Skip to main content

TokyoAround-4220970

ตอนที่ 6 ของซีรีส์ “ญี่ปุ่นไปรอบๆ” แล้วหละ!! ทุกคนรู้จักโตโตโร่ไหมเอ่ย~ ถ้าไม่รู้ วันนี้พวกเราจะไปกิบลิมิวเซียมกัน! และสำหรับตอนอื่นๆติดตามได้ในสารบัญเน้อ

สารบัญ: ญี่ปุ่นไปรอบๆ

วันที่ 22 เมษายน 2558

วันนี้จะเป็นเที่ยวแบบชิลๆกันแล้วหละสำหรับทริปโตเกียวนี้ (จากที่เหนื่อยกันมาสองวัน) โดยหลังจากประหยัดเงินสำหรับซื้อสินค้าอนิเมชั่นมาซักพักเล็กๆ ก็ได้เวลาที่จะไปจับจ่ายอีกแล้ว โดยในวันนี้ช่วงเช้าเราจะไปซื้อสินค้าอนิเมกันที่นาคาโนะบรอดเวย์ (Nakano Broadway, 中野ブロードウェイ) แหล่งช็อปคุณภาพดีราคาถูกที่น่าไปเยี่ยมเยือน

แวะกินขนมปังยามเช้า

แวะกินขนมปังยามเช้า

โดยเช้านี้พวกเราก็ออกเดินทางจากสถานีอิเคะบุคุโระต่อสายรถไฟแค่สั้นๆคือมาด้วยสายยามาโนเตะ (Yamanote Line) แล้วต่อสายชูโอ (Chuo Line) ที่สถานีชินจูกุ จากนั้นก็มาลงที่สถานีรถไฟ JR นาคาโนะ (Nakono Station) ได้โดยไม่ยาก จริงๆแล้วสองพื้นที่นี้ก็ไม่ห่างกันมากเท่าไรด้วย

ระหว่างนี้พยายามจะเหลือบดูป้ายโฆษณาที่ข้างประตูรถไฟสายยามาโนเตะ เนื่องจากพึ่งได้อ่านข่าวมาว่ามีการแปะโฆษณาเกม เลิฟไลฟ์! สคูลไอดอลเฟสติวัล (Love Live! School idol festival, ラブライブ!スクールアイドルフェスティバル) กันในช่วงนี้ แต่ว่าก็ไม่อาจพบเจอใดๆ

เจอแต่โฆษณาเรดบูล เครื่องดื่มชูกำลังสายเลือดไทย

เจอแต่โฆษณาเรดบูล เครื่องดื่มชูกำลังสายเลือดไทย

เนื่องจากเคยมาแล้วรอบนึง การมานาคาโนะรอบนี้เลยไม่ได้หลงทางอะไรแล้ว สามารถเดินทางไปจับจ่ายสินค้าได้โดยตรงอย่างไม่คิดมาก ระหว่างทางก็แวะกินแวะเดินดูของเล่นๆกันไปก่อน ย่านการค้าในบริเวณนี้ก็เป็นย่านที่เน้นขายสำหรับชาวญี่ปุ่นเสียมากกว่า เลยทำให้ยังเดินสนุกอยู่เช่นเคย

ระหว่างเดินเข้ามายังตัวย่านการค้าก็เจอผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง สส. มายืนหาเสียงด้วยแบบใกล้ชิดด้วย ช่วงนี้ครึกครื้นกันน่าดู

กรุณาเลือกกระผม--

กรุณาเลือกกระผม–

ลงที่สถานี คนเยอะใช้ได้เลย

ลงที่สถานี คนเยอะใช้ได้เลย

เจอร้านคิโนะคุนิยะ แต่ที่นี่ขายกาแฟ ไหงงั้น

เจอร้านคิโนะคุนิยะ แต่ที่นี่ขายกาแฟ ไหงงั้น

เข้าย่าน นาคาโนะซัน มอลล์ (Nakano Sun Mall)

เข้าย่าน นาคาโนะซัน มอลล์ (Nakano Sun Mall)

มาทีไรก็ต้องแวะดูสินค้ากล่องที่ฟุจิยะคาเมร่าซักหน่อย

มาทีไรก็ต้องแวะดูสินค้ากล่องที่ฟุจิยะคาเมร่าซักหน่อย

ทาโกะยากิยืนกิน

ทาโกะยากิยืนกิน

ข้าวกล่องยามเช้า

ข้าวกล่องยามเช้า

ตอนแรกก็เดินตรงเข้าไปนาคาโนะบรอดเวย์ก่อนเลย แต่ว่าพอสำรวจแล้วพบว่าร้านค้าใหญ่ๆหลักแบบมันดาราเกะเปิดตอน 11:00 น. โน่น เลยเอาเวลามาย้อนไปหาราเม็งกินกันก่อน สุ่มด้วยจำนวนคนนั่งกินในร้านแล้วก็ตรงเข้าไปลองกันโลด

นาคาโนะบรอดเวย์ยามเช้า

นาคาโนะบรอดเวย์ยามเช้า

เด็กสาวตัวน้อยน่ารัก

เด็กสาวตัวน้อยน่ารัก

ย้อนกลับมากินราเม็ง น้ำซุปสีส้มช่างน่ากิน

ย้อนกลับมากินราเม็ง น้ำซุปสีส้มช่างน่ากิน

เจ้าของร้านอาหารในญี่ปุ่นนี่จะร้านไหนก็ดูตั้งใจ

เจ้าของร้านอาหารในญี่ปุ่นนี่จะร้านไหนก็ดูตั้งใจ

ขึ้นชื่อว่าราเม็งจะร้านไหนก็ปริมาณไม่ธรรมดากันทั้งนั้น ขอเตือนใจผู้ที่อยากทดสอบกะเพาะตัวเองกับราเม็งปริมาณมหาศาลต้องทำใจก่อนด้วยเพราะว่าเจ้าของร้านแต่ละคนแลดูตั้งใจ ถ้าเรากินไม่หมดจะรู้สึกผิดบาปพอสมควร

เจอเหมียวมาเดินเล่น

เจอเหมียวมาเดินเล่น

หลังกินเสร็จก็ได้เวลาที่จะเข้านาคาโนะบรอดเวย์เพื่อซื้อสินค้าอนิเมต่างๆ ในส่วนนี้ก็มีแต่การจับจ่ายใช้สอย ร้านในนี้หลักๆที่ควรเข้าก็จะมี มันดาราเกะ (Mandarake, まんだらけ) เพราะเป็นสาขาดั้งเดิม ใหญ่มาก แยกเป็นร้านย่อยหลายร้านหลายชั้น แล้วก็ลาชินบัง (Lashinbang, らしんばん) ก็เป็นอีกร้านที่มีของดีราคาถูกมากมาย พวกนี้เป็นมือสอง โดยมากแล้วในนี้จะมีขายของเน้นมือสองซะส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งเป็นที่ถูกใจสำหรับพวกเรามาก

แน่นอนว่าจ่ายกันกระจาย อนึ่งเพื่อทำให้ผู้เขียนไม่รู้สึกแสลงใจในสิ่งที่จ่ายลงไปอาจจะข้ามๆไปในเรื่องของรายละเอียดลึกๆ อ้อ ที่นี่มักจะมีโซนสนุกๆแบบโซนขายของเล่นเก่าๆจากอนิเมหลายปีก่อนเช่น เซลเลอร์มูน ด้วย และราคามันระดับที่ทำให้คุณต้องตะลึง

ถ้าจะให้รีวิวสั้นๆเกี่ยวกับการซื้อของอนิเมในนาคาโนะบรอดเวย์คือต้องบอกว่าสนุกสนานไปกับการหาของมือสองได้อย่างดี ร้านรวงมีสไตล์และดูมาเนียมากๆ สินค้ามือหนึ่งเองจะน้อยไปซักนิด ที่นี่เป็นแหล่งที่เหมาะสมกับคนที่คลั่งมากๆจะเดินสนุกมากกว่าอากิบะฯ ราคาโดยรวมจัดว่าถูกกว่าและคนน้อยกว่าเยอะด้วย

นั่นหละราคา

นั่นหละราคา 60,000 เยน–

เดินเล่นซื้อของในนาคาโนะบรอดเวย์

เดินเล่นซื้อของในนาคาโนะบรอดเวย์

เอ๊ะ มีตู้เกมแบบดั้งเดิมด้วย

เอ๊ะ มีตู้เกมแบบดั้งเดิมด้วย คละเคล้าเก่าใหม่

จู่ๆก็เจอโปสเตอร์ผลงานของ อ.ฮิโรฮิโกะ อาราคิ ผู้วาดโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ

จู่ๆก็เจอโปสเตอร์ผลงานของ อ.ฮิโรฮิโกะ อาราคิ ผู้วาดโจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ

ลาชินบังที่กล่าวมาตะกี้

ลาชินบังที่กล่าวมาตะกี้

มีส่วนรับซื้อสินค้ามือสองขนาดใหญ่ด้วย

มีส่วนรับซื้อสินค้ามือสองขนาดใหญ่ด้วย

มีกระดานวาดรูปเลยมีถังคุงแอบไปปรากฏกาย

มีกระดานวาดรูปเลยมีถังคุงแอบไปปรากฏกาย

เดินเล่นจับจ่ายซื้อของกันซักพักก็ได้เวลาไปจุดหมายต่อไปคือกิบลิมิวเซียมที่จองเวลาเข้าไว้รอบ 16:00 น. เมื่อบวกเวลาเดินทางต่างๆไว้แล้วเราจึงออกจากนาคาโนะตอน 15:00 น. ก่อนไปก็หาขนมปังกินแก้หิวกันไปก่อน (?!)

รสชาติพอจะหวังได้อยู่ จริงๆแล้วการมาหาอะไรกินในต่างแดนมักจะอร่อยๆเสมอแหละดั่งอุปาทาน จะมีก็แต่น้ำโซดารสพีซที่ไปกดตู้มาแล้วรู้สึกรสชาติไม่ค่อยถูกใจนี่แหละ

แพตตี้กดมาแต่ได้อานิสงค์ทดลองดื่มด้วย พบว่าไม่อร่อยเท่าไร

แพตตี้กดมาแต่ได้อานิสงค์ทดลองดื่มด้วย พบว่าไม่อร่อยเท่าไร

เดินทางมาจากสถานีนาคาโนะแค่แปปๆด้วยรถไฟสายเดิม (อยู่บนเส้นทางเดียวกัน) พวกเราก็มาถึงสถานีมิทากะ (Mitaka Station) ที่ไว้สำหรับต่อรถไปมิวเซียมนั่นเอง โดยเพียงแค่เดินออกมาหน้าสถานีก็ได้พบกับป้ายรถบัสที่ 9 ที่เป็นป้ายเฉพาะกิจของทางกิบลิจอดอยู่อย่างเด่นเป็นสง่าเชียว

มีป้ายบอกทางให้ไปขึ้นรถบัสได้โดยไม่หลงด้วย

มีป้ายบอกทางให้ไปขึ้นรถบัสได้โดยไม่หลงด้วย

เดินออกมาก็ได้พบกับป้ายรถบัส

เดินออกมาก็ได้พบกับป้ายรถบัส

มีสัญลักษณ์แบบนี้พวกเราขึ้นโดยไม่คิดมากเลย (ฮา)

มีสัญลักษณ์แบบนี้พวกเราขึ้นโดยไม่คิดมากเลย (ฮา)

โดยค่าเดินทางจะอยู่ที่ 210 เยนต่อรอบ แต่ถ้าซื้อตั๋วที่ตู้จะอยู่ที่ 380 เยนต่อรอบไปกลับซึ่งถูกกว่าเล็กน้อย แต่ว่าด้วยความขี้เกียจต่อคิวเลยขึ้นไปจ่ายด้วยพาสโมเอาตรงๆสะดวกกว่าเยอะเลย และเนื้อจากเป็นบัสพิเศษของกิบลิโดยตรง จึงนั่งง่ายมาก จอดแค่ป้ายสถานีรถไฟมิทากะและมิวเซียมเท่านั้นเอง

เด็กๆนั่งกันเต็มรถเลย

เด็กๆนั่งกันเต็มรถเลย

ใช้เวลาไม่นานก็ได้เดินทางถึง กิบลิมิวเซียม, มิทากะ (Ghibli Museum, Mitaka, 三鷹の森ジブリ美術館) ที่เที่ยวในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยรอบที่พวกเราจะเข้าชมกันคือรอบ 16:00 น. ฉะนั้นมาถึงประมาณ 15:45 นี่ก็นับว่าเหมาะสมแล้ว อนึ่งการเข้าชมมิวเซียมนี้จะต้องทำการจองตั๋วล่วงหน้า สำหรับคณะของเราในครั้งนี้ได้ทำการรบกวนพี่ยุยให้ช่วยจองไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทาง ราคา 1,000 เยนต่อท่าน

ตั๋วเข้าชมปรินท์จากลอว์สัน

ตั๋วเข้าชมปรินท์จากลอว์สัน

แต่ถ้าใครไม่ได้มีเพื่อนที่จองให้ได้ก่อนก็สามารถจองได้ที่ตู้จองตั๋วที่มีตามร้านลอว์สัน (LAWSON) สาขาใหญ่ๆ โดยวิธีการจองก็สามารถตามอ่านได้จากในลิงค์นี้

ป้ายทางเข้า

ป้ายทางเข้า

กิบลิมิวเซียมเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของกิบลิสตูดิโอ หนึ่งในสตูดิโออนิเมชั่นชื่อดังระดับตำนานของญี่ปุ่นที่ผลิตผลงานที่น่าประทับใจมามากมาย เช่น My Neighbor Totoro (となりのトトロ), Spirited Away (千と千尋の神隠し) ใครที่ชื่นชอบผลงานของสตูดิโอนี้ต่างก็คงคิดว่าอยากจะมาที่นี่ซักครั้งแน่ๆ

TokyoAround-4221021

ส่วนตึกแรกและสนามหญ้าที่จะได้เจอก่อนเลยเมื่อมาถึง

เพราะมีระบบจองคิวเลยทำให้นักท่องเที่ยวไม่แออัดมากไป

เพราะมีระบบจองคิวเลยทำให้นักท่องเที่ยวไม่แออัดมากไป

น่าเสียดายจริงๆที่ในกิบลิมิวเซียมนี้จะอนุญาติให้ถ่ายรูปได้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้นเอง โดยเมื่อเข้าจะได้รับฟิล์มบางส่วนจากอนิเมมาเป็นที่ระลึกแบบสุ่มด้วย (ได้ฟิล์มจากเรื่อง Ponyo (崖の上のポニョ) มาหละ) โดยในตัวอาคารจะเป็นอาคารไม้แท้ใหญ่ๆประกอบด้วยส่วนจัดแสดงหลายๆส่วน ให้ความรู้สึกคลาสสิคแบบคฤหาสน์ยุคเก่าร่วมสมัย ทุกรายละเอียดในอาคารล้วนวิจิตรบรรจง

ภาพแสดงส่วนจัดแสดงในอาคาร

ภาพแสดงส่วนจัดแสดงในอาคาร

โดยสิ่งที่ผู้เข้าชมจะได้รับนอกเหนือจากฟิล์มและการเดินชมจะเป็นการได้ดูอนิเมชั่นพิเศษที่มีฉายแตกต่างกันตามช่วงเวลา (ทำให้มาหลายครั้งก็ยังสนุกกับการเข้าชมได้อยู่) นอกจากนั้นยังมีส่วนจัดแสดงพิเศษที่จะเปลี่ยนทุกๆ 1 ปีเช่นกัน (รายละเอียดติดตามได้จากในเว็บไซต์หลัก)

บางส่วนน่ารักมากเช่นรถบัสแมว แต่สำหรับเด็กๆเท่านั้น

บางส่วนน่ารักมากเช่นรถบัสแมว แต่สำหรับเด็กๆเท่านั้น

โดยส่วนจัดแสดงพิเศษและส่วนจัดแสดงถาวรที่มีไว้ให้ชมกันก็เช่นส่วนแสดงการจัดทำอนิเมชั่น ห้องทำงานของ ฮายาโอะ มิยาซากิ (ผู้กำกับของกิบลิ) เป็นต้น แต่ละส่วนล้วนเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าประทับใจแม้จะถ่ายทอดออกมาเป็นรูปภาพไม่ได้ก็อยากเชิญชวนให้ทุกคนไปลองชมกัน

เดินไปซักพักก็มานั่งกินของว่างกันราวๆ 6 โมงเย็น มีส่วนคาเฟ่ที่ต้องต่อคิวรอและส่วนของสแน็คง่ายๆแบบฮอทดอกและเบียร์

คาเฟ่เป็นราวๆนี้

คาเฟ่เป็นราวๆนี้

จัดไอศครีมโคนรสส้มยูสุมากิน

จัดไอศครีมโคนรสส้มยูสุมากิน

ฮอทดอทมาอีกอัน ถ้าไม่มีน้ำราดข้างบนจะเข้าท่ามากๆ

ฮอทดอทมาอีกอัน ถ้าไม่มีน้ำราดข้างบนจะเข้าท่ามากๆ

การเดินเล่นในกิบลินี้ถ้าเป็นผู้ที่สนใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆรวมถึงได้ดูอนิเมชั่นของกิบลิมาจะรู้สึกดีมาก เขาใส่ใจในทุกรายละเอียดกระทั่งฝาท่อน้ำเลยทีเดียว

ฝาท่อน้ำ

ฝาท่อน้ำ

มีฝาท่อน้ำแล้วก็ต้องมีปั๊มน้ำ

มีฝาท่อน้ำแล้วก็ต้องมีปั๊มน้ำ

อ๊ะ เจ้าฝุ่นแอบดูเราอยู่

อ๊ะ เจ้าฝุ่นแอบดูเราอยู่

พอได้เวลาเย็นย่ำก็แวะไปถ่ายรูปเจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ขนาด 1:1 จากเรื่องลาพิวต้า (Laputa: Castle in the Sky, 天空の城ラピュタ) ที่อยู่บริเวณดาดฟ้าของอาคารกันก่อนกลับ เป็นจุดที่ใครๆก็แวะมาถ่ายรูปกันจริงๆ

ถ่ายกันกับเจ้าหุ่นยักษ์ขนาด 1:1

ถ่ายกันกับเจ้าหุ่นยักษ์ขนาด 1:1

ยอดนิยมจริงๆด้วย

ยอดนิยมจริงๆด้วย

สุดท้ายก็ได้เวลากลับ แต่เดี๋ยวก่อน เหมือนลืมอะไรไปบางอย่าง.. ใช่แล้ว ลืมมาถ่ายรูปกับเจ้าโตโตโร่ขนาดเท่าตัวจริงที่อยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ก่อนกลับเป็นที่ระลึกนั่นเองง

อากาศหนาว แต่โตโตโร่ดูอบอุ่น

อากาศหนาว แต่โตโตโร่ดูอบอุ่น

เมื่อครบถ้วนองค์ประกอบก็มารอรถบัสที่ป้ายเดิม ฝนที่ตกพรำๆทำให้หนาวขึ้นบ้าง แต่ว่าก็ยังไม่ถึงกับต้องกางร่มออกมาใช้งานกันหละนะ

บรรยากาศยามเย็นแถวมิทากะ

บรรยากาศยามเย็นแถวมิทากะ

คาเฟ่นกน้อย..!

คาเฟ่นกน้อย..!

เฝ้ารอกลับ

เฝ้ารอกลับ

วันนี้ช่างเป็นวันสบายๆ ช่วงดึกพวกเราก็แยกย้ายกันตามอัธยาศัย เช่นไปซื้อของติ่งที่อิเคะบุคุโระ ไปหาหม้อไฟกิน ไปซื้อขนมกิน บลาๆ นับว่าเป็นวันดีๆที่น่าประทับใจไปอีกหนึ่งวันในโตเกียวของทริปนี้เลย สำหรับวันต่อไปจะเป็นวันช็อปปิ้งอิสระ..! รายละเอียดจะเยอะเป็นพิเศษ (?)

คอมเมนต์กัน!