ภาพประกอบภายในเอนทรี่โดยแพตตี้และ Wさん
เขียนหลักๆ โดยแพตตี้ ส่วนเราเป็นคนเรียบเรียงกับตรวจคำผิดเฉยๆ ค่ะ
รีพอร์ทในเอนทรี่นี้เป็นอีเวนต์ Bushiroad Big Fest 2017 ที่ ARL มักกะสัน ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิดหรอก เป็นอีเวนต์แข่งการ์ดของทางบูชิโร้ดไทยที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วค่ะ แขกรับเชิญที่มาในงานคือ ‘คุณโทคุอิ โซระ’ หรือ ‘โซระมารุ’ ที่พวกเรารู้จักนี่เอง!
ในวันนั้นกลุ่มของพวกเรามีคนไปต่อคิวซื้อสินค้าที่มีสิทธิ์รับลายเซ็นตั้งแต่ตีสี่ด้วย ซึ่งพอไปถึงก็มีคนมารออยู่ก่อนแล้วพอสมควร บรรยากาศการรอคิวที่แอร์พอร์ทเรลลิงก์มักกะสันดูค่อนข้างปลอดภัยพอสมควร (ประตูเข้าส่วนอาคารจะเปิดตอน 05.45 น.) โดยงานนี้เป็นการแข่งใหญ่ประจำปีของเครือการ์ดเกมเครือบุชิโรดในไทย จึงมีพวกผู้แข่งขันหลายคนมารอเข้าคิวกันด้วย ต้องขอบคุณหลายๆ คนก่อนหน้าที่ช่วยกันจัดระเบียบกันเองโดยไม่ให้แถวปนกันมั่วด้วยค่ะ
พอถึงเวลาเปิดให้เข้าก็มีคิวประมาณ 25 คน (เกือบๆ หนึ่งของโควต้าลายเซ็นที่แจก) หลังจากนั้นก็เข้าไปรอด้านใน แล้วก็ให้สต๊าฟพาไปจุดซื้อสินค้าที่จะเปิดขายตอนแปดโมงกันต่อ
โดยของที่นำมาขายก็แพ็กไว้ชุดๆ มูลค่า 1,000 บาท ไว้หยิบได้ง่ายๆ นับว่าแฟร์กับลูกค้ามากค่ะ ระบบการแจกบัตรคิว การแจ้งกติกาและเวลาที่จะมาเข้ารับลายเซนต์ค่อนข้างรัดกุม จัดว่ามีระบบที่ดีมากพอตัวเลยทีเดียว หมด หลังคิวที่มารอซื้อลายเซ็นกันเป็นที่เรียบร้อยประมาณแปดโมงครึ่งก็ยังมีคิวเหลือพอสมควร คาดว่าแฟนๆ บางส่วนหนึ่งแบ่งไปดูริปปี้ที่งาน Pop Life FanXperience ที่เซ็นทรัลเวิร์ลกันล่ะค่ะ (ส่วนพวกเราไปหาริปปี้กันมาแล้วเมื่อวาน ถือเป็นเสาร์อาทิตย์ที่คิวแน่นกันจริงๆ—)
หลังจากนั้นสมาชิกที่ได้รับสิทธิ์มาจากทางอนิเมทก่อนแล้วจึงไม่ต้องมาต่อคิวแต่เช้าก็มาถึงช่วงประมาณ 09.30 น. ตอนไปแลกบัตรลองส่องๆ ดูแล้วน่าจะมีเหลืออยู่พอประมาณเลยซื้อของเผื่อให้เพื่อนที่ติดธุระมาตอนเช้าไม่ได้ซะเลย เดินวนสำรวจสถานที่ก็ได้ยินเสียงประกาศจากทางสต๊าฟว่าตั๋วเหลืออยู่ 14 ใบ เสร็จก็มารอโซระมารุขึ้นสเตจเปิดการแข่ง Weiss Schwarz ตอน 11.00 น. ค่ะ
โดยก่อนที่โซระมารุจะเดินมาก็มีการประกาศออกไมค์จากทางสต๊าฟว่า สามารถถ่ายภาพในกิจกรรมได้บางช่วง โดยจะไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพระหว่างแข่งการ์ดและแจกลายเซ็นค่ะ (จริงๆ ตอนไหนที่ไม่อนุญาตทางสต๊าฟก็มีป้ายห้ามถ่ายชูขึ้นมานะคะ) อนึ่งตอนเขียนบทความนี้เป็นครั้งแรกๆ ที่พวกเราไปงานนี้กันอย่างจริงจัง หลังจากนั้นอีกหลายงานเรื่องกติกาพวกนี้ก็ถือว่ารู้กันค่ะ แฮ่
พอโซระมารุขึ้นเวทีก็มีการพูดแนะนำตัวอะไรนิดหน่อย จากนั้นก็มีพูดเริ่มการแข่งขันกับลงมาถ่ายรูปหมู่กับแฟนๆ ตอนพูดเปิดเริ่มการแข่งขันไมค์ของโซระมารุเสียงไม่ติดค่ะ เจ้าตัวเลยตะโกนเอาแทน ⊂(^ω^;)⊃
พอจบการเปิดงานที่ชั้น 3 ก็ลงไปชั้น 2 เพื่อเปิดการแข่งขันแวนการ์ดต่อ มีการแนะนำตัว คุยถามเด็กๆ ในงานว่าชอบเล่นการ์ดไหมอะไรไปตามเรื่อง ทางเด็กๆ ก็ตอบกันอย่างขันแข็งมาก พูดเริ่มการแข่งขัน ลงมาถ่ายรูปกับแฟนๆ เช่นเคยค่ะ
หลังจากนั้นพวกเราก็กะจะไปหาที่นั่งรอแต่เจอกลุ่มแอดมินกลุ่ม SIF และเพื่อนๆ เลยได้ไปนั่งด้วยกันค่ะ มีคนแจกลูกอมสินค้าจาก Miracle Sora Night 9 รอบโอซาก้าที่ไม่มีเงินซื้อให้ลองกินกันด้วยขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ขอสรุปความรู้สึกจากการได้ลองกินแล้วว่า…หวาน 55555
(หน้าตาตัวลูกอมที่ได้ลิ้มลองค่ะ)
นั่งๆ แทะโก๋แก่แจกฟรีกันไปสักพัก โซระมารุก็ส่งไลน์มาค่ะ แปลคร่าวๆ ว่ามาถึงไทยแล้ว เดี๋ยวจะมีงานแจกลายเซ็นกับเล่นการ์ด กำลังจะออกไปกินข้าวกลางวัน อะไรแบบนี้ค่ะ ขณะที่พวกเรากำลังก้มหน้าก้มตาอ่านข้อความไลน์ โซระมารุตัวเป็นๆ ก็เดินออกจากห้องพัก เดินโบกมือผ่านพวกเรา (ที่เกือบไม่เห็นเพราะอ่านข้อความ) เพื่อจะออกไปกินข้าวค่ะ น่ารักมากๆ จนก่อนช่วงคิวเล่นการ์ดสักพักถึงจะกลับมาในสถานที่จัดงานอีกครั้งค่ะ เห็นท่าเดินโซระมารุดูมาดแมนพร้อมจะต่อยคนที่ขวางทางให้กระจุยแล้วประทับใจมากๆ ค่ะ พอใกล้เวลาพวกเราก็เตรียมไปหาที่ยืนตรงโต๊ะที่จะมาแข่งการ์ดกัน
หลังจากยืนรอกันสักพักช่วงบ่ายโมงครึ่งก็ถึงช่วงเล่นการ์ดที่ได้เคยบอกไว้ ช่วงนี้โซระมารุจะมาเล่นการ์ด Weiss Schwarz แข่งกับผู้เล่น 3 คน ซึ่งการตัดสินว่าใครจะได้เล่นกับเธอนั้นจะเป็นการเป่ายิ้งฉุบค่ะ ในช่วงนี้จะสามารถยืนดูกันได้นอกโซนที่ทางทีมงานกั้นไว้ และสามารถเข้าไปได้แค่สื่อที่ลงทะเบียนไว้เท่านั้นค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นยืนนอกวงก็ยังใกล้มากอยู่ดี ยืนมองคนเล่นก็อิ่มแล้วค่ะ น่ารักมากๆ ดีต่อใจ (ในช่วงนี้จะสามารถถ่ายภาพได้ตอนก่อนเริ่มเล่นในแต่ละรอบด้วยค่ะ โดยระหว่างเริ่มแข่งไปแล้วไม่สามารถถ่ายภาพได้นะ) ในพวกเราไม่มีใครเคยเล่นคงไม่สามารถบอกเล่าเรื่องการแข่งขันได้ เท่าที่บอกได้คือ โซระมารุใช้การ์ดจากเรื่อง Gochuumon wa Usagi Desu ka? (รับน้องกระต่ายซักแก้วมั้ยคะ?) ที่เธอพากย์เสียงตัวละครที่ชื่อมายะด้วยค่ะ
ต้องมีเป่ายิ้งฉุบก่อนเล่นซึ่งโซระมารุถามล่ามว่าในภาษาไทยพูดยังไง เลยพูดเป่ายิ้งฉุบเป็นภาษาไทยทุกครั้งค่ะ และเป็นการเล่นที่ดูต้องการผลแพ้ชนะกันจริงจังกันมากค่ะ ไม่ได้มาเล่นขำๆ เลย 55555 ซึ่งผลสรุปแล้วโซระมารุชนะ 1 ครั้งแพ้ 2 ครั้งค่ะ (⊃^ω^)⊃
มีช่วงพักกันประมาณ 15 นาทีก็เริ่มช่วงแจกลายเซ็นซึ่งในบัตรจะมีให้เราเขียนชื่อจริงและนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษค่ะ (ไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อเล่นหรือนามแฝงด้วยนะคะ) ในพวกเรามี 4 คนที่จะไปเข้าคิวรับลายเซ็น ทั้งหมดจึงไปต่อแถวตามหมายเลขบนบัตรก่อนที่จะเริ่มค่ะ บัตรในส่วนของกิจกรรมจากร้านอนิเมทจะเป็น 10 หมายเลขแรก ตอนรับลายเซ็นจะมีพื้นที่ในลักษณะเป็นโต๊ะ ฝั่งนึงเป็นโซระมารุและล่าม อีกฝั่งนึงจะเป็นเราเข้าไปนั่งค่ะ บรรยากาศคล้ายๆ การสัมภาษณ์สมัครงาน ตื่นเต้นและทำให้นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรดี ที่เตรียมไว้ก็บินหายไปหมดแล้ว ประมาณนั้นเลยค่ะ… (และในช่วงนี้ห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาดด้วย)
ข้างล่างนี่เป็นภาพจากเพจ Thai Bushiroad Club ค่ะ ช่วงเวลาที่ห้ามผู้เข้าชมงานอื่นๆ นอกจากสื่อ (สวมป้ายที่เขียนว่า Press) ถ่าย จะมีการยกป้ายแบบที่สต๊าฟในภาพถือไว้ค่ะ… แต่หน้าตาป้ายก็มีการเปลี่ยนแปลงไปในทุกงานที่เราได้เข้าร่วม หลักๆ คือเป็นรูปกล้องแล้วก็มีขีดฆ่าไม่ก็ข้อความว่าห้ามถ่ายค่ะ (…) แต่อันที่จริงก็มีแจ้งออกลำโพงนะ
โซนตอนแจกลายเซ็นค่ะ ความใกล้ชิดศิลปินในระดับที่คุณต้องทึ่ง…!!
ในพวกเราจึงมีคนที่ได้ตั๋วอนิเมทเบอร์ 2 เลยต้องเข้าไปเป็นคนแรก (เพราะเบอร์ 1 หายไป) ด้วย…
พาร์ทของแพตตี้
เพราะเป็นคนแรกเลยมีความงงค่ะ พอเดินเข้าไปก็ไหว้สวัสดีกันแบบภาษาไทย ยื่นบัตรที่มีชื่อเราให้โซระมารุ ทางฝั่งนั้นก็มองเรางงๆ เราก็งงว่าทำไมไม่เซ็น มองหน้ากันไปสักพัก… สรุปโซระมารุไม่รู้ค่ะว่าต้องเซ็นบนอะไรจนเหลือบไปเห็นกองโปสการ์ดที่ตั้งอยู่ข้างๆ เจ้าตัวถึงหยิบมาแล้วพูดว่า อ๋อ นี่เหรอ เราก็ตอบว่านี่แหละ (ตอบทำไม เป็นรีแอคชั่นอัตโนมัติแบบเบลอๆ ค่ะตอนนั้น 555) มีสต๊าฟมาแจ้งไว้ด้วยค่ะว่าถ้าแฟนๆ เอาซีดีหรืออะไรอย่างอื่นให้เซ็นห้ามเซ็น
หลังจากนั้นโซระมารุก็เริ่มเซ็นค่ะ หมึกชัดเข้มมากแทบเยิ้มตามสไตล์คนแรก ตอนนั้นเลยขอให้ล่ามถามให้ว่าโซระมารุได้กินอาหารไทยไปรึยัง เจ้าตัวบอก Curry (อันนี้เราไม่แน่ใจว่าอันไหนนะคะ จะพวกผัดผงกระหรี่หรือแกงต่างๆ ของไทยก็เรียกได้) กับต้มยำกุ้งค่ะ ตอนนั้นก็ลืมทุกสิ่งอย่างเลยหยิบการ์ดที่ทำมาแล้วให้เพื่อนๆ เขียนข้อความไว้ด้านหลังให้โซระมารุค่ะ (มีเพื่อนบอกว่าตอนแรกสต๊าฟเค้าตกใจนึกว่าเราจะเอาการ์ดให้เซ็นค่ะ แต่เค้าบอกไปว่าเอาให้เฉยๆ 555555)
พอยื่นให้เลยมีคุยกันต่อนิดหน่อย
S: วาดเองเหรอ
P: เปล่า เพื่อนวาดให้แล้วเราเอามาทำต่อ
S: อ้อ เข้าใจแล้ว สุดยอดเลย (พลิกดูด้านหลัง) โอ้ มีข้อความเยอะแยะเลย
P: นี่ด้วย (พลิกการ์ดอีกใบให้ดูข้อความด้านหลัง)
S: เห สุดยอดเลย ขอบคุณมากเลยนะ
ด้วยความที่เรากำลังสั่น(…)เลยทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายิ้ม รับโปสการ์ดมา ซึ่งตอนแรกเธอไม่ปล่อยให้เราค่ะ (คิดภาพเราจับการ์ด โซระจับการ์ดแต่ไม่ปล่อย… เราสับสนเบาๆ ค่ะ) แต่แล้วโซระมารุก็หันไปบอกล่ามให้บอกเราว่า ให้ระวังหน่อยนะ รอหมึกมันแห้งก่อน อย่าไปโดนมัน (โอ้ย น่ารักระดับใจพัง) ถึงจะปล่อยโปสการ์ดให้เรามาค่ะ แล้วไหว้บอกขอบคุณค่ะ ซึ่งเราก็ไหว้ขอบคุณค่ะตอบไปเช่นกัน จากนั้นผู้ร่วมทีมคนแรกก็ไปหาที่นั่งที่ดีในการนั่งมองโซระมารุแจกลายเซ็นต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ
พาร์ทของ Wさん
ได้ไปรอคิวรับลายเซนต์เป็นคิวที่ 17 ครับ (รวมคิวจากอนิเมท) ตอนแรกก็คิดว่าไม่ตื่นเต้นมาก แต่พอคิวเข้าไปใกล้ๆเรื่อยๆ แล้วตื่นเต้นมากกว่าที่คิดครับ (ฮา) โซระจังตัวจริงนั่งใกล้ๆ กันนี่น่ารักมากๆ เลย ขอให้คุณล่ามช่วยแปลบอกว่า ปีที่แล้วได้ไปดูไลฟ์ของมิลกี้มา ให้โซระจังฟัง ก็ได้เห็นหน้าตาดีใจแบบสดใสของโซระมารุขึ้นมาเลย (หัวเราะ) การได้เห็นรอยยิ้มใกล้ๆ นี่ให้ความรู้สึกที่ประหลาดครับ ได้แต่บอกว่าขอบคุณมาก ขอบคุณสำหรับการทำงานเหน็ดเหนื่อย (?) ปีหน้าอยากตามไปดูที่ญี่ปุ่นอีก เจ้าตัวก็บอกไปให้ได้นะคะ อะไรแบบนี้ (โอ…ตายแล้วเงินตรา แต่ก็อยากเจอ)
สุดท้ายไม่ได้ถามคำถามอะไรเลย แบลงก์ไปชั่วขณะ แต่ก็ได้บอกว่าจะสนับสนุนต่อไป ไม่ว่าจะในบทบาทไหนก็ตามครับ คงเพราะเคยรู้จักจากนิโกะจัง มาเป็นเนโร่คุง แต่สุดท้ายตอนนี้มาเจอที่ไทยเป็นพารุโกะ แถมได้ลายเซนต์ต่อหน้า.. เลยอยากบอกไปว่าจะสนับสนุนครับ แน่นั้นเอง รู้สึกดีจริงๆครับ
พาร์ทของแฮปปุย
เป็นอีกคนที่ไปรับลายเซ็นโซระมารุอย่างใกล้ชิดในระดับสัมภาษณ์เข้าทำงาน ได้รับอภินันทนาการมาจากผองพี่ที่ไปค่ะ!
ทางนี้ไปถึงตอนประมาณเที่ยงๆ ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจและเตรียมอะไรเลย ลังเลอยู่พักใหญ่ๆ ตอนนั้นสิทธิ์แจกลายเซ็นยังไม่หมด แต่พอตั้งท่าจะเตรียมเงินไปจ่ายก็ได้รับนกระดับสิทธิ์สุดท้ายโดนซื้อไปต่อหน้าต่อตา เศร้ามากเลยค่ะ (555) แต่สุดท้ายก็ได้เข้าไปรับลายเซ็นแทนเพื่อนที่แยกร่างไปหาริปปี้ล่ะ! ได้เป็นคิวที่ 18 ต่อจาก Wさん เลย… เนื่องจากตอนไปเข้าคิวรอรับลายเซ็น เราเข้าใจว่าบริเวณที่มีคนมามุงเป็นหางแถวและเห็นว่ายังยาวอยู่เลยย่ามใจ ค่อยๆ คิดก็ได้ว่าจะพูดอะไร แต่พอเห็นอีกทีพบว่าหางแถวมันปัดไปอีกทาง และอีกสามคิวจะถึงคิวเราแล้วก็รู้สึกแบลงก์ไปค่ะ(…)แทบไม่ได้พูดหรือถามอะไรเลย แต่โซระมารุดูเฟรนด์ลี่มากๆ และขอบคุณคุณล่ามด้วยนะคะ แฮ่
H: (แบลงก์ มองหน้าโซระ หันไปมองหน้าล่ามแล้วยิ้ม (…)) < กลับมาอ่านตอนนี้รอบที่ไปหามิโครอนก็หันไปมองล่ามแล้วก็ยิ้มเหมือนกันเลยค่ะ ความแบลงก์ไม่เคยหายไป (…)
H: เอ่อ ตอนไลฟ์มิลกี้โฮมได้ร่วมกันฝากของกับเพื่อนๆ ไปให้ด้วยค่ะ!
S: เอ๊ะ จริงเหรอ ขอบคุณนะ!
H: แล้วก็ตอนนั้นได้ไปดูไลฟ์วิวของไฟนอลไลฟ์ด้วย
โซระ: เห ดีใจจัง—!
เรา: (รับโปสการ์ดลายเซ็น ล่ามก็บอกว่าอย่าเพิ่งไปจับมันนะเหมือนคนอื่น) ขอบคุณนะคะ < อันนี้พยายามพูดคำว่า อาริกาโตะแบบแบลงก์ๆ ล่ะค่ะ
โซระ: ขอบคุณค่า < ภาษาไทย
*ตอนเราพูดล่ามแปลให้ค่ะ แต่ตอนโซระพูดล่ามไม่แปล แต่เราพอจะฟังออกหน่อยเพราะเป็นคำศัพท์พื้นฐานที่ติ่งพึงรู้ (…)
คร่าวๆ ประมาณนี้แหละค่ะ มีหลายอย่างที่คิดไว้แต่ไม่ได้บอกเพราะตื่นเต้นจัด(…)กับลืมบอกว่าจะคอยติดตามผลงานต่อไปล่ะค่ะ ฮือ แต่เขียนบอกไปในแผ่นป้ายที่เขียนกันแล้วนะ!
พาร์ทของ ネコペンギン (แต่หลายคนก็เรียกว่าแม่ค้า)
คิวที่ 49 ขอบคุณแพตตี้ที่ซื้อตั๋วไว้ให้ด้วย ไม่งั้นคงจะไม่ได้ไปงานแล้วค่ะ ^^”
พอใกล้ๆถึงคิว 3-4 คนข้างหน้าแทบไม่มีใครคุยอะไรกับโซระมารุเลย… นั่งปุ๊บ เซ็นอย่างเดียวแล้วก็ไปกันหมดเลยค่ะ เริ่มกังวลว่าจะใช้จังหวะตรงไหนถามละเนี่ย เริ่มเครียด จริงๆ คุยกับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะถามไรบ้าง แต่พอดีตอนต่อแถวนึกคำถามนี้ได้เลยถามอันนี้แทนค่ะ พอถึงคิวก็เดินเข้าไปอย่างตื่นเต้น
เดินเข้าไปยังไม่ทันจะ よろしくお願いいたします (รบกวนด้วยค่ะ) โซระมารุก็สวัสดีค่ะ โอ๊ย ทำตัวไม่ถูกค่ะ 555 ก็พูดแล้วก็ยื่นการ์ดที่มีชื่อไป ตอนกำลังเริ่มเซ็นก็ลองถาม ประมาณนี้ภาษาญี่ปุ่นเราอาจไม่ได้เป๊ะมากหรือถูกไวยากรณ์ คำชงคำช่วยผิด/หายไปบ้าง 😅
N : 質問聞いてもいいですか? (ถามคำถามได้มั้ยคะ)
S : はい。どうぞ (ได้ค่ะ เชิญเลย)
N : タイ語の言葉 “サワッディーカー(こんにちは)” と”コップクンカー(ありがとう)” 以外、何を知ってますか? (รู้จักภาษาไทยคำอื่นนอกจากสวัสดีค่ะกับขอบคุณค่ะมั้ยคะ)
S : アロイ(美味しい) アロイマーク(とても美味しい) (อร่อย อร่อยมาก!)
N : おおお!!👍🏻 (โอ้ ทำท่าโอเคกับยกนิ้วให้ ก็ลืมถามเนอะว่าไปกินไรมามั่ง orz)
N : あくのぐんだんアニメ化おめでとうございます (ยินดีด้วยนะคะที่อาคุโนะกุนดันได้เป็นอนิเม)
S : ありがとう〜 是非見てね (ขอบคุณค่ะ ดูให้ได้นะคะ)
N : はい! 頑張ってくださいね (ค่ะ! พยายามเข้านะคะ)
ก็รับลายเซ็นแบบมือสั่นมากกกกกกกกกกก แล้วก็เดินออกมาค่ะ
จริงๆ มีอย่างอื่นที่อยากถามอีก แต่เซ็นเสร็จเร็วจะชวนคุยเยอะก็เกรงใจคนอื่นค่ะ ฮา
หลังจากเพื่อนๆ รับลายเซ็นกันหมดก็มาดูโซระมารุแจกลายเซ็นกันจนครบแล้วก็ปิดงานค่ะ จบท้ายด้วยการโพสท่าโชว์โปสการ์ดให้ทุกคนได้ถ่ายรูปกัน ก็โบกมือลากันไปค่ะ พวกเราก็หิวเพราะแทะไปแค่ถั่วแจกฟรีจึงรีบดิ่งไปหาอะไรกินกัน (เจอโซระมารุแล้วก็ไปกินร้านเท็นยะที่โซระมารุชอบด้วย) บันทึกเรื่องราวจากพวกเราก็เลยจบลงเท่านี้แหละค่ะ ถ้ายังไงฝากทุกคนช่วยสนันสนุนโซระมารุต่อไปด้วยนะคะ ⊂(^ω^)⊃
ปล. หลังจากนั้นคนที่รอจนงานปิดและโซระกลับมีบอกว่าเจ้าตัวโผล่มาให้ทำ “นิโกะนิโกะนิ” กับแฟนๆ ด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ เย้ สำหรับคนที่สนใจอัลบั้มรวมภาพบรรยากาศสำหรับอีเวนต์ทั้งของคราวนี้และหลายๆ ครั้งต่อจากนี้ล่ะ ส่วนเอนทรี่ตอนมาไทยของเจ้าตัวสามารถไปอ่านแบบแปลไทยได้ ที่นี่ นะคะ
โซระมารุ
https://twitter.com/pattieez/status/841492428183945218
คิตตะซัง
橘田いずみ@ブシロードCard Fest Thailand 2017, More HD Photos Here > https://t.co/8x51FmgV8n pic.twitter.com/WeFuibv54k
— Wさん@LOVE LIVE! FEST (@wpotion) October 1, 2017
มิโครอน
みころん@ブシロードBIGFEST2018, More HD Photos Here > https://t.co/bLWakAtsFb pic.twitter.com/AXqeYqxcYs
— Wさん@LOVE LIVE! FEST (@wpotion) March 18, 2018