Skip to main content

เคยคิดว่าคนเราวู่วามได้มากที่สุดคือการหาซื้อตั๋วไลฟ์ในวันใกล้ๆ จัดไลฟ์แล้วไปดูในที่จริง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าคนเราวู่วามได้มากกว่านั้นด้วยการจองตั๋วนั่งเครื่องบินข้ามจังหวัดเพื่อไปหาโอชิแบบไม่วางแผนอะไรใดๆ หลังจากนั้นเลยสักนิด

ถึงจะเขียนดีเลย์ไปหน่วยปี แต่ก็หาเวลามาเขียนจนได้ค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ไลฟ์รีพอร์ต CYaRon!! ~Braveheart Coaster~ ที่จัดขึ้นในวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2020 ที่ 西日本総合展示場 新館 ABC จ.ฟุคุโอกะ โดยบทความนี้จะเป็นรีพอร์ตของวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ (ไลฟ์วันที่ 2) ไลฟ์นี้เป็นไลฟ์ล่าสุดของซีรีส์เลิฟไลฟ์ที่ได้จัดแบบมีผู้ชมและตะโกนส่งเสียงเชียร์ได้ เพราะจัดช่วงก่อนที่โควิดระบาดหนักจนต้องยกเลิกไลฟ์อาเซเลียและอื่นๆ นั่นเอง ในความทรงจำคือช่วงนั้นจ.จิบะมีคนติดโควิดหลัก 10 คน ส่วนที่ฟุคุโอกะมี 2 คน การป้องกันตัวในช่วงนั้นแบบรวมๆ คือจะยังไม่รัดกุมมากเท่าปัจจุบัน แค่ใส่หน้ากากอนามัยแล้วคอยล้างมือ กลั้วคอบ่อยๆ ก็พอ ยังไม่ถึงขั้นต้องวัดอุณหภูมิหรือตรวจร่างกายใดๆ ค่ะ

แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้เวลาเราเขียนไลฟ์รีพอร์ต คือการเล่าความเป็นมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมาลงเอยตรงที่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปดูไลฟ์ถึงฟุคุโอกะได้ ทั้งๆ ที่โควิดก็เริ่มระบาดแล้ว

คือเรื่องมีอยู่ว่าไลฟ์ยูนิตเนี่ย มีเปิดให้ลงตั๋ว 2 รอบ คือรอบแรกที่เป็นสมาชิก Aqours Club กับรอบสองเป็นโค้ดจากซิงเกิลยูนิตค่ะ รอบแรกเราลงแล้วไม่ได้ แต่รอบสองที่ลงเล่นๆ ดันได้ของ CYaRon! วันที่ 2 ซะงั้น แต่ตอนนั้นเราค่อนข้างชั่งใจค่ะว่าจะไปดีไหม เพราะฟุคุโอกะมันไกลมาก (แหงสิ) ต่างจากเวลาไปดูไลฟ์จังหวัดใกล้ๆ อย่างโตเกียวหรือคานางาวะที่นั่งรถไฟเช้าไปเย็นกลับได้ในราคามิตรภาพ แต่เราเป็นนักศึกษาธรรมดาๆ ที่ไม่ได้เก็บเงินเผื่อค่าใช้จ่ายตรงนี้ไว้ แค่ค่าตั๋วไลฟ์ก็เกือบหมื่นเยนแล้ว ถ้าจะไปก็ต้องมีค่าเครื่องบิน/รถไฟทั้งขาไปและขากลับ จะหาที่พักก็ไม่รู้ว่าเขาจะรับคนต่างชาติไหม (ถึงตอนนั้นเราจะอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น แต่เพราะโควิดระบาด บางสถานที่เลยปฏิเสธรับลูกค้าชาวต่างชาติน่ะค่ะ) แล้วส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยเที่ยวเท่าไร ก็ไม่รู้อีกว่าถ้าดูไลฟ์จบแล้วจะอยู่ฟุคุโอกะต่อกี่วัน แล้วถึงตอนนั้นจะมีค่ากินค่าใช้พอรึเปล่า

แต่หลังจากปรึกษากับเพื่อนๆ หลายคนก็ได้ข้อสรุปว่า ‘จะไป’ ค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ไซโควันนั้นด้วยนะคะ ไม่คิดเลยว่าไลฟ์ที่เราไปมันจะกลายเป็นไลฟ์สุดท้ายก่อนโควิดเล่นงาน แล้วส่งเสียงเชียร์อลังการไม่ได้อีกเลย… ตอนแรกกะจะไปตายเอาดาบหน้าเพราะจุดประสงค์มีแค่ไปดูไลฟ์กับหาฮากาตะราเม็งกิน จึงต้องขอขอบคุณเพื่อน M นามสมมติที่มาร่วมทริปด้วยแล้วคอยจัดการเรื่องต่างๆ ให้ ตั้งแต่หาข้าวให้กินไปจนลากเราที่นอนป่วยออกไปเที่ยวทั่วฟุคุโอกะด้วยค่ะ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้ การไปฟุคุโอกะของเราจะจบแค่ที่ไปไลฟ์กับกินราเม็งเฉยๆ จริงๆ ค่ะ ฮา


อย่างที่ได้พิมพ์ไปด้านบนว่าไลฟ์จัดวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ ดังนั้นวันที่เราเลือกเดินทางก็เป็นวันที่ 23 กุมภาพันธ์นั่นเอง (อ้าว) เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คำนวณเวลาการเดินทางได้สะดวกมากๆ บวกกับถ้าเราไปล่วงหน้า 1 วันเราต้องเสียค่าที่พักเพิ่ม 1 วันถูกไหมคะ ก็เลยเลือกไปวันนั้นนั่นแหละ– ไลฟ์วันอาทิตย์เริ่มตอน 4 โมงเย็น เราก็นั่งเครื่องบินจากนาริตะไปตอน 9.20น. กำหนดเครื่องลงคือ 11.40น. บวกเวลาออกจากสนามบิน นั่งรถไฟไปสถานที่จัดไลฟ์ก็เหลือเฟือ! แต่ทุกครั้งที่คิดแบบนี้ทีไรก็มักจะเจอเหตุการณ์ประหลาดๆ ที่ทำให้ชีวิตลำบากขึ้นมาตลอดเลยค่ะ เหมือนเป็นคนที่พร้อมปักเดดแฟล็กให้ตัวเองได้ทุกเมื่อยังไงก็ไม่รู้…

(ถึงตรงนี้แล้วถ้าท่านใดต้องการอ่านเนื้อหา แนะนำให้เลื่อนข้ามไปส่วนนั้นได้เลยนะคะ ตรงนี้ยังเป็นบ่นขิงข่าอยู่ค่ะ)

ก่อนจะตัดภาพไปตอนถึงฟุคุโอกะ มีเรื่องน่ารักๆ ปนขำมาเล่าให้ฟังกันนิดหนึ่งค่ะ ด้วยความที่เราไปไลฟ์ในวันจัดไลฟ์ ก็เลยแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศไลฟ์ (?) มาจากบ้าน คือใส่เสื้อไลฟ์ 5 กับเสื้อฮู้ดรูบี้รอขึ้นเครื่องบินแต่เช้า (สามารถอ่านวีรกรรมฮู้ดรูบี้ได้ที่นี่นะคะ เรื่องเยอะเหลือเกิน) แต่เราไม่ใช่คนเดียวที่คิดไปไลฟ์ในวันจัดไลฟ์ ระหว่างรอขึ้นเครื่อง เราเจอแฟนเลิฟไลฟ์อีก 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้ชายใส่ฮู้ดโยเซ็ตเดียวกับเรารอเครื่องบิน ส่วนอีกคนเป็นผู้หญิงใส่ฮู้ดจิกะเซ็ตเดียวกับเราเหมือนกันค่ะ พอรวมเราที่ใส่ฮู้ดรูบี้กัน 3 คนแล้วคิดว่าตลกดีเหมือนกันค่ะที่เหมือน CYaRon!! รวมตัวกันได้ตั้งแต่ยังไม่บินไปฟุคุโอกะเฉยเลย

จากตรงนี้ไปจะเป็นความลำบากที่พบเจอตั้งแต่หลังลงเครื่องบินค่ะ เราไม่ค่อยชินทาง+ต้องลากกระเป๋าเดินทางไปมาเลยลำบากอยู่หน่อย ตอนแรกกะว่าจะแวะที่พักเอาของไปเก็บก่อน (แยกกันมากับเพื่อน M นามสมมติข้างบน) แต่ดูเวลาแล้วกลัวไปไลฟ์ไม่ทันเลยนั่งรถไฟตรงไปสถานที่จัดไลฟ์เลย และนี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก ถึงผ่านมาหนึ่งปีแล้วเราก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะพอไปถึงที่จัดไลฟ์ เราหาที่เก็บกระเป๋าเดินทางไม่ได้ค่ะ orz มีกี่ร้อยที่ก็เต็มทุกที่ ไถโทรศัพท์จนเครื่องจะไหม้ว่าแถวนี้มีล็อกเกอร์เก็บกระเป๋าอีกไหมก็หาไม่เจออยู่ดี เป็นบทเรียนเลยค่ะว่าถึงจะรีบแค่ไหน แต่ก็ควรฝากกระเป๋าตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเวลานั้นจะนั่งรถไฟย้อนไปสถานีอื่นเพื่อหาที่เก็บกระเป๋าก็กลัวว่าจะดูไลฟ์ไม่ทัน สุดท้ายเลยจบที่เราเข้าไลฟ์แบบหงุดหงิดมากพร้อมกระเป๋าเดินทาง 1 ใบและกระเป๋าเป้อีก 1 ใบค่ะ orz

อย่างที่เล่ามาด้านบน กว่าจะตัดสินใจไม่เก็บกระเป๋าได้ก็กินเวลานานอยู่ ชนิดที่เดินวนไม่นานก็ใกล้เวลาเปิดให้เข้าไลฟ์แล้ว บูธขายของรอบนี้จะเขียนอธิบายเป็นภาพก็ยาก รูปก็ไม่ได้ถ่ายมา (เพราะรีบมาก เซ็งเรื่องกระเป๋าด้วย…) เอาเป็นว่ามันขายในอาคารที่ทางเข้าลับแลมากค่ะ ไม่มีป้ายใหญ่ๆ ชี้บอกเลยว่าตรงนี้มีขายของนะ แล้วกว่าจะไปซื้อตอนนั้นก็เหลือแค่ของไม่กี่อย่าง เลยเลือกซื้อเสื้อไลฟ์อาเซเลียมาค่ะ

พอเข้ามาในฮอล ในฮอลจะแบ่งแถวนับจากด้านหน้าเป็นโซน B (ย่อมาจาก Brave) โซน H (Heart) โซน R โซน Y และโซน C คือไล่จากหลังมาจะเป็น CYR ชื่อของชารอนพอดีค่ะ รอบนี้เรานั่งโซน R ซ้ายสุดแถวหลังๆ แบบที่หลังจากเราไป 3 แถวจะเป็นโซนเว้นระยะให้รถเลื่อนผ่านได้ค่ะ ในส่วนของตัวฮอลจะเป็นพื้นราบ ไม่สโลป ซึ่งสิ่งนี้จะสร้างความลำบากใจให้เราเมื่อเริ่มไลฟ์ค่ะ เพราะเราสูงแค่ 15x มองอะไรไม่เห็นเลย แหะๆ

อย่างที่บอกไปตอนต้น ไลฟ์นี้เป็นไลฟ์ที่จัดขึ้นช่วงโควิดยังไม่ระบาดมาก ทีมงานจึงขอความร่วมมือแค่ให้ผู้ชมใส่หน้ากากอนามัยขณะดูค่ะ พวกจดหมาย ของขวัญยังหย่อนกล่องฝากให้นักพากย์ได้ปกติเลย

ก่อนเข้าช่วงไลฟ์ ในฮอลจะเปิดเพลงคลาสสิก (ใช่ไหมนะ) ด้วย ของกิลตี้คิสที่จัดก่อนหน้าก็มี แต่เป็นคนละเซ็ตลิสต์กัน


CYaRon! LIVE REPORT

หมายเหตุ: ผู้เขียนโอชิ ฟุริฮาตะ ไอ อาจเห็นบทชมโฉมมากกว่าเนื้อหาไลฟ์ และไลฟ์ผ่านมานานแล้วความทรงจำเลือนราง บางส่วนอาจมีเนื้อหาคลาดเคลื่อนได้ บางส่วนก็จดไว้แต่ไม่ครบ ยังไงก็จะพยายามดึงความทรงจำมาเขียนให้ได้มากสุดนะคะ

1. 元気全開 Day! Day! Day! → 2. 届かない星だとしても → 3. 海岸通りで待ってるよ → 4. Landing action Yeah!!

เรียกได้ว่าเป็นเซ็ตลิสต์ที่เปิดมาชวนไฮป์สุดๆ เพราะมีแต่เพลงคอลมันๆ แต่วินาทีที่ไลฟ์เริ่มก็เป็นวินาทีเดียวกันกับที่เรารู้ว่าตัวเองตัวเล็กเหลือเกิน เนื่องด้วยพื้นทุกที่นั่งจะอยู่ในระดับเท่ากัน ก็คือพื้นราบ ทำให้พอทุกคนยืนปุ๊บ เราจะโดนคนสูงๆ บังทุกสิ่งทันที เพราะงั้น 99.5% ของไลฟ์นี้ เราจะพยายามหามุมมองจอฉายภาพ (มี 3 จอ คือทางซ้ายของเวที จอใหญ่ตรงกลาง แล้วก็ทางขวาของเวที) ถ้ากล้องโฟกัสใครก็เห็นคนนั้นค่ะ 555555 ส่วนมากเราจะมองจอตรงกลางเพราะจอใหญ่สุด แต่ก็มีสลับกับมองจอซ้ายบ้าง สำหรับ 4 เพลงแรกก็ต้องบอกว่าจำอะไรไม่ค่อยได้นอกจากว่าตัวเองคึกมาก ความเหนื่อยและหัวเสียจากการไม่มีล็อกเกอร์พลันหายไปในพริบตา ตรงนี้ทุกคนจะใส่ชุดซิงเกิลแรกค่ะ

ตรงนี้มีส่วนที่ฝันเป็นจริง (?) นิดหนึ่ง คือเราชอบคอลปรบมือในเพลง 届かない星だとしても มาก คิดว่าสักวันอยากลองปรบตามจังหวะในไลฟ์จริงๆ พอได้ทำแล้วน้ำตาแทบไหลตั้งกะเพลงแรกๆ ค่ะ ฮือ มันเป็นโมเมนต์ที่ดีมากจริงๆ ถึงจะไม่เห็นเวทีเลยแต่สนุกเป็นบ้า

MC ทักทาย

เป็น MC ทักทายที่ทุกคนจะออกมาแนะนำตัวในฐานะยูนิตกับแนะนำตัวรายคน ตรงพาร์ทนี้ทุกคนจะพูดสำเนียงฮากาตะด้วย เราที่รู้แค่ภาษากลางก็ฟังออกบ้างไม่ออกบ้างตามมีตามเกิด มีคอลชารอนโทโมะ (ชื่อแฟนคลับของชารอน) ด้วย คือถ้าเด็กถามอะไรมา แพทเทิร์นการตอบจะเป็น คำถาม → ซุตโทโมะ (ずっトモ) → คำถาม → อี้โทโมะ (いいトモ) กับมีทุกคนเล่นตลกกัน คือทุกคนจะใส่แว่นดำกันหมดแล้วตบมุกกันเอง อันนี้จำได้แค่ว่าขำมากค่ะ

5. CHANGELESS

เปลี่ยนบรรยากาศจากเพลงคึกๆ มาเป็นเพลงช้า แสงเพลงนี้สวยมากค่ะ จะเป็นสีขาวๆ ฟ้าๆ หน่อย เสียงร้องสดของทุกคนก็ดีมาก เป็นเพลงที่ตอนแรกไม่ค่อยฟังเพราะไม่ใช่แนว แต่หลังผ่านไลฟ์มาก็ติดหูมาก T T เสริมคือเพลงนี้เป็นเพลงที่พาร์ทหลังนั่งรถเลื่อน แล้วฝั่งเรามีรถเลื่อนไอไอผ่านหลังมาค่ะ!! จากที่หันคอมองตามรถเลื่อน ตอนนี้คือยืนกลับหลังหันแบบเห็นชัดเจนมาก ไม่ใช่เห็นหน้าด้วยนะคะ เพราะไอไอหันหลังให้เราอีกทีหนึ่ง (…) แต่ตอนนั้นใกล้มากจริงๆ

6. 夜空は何でも知ってるの?

จุดพีค (สำหรับเราและคนที่อยู่แถวนั้น) คือก่อนเริ่มเพลงค่ะ หลังจบเพลง CHANGELESS ดนตรีเงียบไปนานมาก+ก่อนขึ้นเพลงโยโซระมันเงียบด้วย เลยกลายเป็นทั้งฮอลเงียบ รถเลื่อนก็ไม่ขยับ ประชากรโซน R1 แถบซ้ายแถวหลังๆ จึงได้รับประสบการณ์จ้องแผ่นหลังฟุริฮาตะ ไอ นานเกินกว่า 15 วินาทีค่ะ เพลงนี้เป็นเพลงชารอนที่ชอบที่สุดเลย ถ้าจำไม่ผิด ชูกะจะเป็นคนที่อยู่บนเวที อันจังอยู่บนรถเลื่อนฝั่งขวา ไอไออยู่รถเลื่อนฝั่งซ้าย แล้วรถจะเลื่อนกลับไปรวมกันบนเวที

สำหรับเพลงนี้เราชอบเสียงชูกะมาก ดูดึงอารมณ์ได้มากกว่าฟังแผ่นอีก โดยเฉพาะท่อน 「夜空にごめんね」 เสียงทุกคนดีสุดๆ อยากให้ทำแผ่นขายไวๆ TvT

DRAMA PART ①

เป็นอนิเมหัวกลมๆ แบบที่เลิฟไลฟ์ชอบทำค่ะ เรื่องเปิดมาด้วยรูบี้ที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่บนเกาะร้าง!? ข้างๆ มีโยกับจิกะที่สลบอยู่ รูบี้จึงพยายามปลุกเพื่อนให้ฟื้นขึ้นมา แต่สองคนนี้ไม่ฟื้นสักที แถมจิกะยังละเมอออกมาเป็นเพลง トリコリコPLEASE!! ของอาเซเลียอีกต่างหาก แล้วโยก็ละเมอโต้ตอบกลับมาด้วย รูบี้ตบมุกกระจายมาก พวกเธออย่าสื่อสารกันในฝันแบบนี้ได้ไหม!!

สุดท้ายโยกับจิกะก็ตื่นแล้วงุ้งงิ้งกันให้รูบี้ดู เหมือนตอนนั้นรูบี้พูดถึงคะแนนอะไรสักอย่างอยู่แล้วโยจิกะขอให้รูบี้ให้คะแนนพวกตัวเองบ้าง รูบี้ก็ตอบๆ ไปว่า 100/100 ก็ได้ไหม แต่โยกับจิกะดันบอกว่าจริงๆ ของจิกะ 100+โย 100 แล้วมันจะเท่ากับ 100 ได้ยังไง จนรูบี้รู้สึกรำคาญสองคนนี้ ขอร้อง เพื่อนทำอะไร

พอมีสติคุยกันทุกคนก็เริ่มสงสัยว่าตอนนี้พวกตัวเองอยู่ที่ไหน เรามาเกาะร้างได้ยังไง หรือนี่จะเป็นสวนสนุกดะไซฟุ (だざいふ遊園地 เป็นสวนสนุกที่อยู่จ.ฟุคุโอกะ) แต่คุยไม่ได้คำตอบสักที ตัวอนิเมชันจิกะจึงหันมาคุยกับคนดูแทนค่ะ โดยจิกะจะลองคอลชารอนโทโมะ (ที่พิมพ์ไปข้างบน) แล้วให้ผู้ชมตอบกลับไป เราว่าเป็นการ interact ที่น่าสนใจดี จังหวะเป๊ะมาก แต่ถามชารอนโทโมะไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี โยจิกะชิลมากจนรูบี้เร่งให้รีบไปจากที่นี่ เรามีที่ที่ต้องไปนะ แต่โยกลับบอกว่า “ที่ที่ต้องไปหมายถึงสวนสนุกคาชิอิคาเอ็นรึเปล่า” (かしいかえんシルバニアガーデン เป็นสวนสนุกที่อยู่จ.ฟุคุโอกะเช่นกัน) จิกะก็พาออกทะเลด้วยการบอกว่า “จริงๆ โยจังมีที่ที่อยากไปมากกว่านี้อยู่นี่นา” ซึ่งโยก็รับมุกด้วยเพราะมีที่ที่อยากไปมากกว่าจริงๆ คือพิพิธภัณฑ์ริมทะเลของท่าเรือฮากาตะ (博多港ベイサイドミュージアム) แต่พิพิธภัณฑ์นี้ปิดปรับปรุงอยู่ ทำให้โยไปไม่ได้ค่ะ

ก่อนที่เพื่อนจะพากันออกทะเลไปไกล รูบี้ก็พยายามดึงให้สองคนนั้นกลับมาคุยหาทางไปจากเกาะนี้ แต่โยจิกะดันบุลลี่รูบี้ซะจนรูบี้ปวดหัว… ระหว่างนี้มีจิกะที่พูดจาเลียนแบบกิลตี้คิสด้วย (น่าจะแนวๆ พวกเราโดนอัญเชิญมาที่เกาะนี้) ส่วนโยบอกว่าพวกเราโดนเทเลพอร์ตมาหรือเปล่า แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งคู่…

จิกะที่ฟังเพื่อนพูดแล้วเดินไปเจอถ้ำแห่งหนึ่ง แล้วเสนอให้ลองเข้าไปข้างใน เผื่อจะเจออะไรขึ้นมาบ้าง ในตัวถ้ำมืดตื๋อ เดินมาเรื่อยๆ ก็ดูไม่เจออะไร ควรกลับออกไปไหม แต่ขณะที่คิดอย่างนั้น จิกะก็เจอศิลาจารึกในถ้ำ!? แต่ในถ้ำมืดจนมองไม่เห็น จิกะจึงขอร้องให้ทุกคนในฮอลช่วยเปิดแท่งไฟสีส้มเพื่อส่องว่าบนศิลาเขียนไว้ว่าอะไร จนอนิเมบนจอสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนขาวโพลนแล้วตัดเข้าเพลงโซโล่เลย

7. One More Sunshine Story – Takami Chika (CV.Inami Anju)

หลังจอสว่างไป อันจังก็โผล่มาเลย พาร์ทนี้ทุกคนจะมาพร้อมกับชุดโซโล่เลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดอันจังน่าจะอยู่บนเวทีครึ่งเพลง อีกครึ่งเพลงนั่งรถเลื่อนไปฝั่งขวา อันจังเต้นดุ๊กดิ๊กดีค่ะ เป็นเพลงที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ไลฟ์ 4 แล้ว ถือว่าเป็นบุญที่ได้เห็นเด็กๆ แสดงสดเพลงโซโล่ตั้ง 3 คนแน่ะ

8. RED GEM WINK – Kurosawa Ruby (CV.Furihata Ai)

ด้วยความไบแอสที่มีอันล้นพ้น อยากสแปมคำว่าน่ารักสัก 10 บรรทัดแต่ก็ดูไร้แก่นสารเกินไป เอาเป็นว่าน่ารักมากค่ะ กิมมิคที่มีในเพลงรูบี้มี 2 อย่าง อย่างแรกคือการที่ไอไอเปิดตัวที่เวทีกลาง แบบโผล่ออกมาจากกล่องของขวัญกล่องใหญ่ๆ (…) กับอีกอย่างคือท่อนพูดท้ายเพลงที่จะเปลี่ยนไปทุกรอบการแสดง ถ้าเป็นในซีดีปกติจะร้องว่า「な、なんだろうこの気持ち。ル、ルビィに、ルビィに教えて!(ความรู้สึกนี้คืออะไรกันนะ ช่วยบอกให้รูบี้รู้ทีสิ)」แต่การแสดงรอบนี้จะร้องว่า「あなたの事が、大好きです!(ชอบเธอที่สุดเลย)」จู่ๆ ลูกก็บอกรัก ไม่ทันตั้งตัวเลย ตอนได้ยินเข่าแทบทรุด อยากร้องอ้ากออกมาดังๆ ตรงนั้น (ซึ่งถามว่าร้องมั้ย ร้อง ทุกคนก็ตายกันหมด สิ้นใจ) ไม่พอ ตอนท้ายๆ ยังนั่งรถเลื่อนมาทางฝั่งซ้ายอีกด้วย!! แต่ไปตรงโซนหลังเลย

อย่างไรก็ตาม โมเมนต์วินาทีชีวิตไม่ได้มีแค่จ้องแผ่นหลัง เพราะหลังจบเพลง รถเลื่อนจะมาจอดแถวๆ โซน Y ฝั่งซ้าย แล้วไอไอจะวิ่งลงจากรถเลื่อน ออกประตูตรงแถวๆ โซน R ด้านหน้าเราหน่อย เราก็เลยได้เห็นโอชิตัวเร้กวิ่งดุ๊กๆ ในระยะเอื้อมถึง TTTT เหมือนแต้มบุญจะหมดที่ตรงนี้แล้ว น้องน่ารักมาก เป็นช่วงที่กำลังจะขึ้นเพลงโยจังพอดี ตอนไอไอวิ่ง ไอไอทักทายคนดูด้วยนะ!!

9. Beginner’s Sailing – Watanabe You (CV.Saito Shuka)

ถึงเด็กคนนี้จะอยู่แต่เวทีหลัก แต่พลังล้นเหลือมาก ชูกะวิ่งวนรอบเวทีแล้วร้องเพลงเสียงไม่ตกเลย เป็นเพลงที่ดูเพลินอีกเพลงหนึ่งเลยค่ะ

MC ชุดโซโล่

พอจบแล้วทุกคนจะกลับไปรวมกันที่เวทีหลัก พูดถึงเรื่องชุดโซโล่

อันจัง: ส่วนที่ชอบคือส่วนกระโปรงที่พองๆ เลยส่ายกระโปรงไปมาให้ทุกคนดู กับแนะนำชุดว่าเหมือนเจ้าหญิงมั้งนะ

ชูกะ: หมุนตัวให้ชายชุดหมุนตาม บอกว่าเพลงโซโล่ของโยมีท่าเต้นที่บ่งบอกถึงทุกคน (น่าจะในชารอนอย่างเดียว?) ด้วยนะ

ไอไอ: เป็นกระเป๋าอิตะแบ็ก (แบบนี้) แถมขอบพื้นรองเท้ามีไฟติดอยู่ ถ้าเอาน้ำหนักลงเท้าแล้วส่วนตรงนั้นจะมีแสง (กรุณานึกภาพรองเท้าเด็กอายุน้อยๆ แบบนั้นเลย-) กับคทาเองก็มีแสงด้วย

ตรงส่วนกระเป๋า จากเดิมจะติดแค่เข็มกลัดรูบี้ แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นติดเข็มกลัดทุกคนในชารอนค่ะ มีอันจังแซวว่าแฟนคลับบางคนติดเข็มกลัดที่กระเป๋าเยอะกว่ากระเป๋ารูบี้จังอีก (…)

10. Aqours☆Heroes → 11. P.S.の向こう側

อันนี้เราไม่แน่ใจว่าใส่ชุดอะไร แต่น่าจะเป็นชุดโซโล่?

ที่จำได้หลักๆ จะอยู่เพลง P.S.の向こう側 เพลงนี้เป็นเพลงแถมเมื่อซื้อบลูเรย์เลิฟไลฟ์ซันไชน์ภาค 1 ที่ร้านเกมเมอร์ครบเซ็ต เนื้อเพลงจะพูดเกี่ยวกับการส่งโปสการ์ด ซึ่งในไลฟ์นี้ท่อนดนตรีคั่นนานๆ ก่อนเข้าฮุคจบจะเป็น 3 คนที่ได้โปสการ์ดใบยักษ์มาคนละใบ (ขนาดน่าจะสัก A3) แล้วทำหน้าหนักใจว่าจะเขียนอะไรลงในโปสการ์ดดี จนสุดท้ายก่อนอันจังร้องท่อน「返事なんかいらないけど」3 คนนี้จะพลิกโปสการ์ดมาโชว์ให้ผู้ชมเห็นว่าเขียนอะไรลงไปบ้าง เข้าใจว่าดึงมาจากเนื้อร้อง แต่ของชูกะไม่มีตรงกับในเนื้อร้อง ไม่ก็เราจำผิด (…)

อันจัง → เขียนว่า 「お元気ですか」(สบายดีไหมคะ)

ชูกะ → เขียนว่า “I miss you”

ไอไอ → เขียนว่า 「P.S.どうもありがとう」(P.S.ขอบคุณนะ)

DRAMA PART ②

เนื้อเรื่องต่อจากอันแรก หลังจิกะอ่านศิลาจารึกก็ไม่เกิดอะไรขึ้น แต่เหมือนจะได้บัฟเพิ่มเงินเหมือนในเกม RPG และจิกะก็ได้รับดาบส้มในตำนาน รูบี้ผู้รับหน้าที่นักตบมุกจึงต้องตบมุกว่าจิกะจังจะเอาดาบไปสู้กับใคร แล้วจิกะบอกว่าจะใช้ตัดไม้สร้างบ้านบนเกาะร้างเกาะนี้ แต่จะว่าไปรูบี้จังก็ใช้เวทมนตร์ได้ไม่ใช่เหรอ เพราะกัมบารูบี้คือเวทมนตร์อย่างหนึ่งไง พอรูบี้ลองใช้ก็ดันใช้ได้จริงๆ ซะอีก รูบี้จึงอัญเชิญภูต (หรืออะไรสักอย่างนี่แหละ) จนทุกคนได้ยินเสียงกระซิบสุดท้ายของภูต บอกว่าพวกชารอนมีอนาคตที่เปล่งประกายรออยู่ แต่ยังไม่ทันไร จิกะก็ทำศิลาจารึกหัก เลยเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน

กลับมาที่ความเป็นจริง รูบี้บอกว่าเราต้องเอาชีวิตรอดในเกาะร้างนี้ให้ได้นะ ระหว่างนั้นโยก็ล้มไปเพราะหิว แล้วสิ่งที่อยากกินคือแฮมเบิร์กในตำนาน (หมายถึง 金の直火焼ハンバーグ ที่โยเคยพูดโฆษณาให้ เป็นแฮมเบิร์กของเซเว่นญี่ปุ่น) รูบี้จึงตบมุกว่าอยู่เกาะร้างแล้วอย่าเลือกกินจะได้ไหม!! อย่างไรก็ตาม จะออกจากเกาะนี้ได้เราคงต้องสร้างเรือ โดยมีโยเป็นกัปตัน รูบี้เป็นรองกัปตัน ส่วนจิกะเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว (ไม่มีตำแหน่งตายตัว ต้องทำทุกอย่างนะ) ในจังหวะที่จะต่อเรือ สามคนนี้ก็เหลือบไปเห็นเรือพายลำหนึ่ง เพียงเรานั่งเรือลำนี้แล้วพายออกไปเราก็จะออกจากเกาะนี้ได้แล้ว แต่ก็ไม่วายสงสัยอยู่ดีว่านี่เป็นเรือของใคร ของพี่ชิมะเหรอ แต่จะของใครก็ช่าง พายเรือกันเลยดีกว่า ถึงตรงนี้น่าจะล้อคอนเซปต์ Aqours เพราะจิกะบอกว่า “หลังจากนี้จะไปได้สวยไหมไม่รู้ แต่จะตามหาอนาคตที่เปล่งประกายต่อไป” พร้อมกับขอแสงสีส้มจากแท่งไฟของคนดูอีกหนึ่งรอบให้จอขาวแล้วตัดเข้าการแสดง

12. 近未来ハッピーエンド → 13. 太陽を追いかけろ Ver. CYaRon!

รอบนี้มาในชุดซิงเกิล 2 เป็นอีกสองเพลงที่คอลสนุกค่ะ ชอบมากโดยเฉพาะคินมิไร ดีดสุดอะไรสุด ส่วนไทโยเวอร์ชันชารอน ถ้าเป็นฉบับออริจะเป็นจิกะเรียกรวมพล Aqours แต่ในไลฟ์นี้จะเรียกรวมพลชารอน 3 คนแทน น่ารักมากค่ะ!!!!!!

วิดีโอคั่น

เป็นวิดีโอถ่ายทำนอกสถานที่ของอันจัง ชูกะ ไอไอค่ะ สถานที่ถ่ายทำคืออาซาคุสะฮานะยาชิกิ (浅草花やしき) เป็นสวนสนุกที่อยู่ในโตเกียว ที่รูปแบบการดำเนินรายการคือพา 3 คนนี้ไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ แล้วระหว่างทางจะมีหนึ่งคนที่ขอตัวไปทำอะไรสักอย่าง แล้วจะตัดฉากเป็นสัมภาษณ์เดี่ยวคนนั้นค่ะ เท่าที่เราจำได้คือ 3 คนนี้ได้นั่งม้าหมุนด้วยกัน ไอไอกับอันจังนั่งเรือเป็ด (แบบไม่ต้องถีบ) เรือลอยฟ้า อันจังกับชูกะขับเครื่องเล่นแท็กซี่ (มีตะโกนแซวไอไอแบบพวกกุ๊ยเรียกสาวน้อยด้วย) ไอไอกับชูกะจะเล่นคาร์นิวัลแต่มันปิดปรับปรุง (เรียกไม่ถูก ภาษาไทยคืออะไร…) แล้วปิดท้ายด้วยรถไฟเหาะค่ะ

ตรงส่วนสัมภาษณ์แยกเราไม่ได้จดไว้เลยจำไม่ค่อยได้ว่าพูดถึงอะไรบ้าง แต่ก็จะถามเกี่ยวกับเรื่องยูนิต เรื่องจัดไลฟ์ที่ฟุคุโอกะ ความรู้สึกที่มีต่อการจัดไลฟ์ยูนิตครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่หลงเหลือในความทรงจำมีแค่ทุกคนพูดตอบดีมาก เลยอยากตั้งใจฟังมากกว่าฟังไปจดไป แหะๆ

ส่วนไฮไลท์ของวิดีโอนี้คือตอนเล่นรถไฟเหาะค่ะ ทั้ง 3 คนจะสวมหมวกกันน็อคแบบในรูปที่เราวาด คือตรงหมวกจะมีขายึดกล้องยื่นออกมา ให้กล้องถ่ายในมุมที่เราจะเห็นหน้านักพากย์อย่างชัดเจน ซึ่งภาพจะตัดไปตั้งแต่รถไฟเหาะเริ่มขึ้น แล้วทุกคนโดยเฉพาะไอไอทำหน้าเลิ่กลั่กค่ะ

14. Braveheart Coaster

ปูทางมาขนาดนี้แล้ว เพลงต่อมาคือเบรฟฮาร์ทโคลสเตอร์ที่เป็นชื่อไลฟ์นั่นเอง! คราวนี้มาในชุดซิงเกิล 3 ที่ตอนดูอาร์ตรู้สึกเฉยๆ แต่ทีมทำคอสตูมทำออกมาสวยอลังการจนตกใจ (…) มีตำนานเมืองบอกว่าจุดพีคของเพลงนี้คือสิ่งที่คนในฮอลสัมผัสได้เท่านั้น คือตอนท่อนฮุคที่ร้องว่า「忘れたくないBraveheart」ภาพบนจอใหญ่จะตัดกลับมาที่วิดีโอหน้านักพากย์เล่นรถไฟเหาะ ในจังหวะที่รถไฟเหวี่ยงเต็มๆ เห็นเขาบอกว่ากล้องไลฟ์วิวจะถ่ายไม่ติดจอนี้ แต่คนที่ดูไลฟ์ในที่จริงจะได้สัมผัสความมีมจนโฟกัสไม่ถูกว่าควรดูเด็กเต้นหรือควรดูจอที่แฉหน้าเด็กกันแน่ ก็ขอให้นึกภาพหน้าคนเล่นรถไฟเหาะเหวี่ยงๆ อะค่ะ อันจังกับชูกะยังพอทนได้ ไอไอนี่ถึงขั้นหน้าโดนเซ็นเซอร์เพราะทำหน้าในขั้นที่เอามาออกอากาศไม่ได้ สารภาพว่าตอนเห็นครั้งแรกก็ทึ่งจนจำพวกท่าเต้นไม่ค่อยได้ จำได้แต่วิดีโอจอใหญ่ ภาพติดตามาก 55555555555

15. コドク・テレポート

เพลงนี้น่ารัก!! น่ารักมาก!! เป็นเพลงที่เสียงน่ารักจนอยากลงไปดิ้นแด่วๆ เดี๋ยวนั้นเลย ฮือ

MC

ถ้าจำไม่ผิดคือโชว์ชุดใหม่กับบอกว่าไลฟ์ใกล้จบแล้ว นอกนั้นไม่ได้จดอะไรไว้เลย…

16. Jump up HIGH!! → 17. ユメ語るよりユメ歌おう

ฟังถึงตรงนี้แล้วคิดว่าเป็นเซ็ตลิสต์ที่ดีมากจริงๆ เหมือนหยิบทุกเพลงที่ชอบ อยากคอล อยากร้องมาไว้ด้วยกันหมดเลย 55555 ถึงจะซื้อของเซ็ตใหม่ที่เป็นชารอนโดยเฉพาะไม่ทัน แต่ก็ได้หมุนๆ ผ้าขนหนูไลฟ์ 5 ที่พกไปด้วย เป็นอีกอย่างที่อยากทำมาตลอดเลยค่ะ เพลง ED ก็เหมือนกัน ดีใจที่ได้ฟังตรงนี้นะ!!

อังกอร์

18. Pops heartで踊るんだもん! → MC ทิ้งท้าย → 19. サクラバイバイ

ด้วยความสัตย์จริงคือความทรงจำตรงนี้ค่อนข้างเป็นศูนย์แล้ว… ที่จำได้รางๆ คือใส่ชุดอังกอร์ (เสื้อไลฟ์แบบตกแต่งสวยงาม) กับ MC นี้เป็น MC ขอบคุณ แต่พูดไม่ยาวมากล่ะค่ะ


ตัดจบได้ห้วนจนเสียใจที่ความทรงจำปลาทองเลยค่ะ… รวมๆ คือคิดว่าตัดสินใจถูกแล้วที่มาดูไลฟ์ครั้งนี้ ถึงจะมองอะไรแทบไม่เห็น แต่ได้เรียนรู้แล้วค่ะว่าการไปไลฟ์เอาบรรยากาศล้วนๆ เป็นยังไง 5555555 ไลฟ์ที่เคยไปก่อนหน้าอยู่ในจุดที่ค่อนข้างมองเห็นมาตลอด พอมาเจองี้แล้วช็อกนิดนึง แต่ก็เข้าใจว่าเป็นธรรมดาของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ขอโทษนะที่กรรมพันธุ์ทางบ้านให้ส่วนสูงมาได้แค่นี้จริงๆ ; w ; กว่าแผ่นจะออกคงอีกนานแหงๆ เพราะน่าจะรอไลฟ์อาเซเลียกับไลฟ์รวมทุกยูนิตได้ก่อนถึงรวมเป็นบลูเรย์กล่องเดียว ของมันดีจริงๆ ค่ะทุกคน อยากให้ทุกคนได้ดู เสียดายที่ตัวไลฟ์ยูนิตไม่มีไลฟ์วิว/ดีเลย์วิวในไทยเลย TwT

ส่วนด้านบนเป็นรูปของติ่ง (?) ที่พบเจอหลังไลฟ์ตอนเที่ยวในฟุคุโอกะค่ะ มีทั้งตู้เครนเกมในห้างแถว JR สถานีเทนชิน คาเฟ่โคลาโบ พาเนลชารอน (ที่ถ่ายมาแค่รูบี้ ไม่มีเวลาหาโยกับจิกะเลย…) แล้วก็ธงผ้าลายเซ็น Aqours ตอนโคลาโบกับคาราโอเกะจอยน์ซาวน์ค่ะ ค้นรูปดูตอนนี้แล้วคิดถึงมาก กับมานั่งคิดว่าทำไมตอนอยู่ฟุคุโอกะถึงไม่ไปตามรอยสวนสนุกที่ชารอนไปกันนะ เสียดายตอนนั้นคิดไม่ทันเพราะเหนื่อยมาก เป็นไลฟ์ที่เหมือนเข้าไปฝึกตน

ความลำบากหลักๆ นอกจากเราที่ตัวไม่สูงเองแล้วก็คือการใส่หน้ากากอนามัยนี่แหละค่ะ เอาจริงๆ ระหว่างไลฟ์มีคนถอดหน้ากากเยอะมาก ส่วนเราคือคนที่ลดหน้ากากลงบางครั้งเพราะหายใจไม่ออกจริงๆ คอลก็ต้องตะโกน หายใจก็ไม่ค่อยได้เพราะฮอลเป็นที่ปิด อึดอัดและร้อนจนหลังไลฟ์ไปเราไม่สบายเลยค่ะ (เป็นหวัดธรรมดา ไม่ได้เป็นโควิดนะ!!) ขอให้โลกกลับมาสงบไวๆ ด้วยเถ้อ คิดถึงบรรยากาศตอนไปไลฟ์ ฮือ

ยังไงก็ขอให้ทุกคนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้รักษาสุขภาพให้แข็งแรงกันทุกคนนะคะ มามีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อรอดูไลฟ์เด็กๆ แบบไม่ต้องใส่แมสก์แล้วส่งเสียงตะโกนได้แบบปกติกันเถอะค่ะ!

คอมเมนต์กัน!