลอดีนไปกินมากุโระ แล้วก็ให้น้ำหอมแบบเดียวกับที่ตัวเองใช้

โมโยะ&อายาสะ: โห แบบนั้นน่ากลัวเถอะ…

อายาสะ: ให้น้ำหอมแบบเดียวกับที่ตัวเองใช้นี่ไม่โดนเข้าใจผิดตายเลยเหรอ แบบฉันชอบเธอมากเลยนะ เรามีกลิ่นเดียวกันเลย…

ไอไอ: อย่าคิดอย่างนั้นสิ! ฉันหมายถึงเวลามีอะไรดีๆ ก็อยากแบ่งปันให้ไง ไม่ได้ทำตัวให้น่ากลัวสักหน่อย!

อายาสะ: อืม ฉันเหรอ พูดตามตรงคือไม่รู้เลยว่าควรให้อะไร คาโอรุโกะเนี่ยมีทุกอย่างพร้อมเลยไม่ใช่เหรอ บ้านก็รวย ใช้บัตรรูดซื้อของนู่นนี่ ถ้าต้องเลือกให้จริงๆ คงให้ประสบการณ์ที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ละมั้ง

ทุกคนเลยเสนอว่าลองให้คาโอรุโกะใช้ชีวิตแบบสามัญชนคนเดินดินดู (…)

โยโกะ: อยากให้ตั๋วละครเวทีฮิซาเมะ 2 ใบ แล้วให้ฮิซาเมะชวนนานะไปดูละครเวทีด้วยกันค่ะ (BGMเสียงชิปเปอร์วี้ดว้าย) เพราะในมังงะตอนย้อนอดีตมีฮิซาเมะที่ปฏิเสธละครเวทีของนานะ ไหนๆ สองคนนี้ก็แลกช่องทางการติดต่อกันตอนจบเรื่องแล้ว เลยอยากให้ฮิซาเมะรวมความกล้าเป็นฝ่ายที่เริ่มชวนนานะ เหมือนที่นานะชวนฮิซาเมะบ้าง

มินามิ: อ่า ฉันต้องให้สึซึสินะคะ พอดีในหัวมีแต่เรื่องของมาฮิรุเต็มไปหมด แต่ต้องให้สึซึสินะคะ… ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้อะไรดี เพราะเป็นเด็กประเภทคล้ายๆ คาเรนเลย ที่ให้อะไรไปก็น่าจะดีใจหมด (สุดท้ายมินามิซังบอกว่าจะให้อะไรสักอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษแล้วเราฟังไม่รู้เรื่อง เป็นเศร้า)

คานอน: อยากเรียกทุกคนในเซโชกับเซรันมาช่วยจัดงานวันเกิดเซอร์ไพรส์โคฮารุค่ะ ฉันว่าเจ้าตัวคงนิ่งๆ ตามสไตล์ แต่อย่างน้อยก็อยากเห็นรอยยิ้มของเด็กคนนี้บ้างสักนิดก็ยังดี

朗読のレヴュー

เป็นพาร์ทแสดงแบบยืนอ่านบทค่ะ คือแคสต์ทุกคนจะถือบทคนละเล่ม แล้วพากย์กันสดๆ ให้ดูบนเวที ซึ่งบทของอีเวนต์แต่ละรอบจะมีเนื้อหาต่างกันไป แต่จะมีพูดถึงของขึ้นชื่อหรือสถานที่ท่องเที่ยวของพื้นที่นั้นๆ

เนื้อเรื่องของอีเวนต์ที่โยโกฮาม่า เริ่มจากเด็กเซโช 3 คน คาเรน คลอดีน คาโอรุโกะ ต้องแสดงละครเวทีที่ฉากในเรื่องคือเมืองโยโกฮาม่า เลยมาที่โยโกฮาม่าเพื่อซ้อมละครและเข้าถึงบทบาทมากขึ้น

มาถึงได้ไม่ทันไร คาเรนก็ลงรถไฟไปซื้อซาลาเปาไส้หมูก่อนเลย ส่วนคาโอรุโกะซื้อแฮมเบิร์กกลับไปฝากฟุตาบะด้วย (สองอย่างนี้เป็นของขึ้นชื่อของโยโกฮาม่า) คลอดีนเหมือนเป็นผู้ปกครองที่ต้องตามดูลูกๆ นี่เรามาซ้อมละครกันนะ เลิกกินได้แล้ว

คาเรน: คุโระจังละก็ ซาลาเปาอันนี้อร่อยนะ ลองกินดูสิ (ยื่นให้เพื่อนกิน)

คลอดีน: อ๊ะ อร่อยจริงด้วย แต่ว่าเราไม่ได้มาเล่นกันนะคาเรน

คาโอรุโกะ: คุโระฮังนี่พูดมากจัง (เอาแฮมเบิร์กยัดปากเพื่อน)

คือถูกเพื่อนรังแกจนคลอดีนลืมไปเลยว่าตอนแรกจะบ่นอะไร แต่ก็นึกได้ว่าเรามาเพื่อซ้อมละครเวทีแบบนี้ เราต้องได้อะไรดีๆ กลับไปด้วยนะ อุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่เชียว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กฝั่งเซรันก็นั่งรถไฟมาที่โยโกฮาม่าแล้วเจอกับเซโชโดยบังเอิญ เด็กสองโรงเรียนเลยคุยแลกกันว่ามาทำอะไรที่โยโกฮาม่า ฝั่งเซรันเลยรู้ว่าเซโชจะมีละครเวทีเรื่องใหม่ ส่วนฝั่งเซรันมีฮิซาเมะที่บอกว่าทางนี้ไม่ว่างแสดงงานย่อยแบบเซโชหรอก เพราะเซรันมีละครเวทีเรื่องสามพี่น้อง (อะไรสักอย่าง) ที่ต้องโฟกัสถึง แต่ที่มาถึงนี่เพราะโคฮารุอยากกินชานมไข่มุกเจ้าดังในโยโกฮาม่า (ซึ่งคานอนซังพากย์เป็นโคฮารุแบบนิ่งมากๆ พูดหน้านิ่งๆ เสียงนิ่งๆ ว่าอยากกินชานมไข่มุกค่ะ)

ฝั่งเซโชที่จะไปเดินไชน่าทาวน์เลยชวนให้เซรันมาด้วยกัน สึซึกับฮิซาเมะก็โอเค ส่วนโคฮารุก็ตอบเสียงนิ่งๆ ว่าโอเคเหมือนกัน เด็กๆ 6 คนจึงไปที่ไชน่าทาวน์ของโยโกฮาม่า เป็นย่านที่มีของกินมากมาย คาเรนกับสึซึคึกมากตามสไตล์หมาดีดๆ (?) คาโอรุโกะก็เอนจอยช็อปปิ้ง ทุกคนดูมีร้านที่อยากเข้าเยอะไปหมด

คลอดีน: เดี๋ยวเถอะคาเรน เมื่อกี้เพิ่งกินซาลาเปาลูกใหญ่ไปไม่ใช่เหรอ

คาเรน: ไม่ได้หรอกนะคุโระจัง! มาทั้งทีเราต้องมาให้คุ้มสิ อ๊ะ อันนี้น่ากินจัง (วิ่งไปดู)

สึซึ: อ๊ะ นั่นร้านชานมไข่มุกที่โคฮารุอยากกินใช่ไหม

โคฮารุ: อืม (ไปซื้อ) อยากเพิ่มไข่มุกจัง ไปถามร้านดีกว่าว่าเพิ่มได้อีกไหม

สึซึ: เอ๊ะ โคฮารุ รอฉันด้วยสิ!

หลังจากฉากนี้ทุกคนจะกระจัดกระจายกันไป แล้วจะไปอยู่เป็นคู่ๆ เหมือนคู่ที่เล่นเกมลงทัณฑ์สารภาพรักค่ะ คือคาโอรุโกะ-ฮิซาเมะ คลอดีน-โคฮารุ คาเรน-สึซึ เลยกลายเป็นที่บอกก่อนหน้าว่าเด็กพวกนี้ไม่เคยคุยกันเลย ก็ได้คุยกันครั้งแรกในการแสดงแบบอ่านบทค่ะ วิธีการเล่าจะแบ่งเป็นฝั่งเซโซเล่าปัญหาที่ตัวเองเจอในการแสดงให้เด็กเซรันฟังจนครบ ไล่ลำดับเป็นคาโอรุโกะ>คลอดีน>คาเรน แล้วจะย้อนกลับมาที่เด็กเซรันแต่ละคู่ให้คำปรึกษา ตามลำดับฮิซาเมะ>โคฮารุ>สึซึ

คาโอรุโกะ – ได้รับบทเป็นนักเขียนนิยายรักที่มาโยโกฮาม่าเพราะต้องใช้เป็นฉากเขียนนิยาย แต่คาโอรุโกะไม่เข้าใจความคิดของตัวละครนี้เท่าไร เพราะจากที่อ่านบทดู เจ้าตัวก็ไม่ค่อยอยากเขียนนิยายเรื่องนี้ แต่ทำไมถึงยอมนั่งรถมาเก็บข้อมูลที่โยโกฮาม่า

คลอดีน – ได้รับบทเป็นอดีตนักวิ่งกรีฑาที่บาดเจ็บจนแข่งไม่ได้อีก ฉากที่คลอดีนไม่เข้าใจคือฉากที่ตัวละครนี้นั่งอยู่ริมแม่น้ำแล้วข้างหน้าตัวเองคือคนที่วิ่งไปวิ่งมาได้ คลอดีนอยากรู้ว่าตัวละครนี้จะรู้สึกยังไง ในเมื่อตัวเองไม่อาจกลับไปวิ่งแบบนั้นได้อีกแล้ว จะแค้นใจหรือเปล่า

คาเรน – ได้รับบทเป็นเจ้าของร้านกาแฟ จุดศูนย์กลางของละครเวทีเรื่องนี้ คือคาเรนเปิดร้านกาแฟแล้วคอยรับฟัง ให้คำปรึกษาตัวละครของคลอดีนกับคาโอรุโกะ ปัญหาที่คาเรนพบคือบทเจ้าของร้านกาแฟมีแค่การรับฟังอย่างเดียว ไม่รู้เลยว่าตัวละครนี้ทำอะไรได้อีกบ้าง เลยรู้สึกว่ามันกลวงๆ ไม่ค่อยมีแก่นที่ชัดเจน

ฮิซาเมะ – ให้คำปรึกษาคาโอรุโกะว่าจริงๆ แล้วนักเขียนคนนั้นน่าจะรักโยโกฮาม่ามากรึเปล่า เพราะเจ้าตัวยอมเดินทางมาถึงที่นี่ ยอมศึกษาลงพื้นที่ด้วยตัวเอง แปลว่าเขาอยากเขียนให้ผลงานออกมาดีแหละ ที่ไม่ยอมเขียนหรือเริ่มไม่ได้สักทีเนี่ยไม่ใช่เพราะนักเขียนไม่ชอบ แต่อยากทำให้ออกมาดีที่สุดแล้วเริ่มลงมือรึเปล่า

โคฮารุ – ให้คำปรึกษาว่านักวิ่งคนนั้นคงไม่แค้นหรือเจ็บใจหรอก ถึงตัวเองจะวิ่งด้วยความเร็วแบบนั้นไม่ได้แล้ว แต่คนเป็นนักวิ่งคงไม่ยอมแพ้อยู่ที่ตรงนั้น มีแต่ต้องทำให้ตัวเองกลับมาวิ่งได้ดังเคยรึเปล่า ถ้าเป็นไซโจซัง ไซโจซังจะยอมแพ้แล้วให้จบอยู่ที่ตรงนั้นเหรอคะ

สึซึ – ไม่อยากให้คาเรนมองว่าบทเจ้าของร้านกาแฟเป็น “แค่” คนรับฟัง เพราะการที่เรากลายเป็นคนรับฟังและให้คำปรึกษากับใครสักคน แปลว่าคนคนนั้นต้องเชื่อใจเรา เป็นคนสำคัญคนหนึ่งของเขา ไม่ใช่บทที่ไม่มีอะไรอย่างที่คาเรนคิดหรอก มองโลกในแง่บวกเข้าไว้

พอสึซึคุยกับคาเรนจบ คลอดีน โคฮารุ คาโอรุโกะ ฮิซาเมะก็มารวมตัวกันในที่ที่มีพวกคาเรน ฝั่งเซโชคุยกันเองว่าในช่วงที่หายไปเนี่ย พอมีอะไรที่ตีความตัวละครได้มากขึ้นไหม ซึ่งทุกคนก็มีความสุขดีเพราะฝั่งเซรันให้คำปรึกษาแล้ว เรื่องจึงจบที่เซโชจะรอดูละครเวทีของเซรัน และเซรันก็จะรอดูละครเวทีของเซโชเหมือนกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไป

MC ปิดท้าย

หลังจากจบการแสดงอ่านบท ทุกคนจะกลับเข้าหลังเวทีไปรอบหนึ่งแล้วออกมา MC ปิดท้าย แต่ความวุ่นวายเกิดตั้งแต่ทุกคนกลับมากลางเวที แล้วมีแค่โมโยะคนเดียวที่หยิบสคริปต์ออกมา ทุกคนนอกจากโมโยะเลยต้องกลับเข้าหลังเวทีไปรับสคริปต์ ซึ่งโมโยะกับคานอนซังที่เป็น MC หลักก็ต้องทำหน้าที่อย่างแข็งขัน

คานอน: ขอโทษนะคะ (เดินไปหาโมโยะที่ยืนคนละฝั่งของเวที) ฉันต้องพูดตรงไหนนะคะ

โมโยะ: (ชี้ในสคริปต์คานอนซัง) ตรงนี้จ้า

คานอน: (เดินกลับไปที่ตัวเองแป๊บหนึ่ง แล้วเดินกลับมาหาโมโยะอีกรอบ) ขอโทษนะคะ ต้องเปิดหน้าไหนนะคะ

โมโยะ: เมื่อกี้ตอนยื่นให้ก็เปิดหน้านั้นให้แล้วแท้ๆ อะ!!

แต่ทั้งสองคนก็เป็น MC กันได้เรื่องดี คานอนซังบอกว่าเพิ่งเคยทำหน้าที่เป็น MC ครั้งแรกเลยงงนิดหน่อย แต่ทุกคนก็เอ็นดูหนูนะ

เสร็จตรงนี้ก็เป็นประกาศข่าวเดิมๆ ไม่มีอันที่ใหม่เป็นพิเศษ แต่ถัดจากนี้เป็นจับสลากสุ่มหางตั๋วของทุกคนที่มางาน เพื่อแจกโปสเตอร์งานพร้อมลายเซ็นแคสต์ 6 คนเป็นจำนวน 6 ใบ ซึ่งเราก็วืดตามระเบียบค่ะ ฮา

จับสลากเสร็จแล้วก็ถึงเวลาปิดงานจริงๆ ตรงนี้จะให้แคสต์พูดความรู้สึกอีเวนต์วันนี้แบบรายคน แต่เราจดมาไม่ครบเลยเขียนคร่าวๆ ไว้แบบนี้แทนนะคะ

ฝั่งเซรัน: บอกว่าอยากแสดงละครเวทีกับเซโชอีก อีเวนต์นี้เป็นอีเวนต์แรกที่เซรันมารวมตัวกันครบสามคนหลังจากจบการแสดง #2 revival ดีใจที่ได้มางานนี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากยืนอยู่บนเวทีเดียวกันอีก

ฝั่งเซโช: โมโยะกับไอไอพูดปกติดี แนวๆ สนุกกับงาน แต่มีอายาสะที่เราจดมาว่าไหนๆ เซโชกับเซรันก็ได้คุยกันตอนแสดงแบบอ่านบทแล้ว เราได้คุยกันจริงๆ สักทีนะ เป็นไปได้ก็อยากให้คุยกันอีก แล้วก็อยากสู้กับเซรันด้วย เซรันเตรียมใจสู้ไว้ด้วยนะ


รวมๆ แล้วเอนโซคุเรวิวโยโกฮาม่าเป็นอีเวนต์แรกของปีที่เราไป แล้วเป็นอีเวนต์ที่ประทับใจพอควรค่ะ ทั้งการเดินทางที่สะดวก เวลาเลิกงานที่ไม่เย็นจนเกินไปทำให้ขากลับสะดวกมากๆ แคสต์ก็น่ารักน่าเอ็นดูกันทุกคน แถมยังเห็นจากที่ใกล้ๆ อีกต่างหาก ใจพังตายไปเรย

สุดท้ายนี้ก็ขอโปรโมทสินค้าที่อ้างอิงถึงในบทความกับแปะรูปส่งท้ายแล้วกันค่ะ ถ้าใครสนใจเนื้อเรื่องละครเวที #2 transition สามารถหาดูแบบละครเวทีได้จากแผ่นบลูเรย์ (https://bushiroad-ecshop.com/item/view/BRMM-10175) มีสองแบบคือ 初演 (แสดงครั้งแรก) กับแบบ revival ต่างกันตรงช่วงเวลาและสถานที่ที่ใช้แสดง มาพร้อมกับคอนเซปต์ของสตาร์ไลท์ที่มักบอกว่า “ถึงจะเป็นละครเวทีเรื่องเดียวกัน ต่อให้แสดงซ้ำกันก็ออกมาไม่เหมือนเดิม” หรือถ้าเป็นมังงะจะเป็น 2 เล่มจบ (https://thailand.kinokuniya.com/bw/9784048994484) และเนื้อเรื่องมังงะจะเขียนถึงส่วนที่ไม่ได้พูดถึงตอนแสดงละครเวทีด้วย แต่ถ้าให้เราแนะนำก็ตามควบคู่กันไปสองอย่างเลยค่ะ XD

ส่วนนี่รูปปิดท้ายค่ะ ให้ทายค่ะว่าเราอยู่ตรงไหน–

คอมเมนต์กัน!